“สนธิ” วิเคราะห์ขีปนาวุธต้านรถถังจีนที่ทหารไทยยึดได้บนเนินใกล้ช่องอานม้า ไม่ใช่อาวุธล็อตใหม่ที่จีนส่งให้กัมพูชาเพื่อรบกับไทย เพราะในระยะหลังจีนเริ่มไม่พอใจกัมพูชา คาดเป็นอาวุธที่ BHQ จัดหามาเอง แต่ใช้ไม่ได้เพราะไม่มีรหัสปลดล็อกและไม่มีสัญญาณดาวเทียมสนับสนุนจากจีน “ฮุนเซน” จึงสั่งให้เอามาทิ้งไว้ แนะไทยปล่อยให้จีน-สหรัฐฯ งัดกันเองในกัมพูชา ส่วนไทยมีหน้าที่ยึดเอาดินแดนเราคืน และลงทุนพัฒนากองทัพของเราเอง หันไปเพิ่มความสัมพันธ์กับรัสเซียและอิหร่านมากขึ้น
ในรายการ“คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้วิเคราะห์กรณีทหารไทยสามารถตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนที่ทหารกัมพูชาทิ้งไว้บริเวณเนิน 677 ใกล้ช่องอานม้า ซึ่งเป็นระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี รุ่น GAM-102LR ขีปนาวุธนำวิถียุคที่ 5 ของจีน โดยบางกระแสข่าวระบุว่าอาจเป็นรุ่น GAM-102 รุ่นพื้นฐาน
ระบบขีปนาวุธดังกล่าวมีลักษณะการทำงานคล้ายกับขีปนาวุธ Javelin ของสหรัฐอเมริกา โดยรุ่น LR เป็นรุ่นอัปเกรดจาก GAM-102 ซึ่งปรากฏครั้งแรกตั้งแต่ปี 2561 มีการเพิ่มพิสัยการยิงและความแม่นยำของระบบนำวิถี
GAM-102 ถูกจัดอยู่ในกลุ่มขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านยานเกราะรุ่นที่ 5 มีน้ำหนักประมาณ 30–50 กิโลกรัม พิสัยยิงราว 4–6 กิโลเมตร เป็นอาวุธอเนกประสงค์ สามารถติดตั้งบนยานพาหนะ หรือใช้ยิงจากฐานเคลื่อนที่แบบสามขา โดยมีเทคโนโลยีอินฟราเรด ระบบค้นหาเป้าหมายขั้นสูง การเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สาย และความสามารถในการเปลี่ยนเป้าหมายระหว่างการบิน รวมถึงการโจมตีแบบประสานงานผ่านเครือข่าย
มีรายงานว่า ขีปนาวุธดังกล่าวมีราคาประมาณลูกละ 112,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.5 ล้านบาท และถือเป็นภัยคุกคามอย่างมีนัยสำคัญหากถูกนำมาใช้งานในพื้นที่ชายแดน
อาวุธรุ่นนี้ผลิตโดยบริษัท Poly Defense ในเครือ Poly Technologies ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของจีน มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า ทหาร ร.17 พัน.2 ของไทย สามารถยึดอาวุธสัญชาติจีนอื่น ๆ ได้อีกจำนวนหนึ่ง บริเวณเนิน 500 ช่องอานม้า อาทิ เครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพา และกระบอกบรรจุลูกระเบิด
กรณีดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีบางเพจทางทหารและประชาชนบางส่วนตั้งข้อสังเกตถึงบทบาทของจีนในการจำหน่ายอาวุธให้ทั้งไทยและกัมพูชา อย่างไรก็ตาม นายสนธิระบุว่า การที่กองทัพไทยตรวจยึดอาวุธของฝ่ายตรงข้ามได้นั้นเป็นเรื่องปกติในสถานการณ์การสู้รบ
ทั้งนี้ กองทัพไทยเองก็ใช้อาวุธจากจีนจำนวนมาก อาทิ รถถังหลัก VT-4 ยานเกราะล้อยาง VN-1 เรือหลวงช้าง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือไทย รวมถึงระบบจรวดหลายลำกล้องนำวิถี DTI-1G ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากจีน
นายสนธิยังตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติในการนำอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าสูงอย่าง GAM-102 ไปทิ้งไว้บนพื้นที่สูงใกล้ช่องอานม้า โดยชี้ว่า อาวุธดังกล่าวปกติควรใช้งานจากยานเกราะหรือเรือ ไม่ใช่อาวุธที่สามารถแบกบ่าใช้งานได้ง่าย
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ที่แปลกใจก็คือ ทำไมเขมรถึงนำอาวุธไปทิ้งเรี่ยราดที่ช่องอานม้า ให้ทหารไทยยึดไปได้อย่างไร และน่าแปลกใจมากกว่านั้นคือ GAM-102 ต้องยิงจากฐานรถหุ้มเกราะ หรือเรือรบ ไม่ใช่แบกบ่ายิงได้แบบเครื่องยิงระเบิดโบราณ จึงมีคำถามว่าเขมรลากอาวุธนี้ขึ้นไปเนิน 677 และทิ้งขีปนาวุธ 1 ลูก รวมทั้งเครื่องยิง มูลค่าถึง 5 ล้านบาท ไว้ให้ดูต่างหน้าทำไม ?
