xs
xsm
sm
md
lg

สะเทือน Safe Space! "ครู-โค้ช" ภาพลักษณ์ดีใช้กำลังทำร้ายเด็ก แค่ของเสียหายเล็กน้อย แม่โอดแผลใจลูกไม่รู้หายเมื่อไหร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ปกครองสุดทนแฉพฤติกรรม อินฟลูเอนเซอร์ที่โปรโมทตัวเองเป็น 'ครู' และ 'โค้ช' ใช้กำลังทำร้ายเด็กตัวเล็กๆ อย่างรุนแรงจนข้อมือช้ำและเกิดบาดแผลในใจ หลังเด็กแค่เดินผ่านแล้วไปโดนปลายตีนกบของเขา ย้ำเหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ถึงความปลอดภัยของเด็กในสถานที่สาธารณะ และต้องการให้ผู้ก่อเหตุรับผิดชอบอย่างสาสม

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Rose Waralee" ออกมาโพสต์ข้อความแชร์ประสบการณ์น่าตกใจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่สปอร์ตคลับชื่อดังย่านสุขุมวิท เมื่อลูกชายและหลานชายของผู้โพสต์ถูกชายร่างใหญ่ซึ่งเป็น อินฟลูเอนเซอร์สายเพาะกาย (โค้ช/ครู) ทำร้ายร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง โดยทางผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

"อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ของคุณพ่อคุณแม่ทุกคน.

เหตุเกิดขึ้นวันที่ 30 พ.ย. ที่สปอร์ตคลับชื่อดังย่านสุขุมวิท วันที่ควรเป็นวันธรรมดาของการซ้อมว่ายน้ำ แต่กลับกลายเป็นวันที่เด็กต้องเจอเรื่องที่ฝังใจไปตลอดชีวิตลูกชายและหลานชายเดินเล่นรอบสระก่อนเวลาเรียน หลานชายได้เดินผ่านไป "สะกิด" ตีนกบ (สีดำ) สำหรับฟรีไดฟ์ ที่วางอยู่ขอบสระ (โฟมที่ลูกชายเตะคือของเด็กๆใช้เรียน)ผู้ชายนักเพาะกายร่างใหญ่ พุ่งเข้ามาใช้วาจากับเด็กๆว่า

"ไอ้ ×หี้ x มึงมาเหยียบฟินกูทำไม?"

และก่อนตบเข้าที่บ้องหูลูกชายเราอย่างเต็มแรง และยังไม่หยุด…เขาตบไปที่ขมับหลานชายอีก โดยที่เด็กทั้งสองไม่ทันตั้งตัวและไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น "มึงไป.." เด็กๆ เรายกมือไหว้ทันที “ผมขอโทษครับๆๆ” ทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร
แต่มันก็ยังไม่จบ…

เด็กทั้งสองเดินหนีด้วยความเจ็บปวด มือกุมหูและขมับที่บาดเจ็บ มุ่งไปหาพี่เลี้ยงที่สนามเด็กเล่น (ที่อยู่กับลูกสาว) แต่กลับถูกชายร่างใหญ่คนเดิมวิ่งตามออกมาในคลิปจะเห็นได้ชัดว่าเด็กๆกลัวมากยกมือขึ้นป้องหัว เพราะกลัวโดนอีก เค้ารวบข้อมือเด็กทั้งสองข้างพร้อมกัน ลากกลับเข้าไปในพื้นที่ล๊อบบี้ พร้อมตะโกนกับ จนท.ที่เคาเตอร์ ว่า...“ผู้ปกครองไอ้เด็กพวกนี้อยู่ไหน? ”
"กูจะตบมันต่อหน้า ผปค."

โค้ชว่ายน้ำอีกท่านที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาห้าม เพราะเห็นเด็กๆร้องไห้กันด้วยความหวาดกลัว "คุณทำเด็กแบบนี้ไม่ได้" (ยังไม่ปล่อยมือ) แต่เขาตอบกลับมาว่า “ผมไม่แคร์ไม่สนใจว่าเป็นเด็ก ผู้ปกครองมันอยู่ไหน?” ข้อมือของลูกชายช้ำทันทีหลังถูกปล่อย
เสียงสะอื้นของเด็ก ทั้งความเจ็บปวดและความหวาดกลัว ยังติดอยู่ในหัวแม่จนถึงตอนนี้ ในระหว่างนั่นน้องชาย (พ่อหลาน) จอดรถเรียบร้อยและเดินเข้ามา เด็กๆรีบวิ่งมาหาและฟ้องในเรื่องที่เกิดขึ้น "เกิดความเสียหายอะไร ? คุณไม่มีสิทธิ์ตีลูกผม"
เขากลับตอบว่า

“ใช่ ผมตีเด็ก แล้วทำไม?”

“ผมตีเด็ก แล้วจะให้ขอโทษเหรอ?”

และยังบอกอีกว่า “แจ้งตำรวจก็เสียเวลาผมเปล่าๆ” คนที่ใช้กำลังทำร้ายเด็ก คืออินฟลูเอนเซอร์สายเพาะกาย ผู้ที่โปรโมทตัวเองเป็น "โค้ช" เป็น "ครู" ภาพลักษณ์เบื้องหน้ามีแต่คนยกย่อง แต่พฤติกรรมจริงกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง กับสิ่งที่เขาโปรโมทให้ผู้ติดตาม 400,000 กว่าคนเห็น

เด็กๆ แค่เดินผ่านและ “สะกิด” ที่ "ปลายตีนกบ"ของเขาเท่านั้น ไม่ใช่เหตุผลเพียงพอที่จะทำร้ายใครได้เลย โดยเฉพาะกับเด็กตัวเล็กๆ ที่ไม่มีทางสู้ ในสถานที่ที่เราคิดว่าปลอดภัยที่สุด ที่ควรเป็น Safe Space สำหรับเด็ก เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นได้…
บาดแผลภายนอกอาจหายได้ แต่แผลในใจลูก… แม่ไม่รู้จะใช้เวลานานแค่ไหนที่จะเยียวยา

คำถามที่แทงใจที่สุดคือ “ทำไมเขาต้องตีหนู?” คำถามง่ายๆ แต่แม่ตอบไม่ได้ ไม่มีเด็กคนไหนสมควรถูกทำร้าย
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ขอให้เรื่องนี้อุทาหรณ์และเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้ผู้ก่อเหตุได้รับบทเรียนและความรับผิดชอบที่อย่างสาสม

แม่ขอเป็นกระบอกเสียงดังๆ ของลูกและของเด็กๆทุกคนที่อาจเคยถูกกระทำ แต่ไม่กล้าหรือกลัวที่จะส่งเสียง
จากหัวใจของแม่คนหนึ่ง ที่ขอปกป้องลูก และเด็กทุกคนในสังคมนี้ค่ะ กฏหมายอาจจะทำอะไรเค้าไม่ได้มาก หัวอกพ่อแม่อยากเรา โรสขอแรงและขอกระบอกเสียงเพื่อนๆนะคะ "


กำลังโหลดความคิดเห็น