xs
xsm
sm
md
lg

อดีต เสธ.ทร.จี้รื้อถอนเขื่อนกันคลื่นเขมรให้สิ้นสภาพ อย่าปล่อยไว้ให้เป็นภาระคนรุ่นหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พล.ร.อ.พัลลภ” เร่ง จนท.ไทยติดตามให้กัมพูชารื้อทำลายเขื่อนกันคลื่นใกล้หลักเขต 73 ให้สิ้นสภาพ อย่าให้เป็นภาระต่อคนรุ่นหลัง ชี้หากปล่อยไว้ไทยจะเสียอาณาเขตทางทะเลให้กัมพูชาแน่ เพราะส่งผลต่อเส้นเขตแดนทางทะเลตามหลักกฎหมายสากล

จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยอมรื้อเขื่อนกันคลื่นในทะเลใกล้หลักเขตที่ 73 บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นั้น พลเรือเอก พัลลภ ตมิศานนท์ อดีตเสนาธิการทหารเรือ และอดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “พัลลภ ตมิศานนท์” แสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า ต้องรื้อถอนเขื่อนกันคลื่นเขมรบริเวณใกล้หลักเขต 73 ให้สิ้นสภาพ

“20 ธ.ค.68 การดำเนินการเพิ่งเริ่มต้น ควรรื้อถอนทำลายออกไปให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่หลักเขต 73 ใกล้กับสิ่งก่อสร้างนี้

“หวังว่าเจ้าหน้าที่ไทยจะติดตามให้มีการดำเนินการรื้อถอนทำลายสิ่งก่อสร้างนี้อย่างเข้มข้นและจริงจังจนกว่าจะสิ้นสภาพ …ให้มันจบในรุ่นเราครับ” อดีตเสนาธิการกองทัพเรือระบุ

ทั้งนี้ เขื่อนกันคลื่นแห่งนี้เขมรได้ก่อสร้างยื่นล้ำเข้ามาในทะเลอาณาเขตไทยตามประกาศพระบรมราชโองการปี 2516 โดยใช้เส้นที่ลากจากหลักเขต 73 ออกสู่ทะเลในแนวทิศ 211 ซึ่งจะห่างจากเกาะกูดของไทยและเกาะกงของเขมรเป็นระยะทางเท่ากันตามหลักการเส้นมัธยะ (ตามภาพ)


โดยกัมพูชาเริ่มก่อสร้างช่วงปี 2540 - 2541 เป็นเขื่อนหินทิ้งกันคลื่นยาว 508 เมตร กว้าง 12 เมตรสําหรับพื้นที่จอดเรือตามโครงการก่อสร้างท่าเรือรองรับสถานบันเทิงที่ จ.เกาะกง ฝั่งเขมร ซึ่งอยู่ใกล้หลักเขต 73 บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จังหวัดตราด

เขื่อนนี้จะสร้างปัญหาในอนาคตเพราะตามกฎหมายทะเลแล้ว สิ่งก่อสร้างนี้อาจถือเป็นส่วนของฝั่งทะเลที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งจะทําให้เขมรได้พื้นที่ทางทะเลเพิ่มขึ้นโดยผิดธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อการเจรจาแบ่งเขตทางทะเลระหว่างกัน

กระทรวงการต่างประเทศของไทย ทําหนังสือประท้วงเมื่อปี 2541 2 ครั้ง ปี 2564 อีก 1 ครั้ง แจ้งว่าเขื่อนดังกล่าวล้ำเข้ามาในทะเลอาณาเขตไทยจึงขอให้รื้อถอน แต่เขมรตอบว่าไม่ล้ำอาณาเขตและจะไม่รื้อถอน ดังนั้นเขื่อน/รอดักตะกอนนี้ จึงยังคงสภาพเช่นนี้อยู่จนปัจจุบัน

ด้วยสถานการณ์ปะทะตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร ทําให้เมื่อ 20 ธ.ค.2568 เอกชนเขมรเจ้าของสิ่งก่อสร้างนี้ตัดสินใจ ดําเนินการรื้อทําลายเขื่อนกันคลื่นแห่งนี้เอง

วันที่ 20 ธ.ค.68 การรื้อทําลายเขื่อนกันคลื่นนี้เพิ่งเริ่มขึ้น หวังว่าเจ้าหน้าที่ไทยจะติดตามอย่างเข้มข้นจริงจังจนกว่าจะสิ้นสภาพ อย่าปล่อยให้เป็นภาระกับรุ่นหลัง ให้มันจบในรุ่นเรา




กำลังโหลดความคิดเห็น