xs
xsm
sm
md
lg

เรียนรู้การทำถุงหอมจีนกับ 'สุมิตตา สันติอุปถัมภ์' ผู้หลงรักศาสตร์แห่งเครื่องหอม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


‘สุมิตตา สันติอุปถัมภ์’ ผู้หลงรักศาสตร์แห่งการทำเครื่องหอม





สมุนไพรในชวดแก้วมากกว่า 20 ชนิดวางเรียงรายบนโต๊ะ กลิ่นสมุนไพรหอมสดชื่นอวลกรุ่นท่ามกลางสายลมเย็นจากริมแม่น้ำเจ้าพระยา






โกฐจุฬาลัมพา โกฐหัวบัว โกฐกระดูก โกฐเขมา ผิวส้ม กานพลู โป๊ยกั๊ก อบเชย จันทร์หอม ดอกบัว ดอกดาวเรือง เปปเปอร์มินต์ โรสแมรี่ พิมเสนต้น ลูกผักชี กุหลาบ ลาเวนเดอร์ ดอกมะลิ จันทร์หอม ไม้จวงหอม กฤษณา
หญ้าหอมจีน ถูกบรรจุไว้ในขวดแก้วขนาดพอเหมาะ เพื่อการคัดสรร บรรจุลงใส่ถุงเครื่องหอมใบสวย


‘สุมิตตา สันติอุปถัมภ์’ ผู้หลงรักศาสตร์แห่งการทำเครื่องหอม
เมื่อเร็วๆ นี้ ‘สุมิตตา สันติอุปถัมภ์’ หรือ ‘จ๋า’ ผู้หลงรักศาสตร์แห่งการทำเครื่องหอมและผู้ร่วมก่อตั้งแฟนเพจโอภาษรวี นำอุปกรณ์ทำเครื่องหอมของเธอ จัดเรียงอย่างพิถีพิถัน ณ พิพิธตลาดน้อย ท่าน้ำภาณุรังษี เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจทำเครื่องหอมที่เข้ากับหลักธาตุเจ้าเรือนของแพทย์แผนจีน

‘สุมิตตา สันติอุปถัมภ์’ ผู้หลงรักศาสตร์แห่งการทำเครื่องหอม
เธอให้สัมภาษณ์พิเศษ กับ ‘ผู้จัดการออนไลน์’ ถึงวิธีการทำถุงหอมจีนที่มากด้วยคุณประโยชน์ มิใช่มีเพียงความสวยงามเท่านั้น การผสานองค์ความรู้ด้านสมุนไพรไทย สมุนไพรจีน และการผนวกกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยฟื้นฟู บำบัดเยียวยาร่างกายได้ดีขึ้น ทั้งบอกเล่าถึงความสนใจในศาสตร์เครื่องหอมที่เธอเรียนรู้อย่างลงลึกมายาวนานเกือบ 10 ปี 
รวมถึงกิจกรรมเป็นวิทยากรจิตอาสาให้กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง สอนเหล่าอาสาสมัครให้มีองค์ความรู้ด้านเครื่องหอม-สมุนไพรเพื่อใช้ในการทำยาดม มอบให้ผู้รับในวาระโอกาสต่างๆ




‘กลิ่น’ ผัสสะที่ทรงพลัง

“กลิ่น เป็นผัสสะที่ทรงพลัง มันสามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของเราได้ แล้วก็ส่งผลถึงความทรงจำระยะยาว เช่น ช่วงที่เราเติบโตมา เราได้อยู่ในสวนมะกรูดของคุณย่า เมื่อครั้งที่เราได้กลิ่นมะกรูด เราก็จะนึกถึงคุณย่า เมื่อเราได้กลิ่นอะไรขึ้นมาบางอย่าง เราอาจจะหวนระลึกถึงความทรงจำบางอย่างในช่วงวัยที่เรามีความรู้สึกดีๆ กับมันก็ได้ หรือบางครั้ง เราได้กลิ่นอะไรแล้วเรารู้สึกอบอุ่น ชุ่มชื่นหัวใจ หรือรู้สึกกระชุ่มกระชวย มีความสุข เพราะฉะนั้น กลิ่นมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราด้วยค่ะ เพราะทุกวันนี้ ชีวิตประจำวันของเราอาจดูเหมือนบีบเร่งเรา สังคมเมืองทุกอย่างดูเร่งรีบไปหมด เราอาจจะละเลยการเยียวยาและดูแลตัวเอง ก็อยากให้กลิ่นเป็นตัวนำพาให้เรามีสติ มาเยียวยาให้เรารู้สึกสดชื่น รู้สึกดี เมื่อท้อแล้ว ได้กลิ่นที่สดชื่นแล้ว กลับมามีพลังสู้อีกสักที เพราะกลิ่นมีพลังปรับเปลี่ยนความรู้สึกเราได้จริงๆ” สุมิตตาระบุ


กลางลมหนาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนโต๊ะที่ตั้งวาง นอกจากมีสมุนไพรในขวดแก้วมากกว่า 20 ขวดแล้ว ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ ถ้วยตวง ครกบุสมุนไพร โกร่งบดยา น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ


สุมิตตาเริ่มแนะนำวิธีการทำถุงหอมจีนที่เธอตั้งใจไว้เป็นพิเศษในวันนี้ โดยเริ่มจากแนะนำสมุนไพรบางชนิด

“วันนี้จ๋าจะมาแนะนำการทำถุงหอมจีน วันนี้ถุงหอมจีนน่ารักๆ แบบนี้ จะถูกอัดแน่นไปด้วยสมุนไพรหลายชนิด มีศาสตร์องค์ความรู้ที่ผสมผสานสมุนไพรไทยเข้าไปด้วย วันนี้เรามีสมุนไพรหลากหลายชนิดที่เป็นทั้งสมุนไพรจีนและสมุนไพรไทยเลยค่ะ”

“หลายๆ คนอาจจะอยากทราบว่า สมุนไพรจีนมีอะไรบ้าง ดูด้านหน้าจะเห็นหลายชนิดเลยค่ะ โดยบางชนิดจะมีใช้ในยาหอมต่างๆ ด้วย เรามีทั้งโกฐเขมา โกฐกระดูก โกฐหัวบัว ชะเอม มีกฤษณา แก่นจันทร์ ดอกไม้ต่างๆ พืชหอม…”


“สมุนไพรบางชนิด เช่น ลาเวนเดอร์ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เปปเปอร์มินต์ หลายคนอาจจะชอบ มีส่วนผสมในยาดมของเราด้วย กลิ่นให้ความหอมเย็นสดชื่น สมุนไพรหลายๆ ชนิดก็อยู่ในครัวเรานี่แหละอย่างเช่นอบเชยค่ะ นอกจากมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแล้ว ยังมีฤทธิ์ร้อน อุ่น ในตำรับยาไทย การทำยาดมก็จะมีอบเชยอยู่ในนั้นด้วย หรืออย่างเช่นดอกมะลิ นอกจากกลิ่นหอมแล้ว กินได้แล้ว ยังเป็นยาด้วย เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่นำมาทำยาหอมของไทย วันนี้เราก็จะนำมาทำถุงหอมจีนด้วยค่ะ”

“สมุนไพรจีนหลายชนิดก็มีใช้ในตำรับยาไทย เช่น โกฐหัวบัว โกฐเขมา โกฐกระดูก เครื่องหอมไทยตระกูลนวโกฐก็จะมีสมุนไพรเหล่านี้อยู่ด้วย กฤษณาที่เป็นไม้หอมก็มีอยู่ในตำรับยาไทยด้วยเช่นกัน มีความเชื่อมโยงสมุนไพรไทย สมุนไพรจีน ในการนำมาใช้ดูแลร่างกายของเรา” สุมิตตาบอกเล่าให้เห็นภาพ