นายสนธิเชื่อว่า อาวุธดังกล่าวน่าจะไม่ใช่อาวุธที่จีนส่งมอบให้กัมพูชาหลังการปะทะกับไทยตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เป็นอาวุธที่จัดหาหรือส่งมอบกันก่อนหน้านั้นแล้ว
นายสนธิวิเคราะห์ว่า ในระยะหลังรัฐบาลจีนเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองกับกัมพูชา และมาเลเซียมาก จากการที่กัมพูชากับมาเลเซีย ไปลงนามการค้าและกลาโหมกับสหรัฐฯ โดยในข้อตกลงนั้นยังบีบให้ 2 ประเทศ ดำเนินการกีดกันสินค้าเทคโนโลยีที่อ่อนไหวจากประเทศจีน ขณะที่นายอันวาร์ อิบราฮิม ก็ถูกจีนฉีกหน้ากากตั้งแต่ประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้ได้ 2 วัน หลังจากที่ประชุมอาเซียนส่งผลให้กัมพูชาและมาเลเซีย ได้รับหนังสือเตือนอย่างเป็นทางการจากความกังวลของจีน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ว่า จีนเป็นกังวลอย่างยิ่งที่มาเลเซีย และกัมพูชา ลงนามผูกพันความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศกับสหรัฐอเมริกา เท่ากับ 2 ประเทศอาเซียน ทำให้ภูมิภาคอาเซียนเป็นศูนย์กลางทวีความรุนแรงขัดแย้งกับมหาอำนาจคู่แข่ง
“ผมไม่เชื่อว่าจีนจะส่งอาวุธล็อตใหม่ที่มีเทคโนโลยีสูงให้กัมพูชา ความเป็นไปได้มีอย่างเดียว คือ กัมพูชาจัดหา GAM-102 ไว้สำหรับกองกำลังพิทักษ์ ฮุน เซน (BHQ) ไว้ใช้งาน แต่เมื่อไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากไม่มีรหัสปลดล็อก หรือไม่มีสัญญาณดาวเทียมจากจีนสนับสนุนการใช้อาวุธนำวิถี ฮุน เซน ก็เลยให้กองกำลังของตนเองลากไปทิ้งไว้บนเนิน ใกล้ช่องอานม้า ตั้งใจว่าเทคโนโลยีล้ำยุคของจีนรั่วไหลไปถึงวอชิงตัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนั้น เป็นเหตุเดียวกับที่ผมนึกได้ว่าทำไมกัมพูชาถึงไม่ใช้ขีปนาวุธไฮเทคราคาแพงชนิดนี้ มิหนำซ้ำยังทิ้งอาวุธร้ายแรง ราคาแพง ไว้ให้ไทยยึดได้ง่ายๆ” นายสนธิ กล่าว
นอกจากนี้ อีกทางหนึ่ง นายสนธิ กล่าวว่า หลังจากเปิดการรบรอบแรกในเดือนกรกฎาคมมาจนถึงวันนี้ที่การรบรอบสองล่วงเลยมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ทั้งๆ ที่กองทัพกัมพูชาได้รับมอบระบบจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 จากจีนมาตั้งนานแล้ว ซึ่งจรวดชนิดนี้มีอำนาจทำลายล้างสูงมาก และกองทัพไทยก็หวั่นเกรงอยู่ว่าอาจจะมีการใช้ตอบโต้กับไทย แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่ใช้สักที
“ผมเชื่อว่าเป็นข้อจำกัดที่จีนกำหนดให้กัมพูชาไม่ให้ใช้อาวุธหนักเช่นนี้โจมตีไทย ทำให้ผมไม่เชื่อว่าจีนกำลังเสี้ยมอยู่เบื้องหลัง ฮุน เซน และกองทัพกัมพูชา เพราะวันนี้จีนกำลังหงุดหงิดกัมพูชา และมาเลเซีย ที่เข้าไปยืนข้างอเมริกามากจนเกินไป” นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ แสดงความคิดเห็นถึงบทบาทของสหรัฐอเมริกาและจีนต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากัมพูชากำลังพึ่งพิงสหรัฐอเมริกาอย่างมาก และสหรัฐฯ มีท่าทีสนับสนุนให้กัมพูชายืนอยู่ฝ่ายเดียวกับตนในประเด็นระหว่างประเทศ
นายสนธิกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เป็นประเทศแรกที่ออกมากล่าวหากัมพูชาว่าเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติระดับโลก โดยเฉพาะขบวนการสแกมเมอร์และอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งมีรายงานว่าสหรัฐฯ ได้อายัดทรัพย์สินดิจิทัลของกลุ่มดังกล่าวเป็นมูลค่ากว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนั้น ผู้นำสหรัฐฯ กลับไม่ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวอีก และยังมีท่าทีโน้มเอียงสนับสนุนกัมพูชาในเวทีระหว่างประเทศ
นายสนธิตั้งข้อสังเกตว่า หากสหรัฐฯ มองว่ากัมพูชาเป็นภัยด้านความมั่นคงและเป็นแหล่งอาชญากรรมโลกจริง ควรมีท่าทีสนับสนุนประเทศไทยอย่างชัดเจน แต่กลับพยายามเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าไปมีบทบาทในการเจรจาสันติภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่การแทรกแซงทางการเมืองโดยตรง
ขณะเดียวกัน นายสนธิระบุว่า จีนกำลังเผชิญความกังวลอย่างมากต่อกัมพูชา โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งแตกต่างจากกรณีการปราบปรามกลุ่มอาชญากรจีนเทาในเมียนมา เนื่องจากในกัมพูชามีเครือข่ายอาชญากรรมจากหลากหลายสัญชาติ ทั้งจากเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก ทำให้จีนไม่สามารถเข้าไปจัดการโดยตรงได้ และต้องพึ่งให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการแทน
“เป็นที่ชัดเจนแล้วในขณะนี้ว่า จีนกำลังปวดหัวกับกัมพูชามาก จีนปราบปรามจีนเทาที่พม่าได้ เพราะว่าจีนมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะสแกมเมอร์ที่เมียวดี หรือที่ชเวโก๊กโก่นั้น เป็นสแกมเมอร์เว็บพนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ ที่นำโดยจีนเทา จีนเข้าไปปราบได้เลย แต่ในกัมพูชานั้น มันเป็นระดับนานาชาติไปแล้ว พวกแก๊งสแกมเมอร์ต่างๆ มาจากหลายชาติเลย ไม่ว่าจะเป็นบังกลาเทศ อินเดีย แม้กระทั่งตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออกก็มา เพราะฉะนั้นแล้ว จีนไม่สามารถจะเข้ามาแล้วปราบปรามได้ เพราะว่าจีนต้องการให้ ฮุน เซน ปราบ แต่ฮุน เซน ไม่ยอมทำ เพราะว่าฮุน เซน เอาเงินจากสแกมเมอร์พวกนี้มาปรนเปรอตัวเอง และขณะเดียวกันก็เอาเงินวื้ออาวุธต่างๆ พวกนี้ที่กัมพูชามี ผมเชื่อว่าใช้เงินสแกมเมอร์ เพราะสแกมเมอร์มันกำลังใช้กัมพูชาเป็นฐาน เพราะมันรู้ว่า ฮุน เซน จะปกป้องมัน”
นายสนธิกล่าวว่า การเมืองระหว่างประเทศได้รุกล้ำเข้ามาในสงครามไทย-กัมพูชาอย่างมากแล้ว และเราควรปล่อยให้อเมริกาและจีน รบกันเองในเขมร เพราะว่าถ้ากัมพูชาทิ้งจีนแล้วไปอยู่กับอเมริกา จีนไม่ยอมแน่นอน เพราะว่าจีนลงทุนในกัมพูชาอย่างมาก เป็นเจ้าหนี้ถึงแสนกว่าล้านบาท คลองฟูนันเตโช จีนถือหุ้นอยู่ 49% สนามบินเตโช กู้เงินจีนมาทั้งหมดเพื่อสร้าง มิหนำซ้ำแล้วยังอีกหลายอย่างรวมทั้งอาวุธต่างๆ ที่จีนมอบให้
