เพจดังเปิดโปงเครือข่าย IO กัมพูชา ใช้ AI สร้างภาพเท็จกล่าวหาฝ่ายไทยจัดฉาก หลัง “บิ๊กกุ้ง” อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่จริง ขณะที่สื่อหลักกัมพูชานำภาพปลอมเผยแพร่ซ้ำ ทำประชาชนหลงเชื่อและโจมตีไทยอย่างกว้างขวาง
วันนี้ (21 ธ.ค.) เพจ “army military force” เปิดเผยว่า เครือข่ายปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) ของกัมพูชา กำลังเผชิญภาวะเสียกระบวนอย่างหนัก หลังไม่สามารถยอมรับความจริงในพื้นที่ปราสาทตาควาย ล่าสุดถึงขั้นใช้ เทคโนโลยี AI สร้างภาพปลอม เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง กรณีที่ พล.ท. “บิ๊กกุ้ง” ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ปราสาทตาควายเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยเพจ IO กัมพูชาได้สร้างภาพปลอมให้ดูราวกับเป็นการจัดฉากถ่ายทำในสตูดิโอ ก่อนนำไปเผยแพร่เพื่อปั่นกระแสว่า ฝ่ายไทยกำลังหลอกลวงประชาชนของตนเอง พร้อมอ้างว่าอดีตแม่ทัพไทยไม่ได้ลงพื้นที่จริง และทหารกัมพูชายังคงสามารถควบคุมพื้นที่ปราสาทตาควายได้อย่างมั่นคง
สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรง เมื่อสื่อกัมพูชาหลายสำนัก โดยเฉพาะ BVTV นำภาพบิดเบือนดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ พร้อมใช้ถ้อยคำโจมตีไทยอย่างรุนแรง ส่งผลให้ประชาชนกัมพูชาจำนวนมากหลงเชื่อ เนื่องจากสื่อกระแสหลักนำเสนอข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน จนเกิดการตอกย้ำความเชื่อผิด ๆ ว่าเป็นความจริง
ผลจากการปั่นกระแสดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสคอมเมนต์เยาะเย้ย ดูหมิ่น และโจมตีคนไทยอย่างรุนแรงในโลกออนไลน์ พร้อมทั้งมีการแชร์ภาพปลอมต่อกันอย่างกว้างขวางบนแพลตฟอร์ม Facebook และ TikTok จนยอดแชร์พุ่งทะลุหลักหมื่นครั้ง
นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่าเครือข่าย IO ใช้ แอปพลิเคชัน Fresh AI ซึ่งเชื่อมโยงกับสื่อ Fresh News ภายใต้ระบบควบคุมข้อมูลแบบ Single Gateway ของรัฐบาลกัมพูชา มาอ้างยืนยันข้อมูลเท็จ โดยกลับกล่าวหาว่า ภาพจริงที่ฝ่ายไทยเผยแพร่เป็นภาพที่ถูกสร้างจาก AI ทั้งหมด เพื่อปิดกั้นการรับรู้ของประชาชนในประเทศตนเอง
ขณะเดียวกัน บนแอปพลิเคชัน Telegram กลุ่ม IO ยังคงเดินหน้าปล่อยข้อความซ้ำ ย้ำให้ประชาชนกัมพูชาเชื่อมั่นรัฐบาลและผู้นำประเทศ พร้อมกล่าวหาว่าฝ่ายไทยกำลังสร้างข่าวปลอมในสงครามจิตวิทยา
ทั้งนี้ เพจ “army military force” ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในสงครามข้อมูลข่าวสาร เพื่อปกปิดความจริงในสนามรบ และบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือพื้นที่ ปราสาทตาควาย ซึ่งในความเป็นจริงสถานการณ์ในพื้นที่สวนทางกับข้อมูลที่ถูกเผยแพร่โดยสื่อและ IO ของกัมพูชาอย่างสิ้นเชิง