ถุงหอมจีน ถุงหอมไทย ถุงหอมตะวันตก : ประโยชน์ที่มากกว่าความสวยงาม

สุมิตตากล่าวว่า “วันนี้ เราจะมาคุยกันเรื่องถุงหอมจีนกันนะคะ ถุงหอมจีนจะเป็นที่นิยมแล้วก็ใช้กันในช่วงเทศกาลบ๊ะจ่าง ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อฤดูใบไม้ผลิเข้าฤดูร้อน ช่วงนั้นจะเกิดโรคระบาด คนจะเจ็บป่วยได้ง่าย หลักในการใช้ถุงหอมจีน ประการแรก เป็นเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายไม่ให้เจ็บป่วย ประการที่สอง เป็นความเชื่อเรื่องที่ว่าจะนำพาโชคลาภ โชคดีมาให้ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ก็คือการที่เราไม่ป่วย มีสุขภาพที่ดีนั่นเองถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนอีกข้อคือเป็นเรื่องความสวยงาม เป็นของฝาก ของที่ระลึก แทนใจ อย่างเช่น หนุ่มๆ สาวๆ ที่เค้าทำเครื่องหอม ถุงหอม มอบให้แก่กัน โดยจะมีการปักผ้าที่สวยงาม ปักเป็นรูปปลา ดอกไม้ เหรียญ เป็นวัฒนธรรมที่สวยงามของจีน แล้วถ้าถามว่า 'ของไทยล่ะ มีไหม' ไทยเราก็มีถุงหอม เราเรียกว่า ‘บุหงารำไป’ ก็คือดอกไม้หลากหลายชนิดคละเคล้ากัน บุหงาของไทยจะมีความงาม เป็นดอกไม้ชื่อเพราะๆ เช่น ดอกบานไม่รู้โรย ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ และหลายๆ อย่าง ที่มีสีสันสวยงาม แต่กระบวนการทำถุงหอมของไทยจะต่างจากของจีนเพราะของเราจะต้องมีการอบร่ำ ให้ดอกไม้หอมด้วย”


“ถ้าเป็นของตะวันตก ก็มี Potpourri ที่เป็นบุหงาของเค้า ก็จะทำมาจากลูกไม้แห้ง ไปย้อมสี ใส่กลิ่นให้มีความหอม จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าชาติใด ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกลิ่น เพราะเป็นสุนทรียะที่ให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตค่ะ” สุมิตตาระบุ


ขั้นตอนการทำ ‘ถุงหอมจีน’

“ในการทำถุงหอมจีนวันนี้ หลักๆ แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเจ็บป่วย เพราะฉะนั้น กลิ่นจะเป็นสมุนไพร หลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นชิน อยากได้กลิ่นหอมแบบ Fruity วันนี้เราก็จะผนวกศาสตร์ในการปรุงกลิ่นขึ้นมา โดยใช้น้ำมันหอมระเหยเพื่อให้รู้สึกอภิรมย์เมื่อได้กลิ่น เพื่อให้กลิ่นไม่เป็นสมุนไพรมากจนเกินไป”

สุมิตตาพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดมือ จากนั้น เริ่มต้นคัดสรรสมุนไพรกลิ่นต่างๆ


“วันนี้อากาศเริ่มเปลี่ยน เราต้องดูแลสุขภาพกันนิดนึง จ๋าชอบความสดชื่นค่ะ ดังนั้น เราจะใส่ส้ม กลิ่นซีตรัส (หมายเหตุ :Citrus คือกลุ่มกลิ่นหอมสดชื่นจากผลไม้ตระกูลส้มหรือกลุ่มผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว มะกรูด เลมอน ) จะเป็น Top Note เป็นตัวแรกที่ได้กลิ่นแล้วหายไปด้วยความรวดเร็ว นอกจากนั้นเราต้องการความอบอุ่น เราก็ใช้ดอกมะลิค่ะ เพื่อความอบอุ่นหัวใจ ใช้อบเชยพอประมาณ ไม่ต้องมาก ใช้ลูกผักชีสักเล็กน้อย เพื่อต้านหวัด สดชื่น ฆ่าเชื้อ ใช้โรสแมรี่ ใครปวดหัวไมเกรน โรสแมรี่อาจจะช่วยคุณได้ ใช้ประมาณนี้ค่ะ”