“ผมกลับเชื่อว่าระหว่างจีน กับอเมริกานั้น จะต้องยันกันไปยันกันมาในเขมร เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือบุกเข้าไปยึดพื้นที่ของเรา เงินทองเราอาจจะขาด แต่ว่าเราออกพันธบัตรเพื่อความมั่นคงของชาติ พันธบัตรปกป้องอธิปไตยชาติ อายุพันธบัตร 10 ปี เราสามารถจะ raise เงินขึ้นมาได้ทันทีเลย
“ถึงเวลาแล้วหรือยัง คุณอนุทิน ครับ ที่คุณจะต้องเริ่มติดต่อกับอิหร่าน เริ่มติดต่อกับรัสเซีย เปิดประเทศเป็นพวกกับเขา เพราะเรารบกับพวกนี้ กับเขมร อิหร่าน รัสเซีย ไม่เคยเข้ามายุ่งเลยแม้แต่นิดเดียว ที่อ้างว่ามีทหารรับจ้างจากรัสเซียมานั้น ไม่จริง เพราะทหารวากเนอร์ของรัสเซียส่วนหนึ่งถูกบูรณาการเข้าไปเป็นกองทัพปกติของรัสเซียแล้ว และอีกส่วนหนึ่ง ปูติน ก็ใช้บินไปที่ตะวันออกกลาง บินไปที่แอฟริกา บินไปช่วยบูร์กินาฟาโซ นายพลตราโอเร เพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้ายในแอฟริกา แต่ไม่ใช่เขมรกับไทย”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า อีกประการหนึ่ง ในเมื่อประเทศไทยเป็นสมาชิกอินโด-แปซิฟิก จีนก็ถามตัวเองว่า จะต้องไปปกป้องประเทศไทยทำไม เพราะประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกอินโด-แปซิฟิก เพื่อปิดล้อมจีน เพราะฉะนั้นแล้ว ในภูมิรัฐศาสตร์ในขณะนี้ เราต้องปรับปรุงกองทัพเรา เราต้องมีกองพลโดรน และเราต้องขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย ให้มาฝึกอบรมพวกเราในการสร้างโดรนต่อสู้ เพราะว่ารัสเซียได้ตั้งหน่วยงานโดรน ชื่อ รูบิคอน (Rubicon) โดยซื้อเทคโนโลยี Shahed จากอิหร่านมาเป็นฐานและพัฒนาต่อ
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ส่วนอิหร่านเราไปแซงก์ชันเขาเพราะอเมริกาขอให้แซงก์ชัน แล้วอเมริกาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเรา มีแต่กดขี่ข่มเหง ข่มขู่เรามาตลอด ถึงเวลาหรือยังเราควรจะเป็นอิสระเสรี เรากำลังจะร่วมกับ BRICS อยู่ตอนนี้ เราค้าขายกับ BRICS ก็ได้
“ผมถามว่าเราไปบอยคอต แซงก์ชันรัสเซีย และอิหร่าน ทำไปเพื่ออะไร เขาไม่ได้เป็นศัตรูกับเราเลย มิหนำซ้ำเขายังช่วยเราได้ ขายน้ำมันให้เราราคาถูก เราโง่พึ่งพิงอิงแอบกับประเทศอย่างอเมริกา วันนี้มันพิสูจน์ชัดแล้วว่าอเมริกาไม่ใช่เพื่อนเรา
“เราทำตัวเป็นเขมรไม่ได้ เพราะเขมรมันต้องการจะพึ่งอเมริกา เอาอเมริกามาบีบเรา ถ้ามันเอาอเมริกามาบีบเรา ทำไมเราไม่คบอิหร่าน และทำไมเราไม่เริ่มคบกับรัสเซียทันทีล่ะ เราก็เชิญรัสเซียมาสิ อนุทิน ถึงจะรักษาการก็ตาม น่าจะบินไปเยี่ยมปูติน ไปเยี่ยมผู้นำทางจิตวิญญาณของอิหร่าน ให้อเมริกามันมองเห็น ถ้ามึงซ่านัก เดี๋ยวกูจะดึงอิหร่าน กับรัสเซีย เข้ามาในประเทศไทย เราต้องเล่นเกมให้เป็น” นายสนธิกล่าว


