คนทำงานอีสปอร์ตยุคบุกเบิกสุดทน ชี้เหตุการณ์โกงบนเวทีซีเกมส์สร้าง "รอยด่างพร้อย" กลบความสำเร็จเยาวชนไทย ยุ่น–สุรศักดิ์ วินิจ ผู้ผลักดันวงการ ขอวิงวอนสื่อมวลชนไทยช่วยนำเสนอ "แง่มุมดี ๆ" และความสามารถของเด็กไทยที่กวาดเงินรางวัลนับร้อยล้านบาท พร้อมให้กำลังใจคนในวงการอย่าท้อแท้ ต้องนำบาดแผลนี้มาใช้เป็นเครื่องเตือนใจให้เข้มงวดบุคลากรให้มากขึ้น เพื่อให้อีสปอร์ตเป็นอาชีพที่ยั่งยืนต่อไป
จากกรณี สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย (TESF) ออกแถลงการณ์ยอมรับการตัดสินลงโทษขับ 'ณภัทร วราสินธ์' หรือ 'Tokyogurl' ออกจากการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หลังพบกระทำผิดใช้ซอฟต์แวร์บุคคลที่สาม ด้านต้นสังกัด 'TALON TH' ประกาศยุติบทบาททันที ขณะที่เพื่อนร่วมทีมโพสต์ข้อความปริศนาว่า "ใจสลาย" และ สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย (TESF) ได้ประกาศ ถอนทีม RoV หญิงทีมชาติไทย ออกจากการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยทันที
ล่าสุด วันนี้ (16 ธ.ค.) ยุ่น–สุรศักดิ์ วินิจ' ผู้ร่วมก่อตั้ง Ampverse ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬา e-Sport ของไทยได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ระบุ รู้สึกเห็นใจและให้กำลังใจ ทุกคนที่ร่วมกันผลักดัน "เกมที่รัก" ให้ได้รับการยอมรับเป็นอีสปอร์ต จนก้าวข้ามกระแสต่อต้านและถูกตราหน้าในอดีต
ผู้โพสต์เคยคาดการณ์ว่า วันที่อีสปอร์ตจะได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่และสื่อคือ วันที่อีสปอร์ตถูกบรรจุในการแข่งขันระดับชาติ อย่างซีเกมส์ ซึ่งก็เป็นจริงแล้ว แต่ข่าวการโกงในซีเกมส์ครั้งนี้กลับสร้างรอยด่างพร้อยและกลบสิ่งดีงามที่วงการได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“ในฐานะคนทำงานอีสปอร์ตจริงจังคนหนึ่งมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก กับเหตุการณ์ โกงการแข่งบนเวทีอีสปอร์ตซีเกมส์ ในคราวนี้ผมรู้สึกเห็นใจเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในวงการทุกคนเลยนะครับที่ช่วยกันผลักดัน ”เกมที่พวกเรารัก“ ให้กลายมาเป็นอีสปอร์ตที่ให้ได้รับการยอมรับได้ในทุกวันนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนมีแต่กระแสต่อต้าน ถึงขั้นที่ถูกตราหน้าว่า เกมเป็นอาชญากร บ่อนทำลายชาติเลยด้วยซ้ำ…
ในขณะที่หลายคนพยายามเดินตามความฝันในเส้นทางที่ยากลำบากนี้ ขัดเกลาฝีมือ ตั้งใจทำงาน สร้างชื่อเสียงเพื่อให้ตัวเองและอีสปอร์ตเป็นที่ยอมรับ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทีละเล็กละน้อย เพื่อให้ผู้ใหญ่ และสื่อต่างๆ ในประเทศไทยได้พูดถึงพวกเราในทางที่ดีบ้าง ผมรู้สึกหัวใจพองโตทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น แม้ว่าเมื่อก่อนมันจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักก็ตาม
ผมเคยฟันธงไว้ว่า การจะให้ผู้ใหญ่และสื่อในบ้านเรายอมรับ และประโคมข่าวให้วงการเกมนั้น มันจะมาถึงในสักวันที่การแข่งขันระดับชาติอย่าง ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกม หรือโอลิมปิค ผลักดันอีสปอร์ตเข้ามาเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่นานาชาติต้องเข้าร่วมแข่งชิงเหรียญทอง เมื่อถึงจุดนั้นได้ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลจะเรียกหาพวกเราเอง และเด็กไทยที่ผมเชื่อว่าเล่นเกมเก่งไม่แพ้ใคร จะต้องได้เฉิดฉายให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ภาคภูมิใจอย่างแน่นอน
จนวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปตามที่คาดการณ์ แต่แน่นอนเมื่อเทียบกับข่าวที่เกมเป็นตัวร้าย แม้จะเป็นหางๆ ที่สื่อพยายามโยงมาถึง มันก็จะดังสนั่น กลบสิ่งดีๆ ที่เราได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไปหมดสิ้น โดยเฉพาะในครั้งนี้ที่มันดันเกิดขึ้นในเวทีระดับชาติที่เกมเมอร์ไทยจะได้ยืดอกอย่างสง่างามในฐานะที่คว้าเหรียญในซีเกมส์ให้ประเทศไทย แต่มันกลับต้องมามีประวัติด่างพร้อยซะอย่างนั้น
ผมอยากจะขอวิงวอนพี่ๆ สื่อมวลชนในไทยนะครับ ให้ช่วยเสนอแง่มุมดีๆ ต่างๆ ในฝั่งอีสปอร์ต ให้พร้อมเพรียงกันแบบครั้งนี้บ้าง เพื่อเป็นกำลังใจให้กลุ่มคนที่ตั้งใจสร้างผลงาน ทำคุณงามความดีให้ชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ ที่เด็กไทยคว้าแชมป์โลกของเกมต่างๆ มามากมายนับไม่ถ้วน กวาดเงินรางวัลรวมกันเฉียด 100 ล้านบาท มันก็เป็นเรื่องดีๆ ที่ควรพูดถึงไม่ใช่เหรอครับ ได้โปรดเถอะนะครับ ช่วยสนับสนุนเหล่าบุคลากรอีสปอร์ตที่มีคุณภาพเหล่านี้ด้วย พวกเราตั้งใจทำงานกันจริงจัง เพื่อให้อีสปอร์ตกลายมาเป็นอาชีพทางเลือกใหม่ที่สร้างงานสร้างรายได้ได้จริง
ถึงพี่ๆ น้องๆ ในวงการเกมของผม ขอทุกท่านได้โปรดอย่าท้อนะครับ ผมรู้มันมันยากลำบากในการผลักดันสิ่งที่พวกเราทำอยู่ แต่ยากกว่านี้เราก็กระเสือกกระสนดิ้นรนจนผ่านกันมานักต่อนักแล้ว บาดแผลคราวนี้มันคือบาดแผลของพวกเราทุกคนที่ต้องน้อมรับมันไว้ นำมาเป็นเครื่องเตือนใจว่าพวกเราควรเข้มงวดกับบุคลากรในวงการให้มากกว่านี้ ช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องกันให้มากขึ้น ไม่ใช่ต่างคนต่างทำแต่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือกัน ประคับประคองให้เหตุการณ์ร้ายๆ มันผ่านไปได้อีกครั้ง ดังที่เค้าว่า ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ ผมเชื่อมั่นว่าคนทำงานอีสปอร์ตจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ แต่จะข้ามผ่านเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ไปอย่างเข้มแข็ง และวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อเรามองย้อนกลับมา เราจะยิ้มอย่างภาคภูมิใจว่า มันไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งความตั้งใจของพวกเราได้“