สุมิตตานำสมุนไพรทั้งหมดที่เลือกมา นำไปบุในครก
“เรานำไปบุเบาๆ ที่ครกของเรา บุให้สมุนไพรเค้าค่อยๆ คลายกลิ่นของเค้าออกมา ระหว่างที่เราบุ เราก็ได้กลิ่นสมุนไพรของเค้าชัดเจนขึ้น นอกจากนั้นในการทำถุงหอมจีน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ‘พิมเสน’ ให้ความหอมเย็น แล้วก็มีฤทธิ์ช่วยบำรุงหัวใจด้วย เราจะใส่พิมเสนกันสักเล็กน้อย นำพิมเสนไปบดในโกร่งบด จากนั้นนำทั้งสมุนไพรที่บุและพิมเสนที่บดแล้วมาคลุกผสมกัน ใส่พิมเสนแค่ช้อนเดียวค่ะไม่ต้องมาก”

“เราจะทำการตรึงกลิ่นด้วยกฤษณา เราใส่ผงกฤษณาไปเล็กน้อย คลุกผสมให้เข้ากัน และวันนี้เรามีน้ำมันหอมระเหยมาใส่เพิ่มด้วย เพื่อให้บำบัดและผ่อนคลาย กลิ่นหอมอยู่ได้นานขึ้น จ๋าเลือกกลิ่นนี้ค่ะกฤษณา แล้วก็เปปเปอร์มินต์ จากนั้น คลุกผสมให้เข้ากันนะคะ แล้วเราจะบรรจุลงไปในถุงสีขาว แล้วใส่ลงไปในถุงหอมสวยๆ ของเราค่ะ”






“ถุงที่เรานำมาใช้วันนี้ ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก กลิ่นก็อาจจะอยู่ได้ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสมุนไพรที่เลือกด้วย ว่ามีความแรงของกลิ่นมากแค่ไหน ถุงหอมที่เราทำวันนี้ แนะนำให้พักบ่มเก็บไว้ 1-2 วันก่อนใช้ รอเพื่อให้กลิ่นหลายๆ อย่างเข้ากันดี"



"เมื่อเราบรรจุสมุนไพรเสร็จแล้ว เราก็จะใส่ลงไปในถุงหอมสวยๆ แบบนี้ เพียงเท่านี้ เราก็ได้ถุงหอมสวยๆ ไว้ใช้กันแล้วค่ะ”
สุมิตตาแนะนำวิธีทำถุงหอมจีนได้อย่างน่าสนใจ





จาก ‘ข้าวแช่’ สู่ ‘เครื่องหอม’

อดถามไม่ได้ว่า อะไรคือจุดแรกเริ่มที่ทำให้คุณสนใจศาสตร์แห่งการทำเครื่องหอม

สุมิตตาตอบว่า “อาจจะมาจากการที่จ๋าอยากทำข้าวแช่ใส่บาตรให้บรรพบุรุษ ให้คุณตาคุณยายค่ะ จ๋ามีเชื้อสายมอญ คราวนี้ในการทำข้าวแช่ นอกจากดอกไม้แล้ว ยังกลิ่นที่หอมอย่างเทียนอบ เราก็อยากรู้ว่าเทียนอบ ทำยังไง ทำเองได้มั้ย ก็เลยพาตัวเองไปศึกษา ไปเรียนที่วิทยาลัยในวังและหาความรู้เพิ่มเติมจากอาจารย์เครื่องหอมหลายๆ ท่าน จากตำราด้วย
เรียนจากหลายๆ ที่ค่ะ”

ถามว่าองค์ความรู้ด้านเครื่องหอมที่คุณสั่งสมมา นำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ในแง่ใดได้อีกบ้าง
สุมิตตาตอบว่า “เรื่องกลิ่นนำพาอะไรหลายๆ อย่างมามากมาย ส่วนหนึ่งก็คือการที่เราได้เป็นจิตอาสาไปช่วยเหลือมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม เราได้เข้าไปเป็นวิทยากร ทำสมุนไพรให้มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม ทำยาดมซึ่งเป็นหนึ่งในของที่อยู่ในถุงเยี่ยม เมื่อผู้รับได้ไปก็เป็นที่ชื่นชอบ ได้กลิ่นแล้วก็สดชื่น ในงานที่มีอาสาสมัครมาทำยาดม อาสาสมัครก็ได้เยียวยาตัวเอง มาค้นหาตัวเองด้วย มาตามหากลิ่นที่เยียวยา ฟื้นฟูจิตใจของผู้ทำ แล้วสิ่งที่เค้าตั้งใจทำได้บรรจุอยู่ในขวดยาดม แล้วได้ส่งต่อ เพราะในกระบวนการทำยาดมของเรา นอกจากทำยาดมแล้ว ผู้รับยังได้เห็นความตั้งใจคือข้อความหรือภาพวาดที่ส่งให้ด้วย ผู้ป่วยที่เป็นผู้รับก็ต้องการการเยียวยาเช่นกัน ตรงนี้เป็นส่วนที่ ‘กลิ่นหอม’ นำพาเราไปส่งต่ออะไรดีๆ

ล่าสุดเราไปจังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้นำส่งยาดมจำนวนหนึ่งลังให้ทหารด่านหน้าและชาวบ้านด้วย เมื่อได้รับแล้วเค้าก็อมยิ้มเลย เราก็บอกว่าอาสาสมัครตั้งใจทำนะ แต่ละขวดไม่เหมือนกันเลย กลิ่นไม่เหมือนกันเลย”


สุดท้ายถามถึงความเป็นมาของการก่อกำเนิดเพจโอภาษรวี บ้าง

สุมิตตาเล่าว่า “การที่เราได้ทำสิ่งนี้เนื่องมาจากการรวมกลุ่ม เราได้เห็นพี่ๆ ที่เรียนวิทยาลัยในวัง พี่ๆ ที่เป็นวัยเกษียณ เป็นผู้สูงอายุ มาเรียนรู้กิจกรรมหลากหลายอย่าง พี่ๆ เค้ามีเวลา งานฝีมือก็ดี แต่เมื่อทำแล้วเค้าไม่รู้จะต่อยอดไปยังไงต่อ เราก็บอกว่างั้นมารวมตัวกัน มาออกบูธจำหน่ายสินค้า เมื่อมีงานอีเวนท์เราก็ได้เผยแพร่องค์ความรู้ที่เราได้เรียนมาให้คนอื่นได้รับทราบด้วย ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้ทำ”

“พี่ๆ ที่เค้าเกษียณแล้ว บางทีไม่รู้อยู่บ้านจะทำอะไร แต่เมื่อเรามีงาน มีอีเวนท์ เราก็ชวนเค้ามาช่วยกัน เป็นพี่ๆ ที่เรียนวิทยาลัยในวังมาด้วยกัน เรายังพอมีแรง เราก็ช่วยเหลือกัน เราไม่ได้เน้นว่าเราจะจำหน่วยสินค้า แต่เน้นเป็นการเผยแพร่ เพราะบางอย่างเหมือนสูญหายไปหรือคนในสังคมมีความเข้าใจที่ผิดเพี้ยน เมื่อเรามีโอกาสได้ออกอีเวนท์ เราก็ช่วยแนะนำ นำสิ่งที่เราได้สั่งสมองค์ความรู้มา ได้มาเจอลูกค้า ได้มาเจอผู้ซื้อ ผู้บริโภค ช่วยกันส่งต่อองค์ความรู้นี้ต่อไปในสังคม” สุมิตตาทิ้งท้าย ถึงการรวมกลุ่มของเธอและเพื่อนๆ ที่ไม่เพียงมีความรู้ด้านศาสตร์เครื่องหอม แต่ยังมีผู้ที่มีความรู้ด้านอาหารไทยโบราณ เครื่องทองเหลืองและผู้เชี่ยวชาญงานฝีมือชั้นครูอีกมาก ที่ร่วมกันส่งต่อองค์ความรู้ด้านต่างๆ เหล่านี้ ในนามของเพจ ‘โอภาษรวี’


จึงกล่าวได้ว่า การทำเครื่องหอม ถุงหอมจีนของสุมิตตาในวันนี้
นับเป็นการขับเคลื่อนองค์ความรู้แขนงหนึ่งของกลุ่มโอภาษรวีเช่นกัน
……….
Text By : รพีพรรณ สายัณห์ตระกูล
Photo By : รพีพรรณ สายัณห์ตระกูล, FB : opasrawee
เอื้อเฟื้อสถานที่ : พิพิธตลาดน้อย