จดหมายเปิดผนึกจาก ศ.นพ.ขจรศักดิ์ ศิลปโภชากุล อาจารย์แพทย์ จากหน่วยโรคติดเชื้อ คาดว่า “โรคฉี่หนู” ระบาดพีก 8 ธ.ค.นี้ หลังน้ำลด ระยะฟักตัวของโรค 2-26 วัน พร้อมแนะแนวทางการรักษา-ป้องกัน
วันนี้ (4 ธ.ค.) มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Supat Hasuwannakit” ได้โพสต์ข้อความจดหมายจาก ศ.นพ.ขจรศักดิ์ ศิลปโภชากุล อาจารย์แพทย์ จากหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มือหนึ่งของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ส่งมาถึงลูกศิษย์ ถึงเรื่องการระบาดของโรคฉี่หนู
โดยระบุว่า “ในสภาวะน้ำท่วมใหญ่คราวนี้ ผมคาดว่าอาจจะมีการระบาดของโรคฉี่หนู (เลปโตสไปโรสิส) เกิดขึ้นเหมือนกับที่เกิดตามหลังคราวน้ำท่วมใหญ่ ปี พ.ศ. 2543 ระยะเวลาฟักตัวของโรคคือ 2-26 วัน หลังจากได้รับเชื้อ (โดยผู้ ที่ได้เชื้อเข้าไปส่วนใหญ่ จะมีอาการ ประมาณ วันที่ 5- 14,เฉลี่ย 10 วัน) และเนื่องจากผู้ที่ได้รับเชื้อส่วนใหญ่จะได้รับเชื้อตอน ที่น้ำลด ระหว่าง การ ทำความสะอาดบ้าน ถ้าจะมีการระบาด เราก็จะเห็นพีกของผู้ป่วยจำนวนมากที่มีไข้ มา โรงพยาบาล แถวๆ วันที่ 8 ธันวาคม แต่ก็คงจะมีประปรายก่อนหน้านั้น และการระบาดจะกินเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ป่วยจะเข้ามาด้วยอาการไข้, ปวดเมื่อยตัว, ปวดหัว ผู้ป่วยอาจจะมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง (ดีซ่าน) ก็ได้ หรือไม่เหลืองก็ได้ ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการเหลืองมากกว่าเหลือง 19 ต่อ 1
คำแนะนำ
•ถ้าพบผู้ป่วยที่มีประวัติลุยน้ำและมีไข้สูง ร่วมกับอาการเหลือง หรือไตวาย หรือหอบ ให้ส่งโรงพยาบาล
•ถ้าพบผู้ป่วยที่มีประวัติลุยน้ำและมีไข้ โดยไม่มีอาการ URI หรือ UTI หรือ Diarrhea แสะอาการใม่มาก ผมขอแนะนำว่าให้รักษาด้วย Doxycycline 100 มิลลิกรัม เช้า-เย็น เป็นระยะเวลา 7 วัน การกินยาให้กินพร้อมอาหาร พราะถ้า กิน ตอนท้องว่าง อาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ประมาณ 2-4 เปอร์เซ็นต์ ควร ดื่มน้ำตาม ประมาณ 1 แก้ว(250 cc) และอย่านอนทันที เพราะเม็ดยาจะติดที่หลอดอาหาร เกิด Esophagitis ซึ่งจะทำให้คนไข้ กลับมาด้วย อาการ สะอึก หรือเจ็บหน้าอก
ห้ามให้ยา doxycycline ในคนท้อง หรือคนที่ กำลังให้นมบุตร หรือเด็กต่ำกว่าอายุ 8 ปี ก็เพราะอาจจะทำให้ลูกเขา มีปัญหาเกี่ยวกับฟันต่อมาได้
ในกรณีที่ใช้ doxycycline ไม่ได้ ให้ใช้ azithromycin 500 mg ต่อวัน 5-7 วันแทน
•ถ้าท่านอยากจะรู้ว่าเป็นโรคเลปโตสไปโรสิส หรือไม่ อาจจะเจาะเลือด clotted blood 5 ซีซี ในวันที่คนไข้มา แต่เนื่องจากโดยเฉลี่ยแล้วผู้ป่วยจะ มาโรงพยาบาลหลังจากที่มีไข้ มาเพียง 3 วัน ซึ่งแอนตี้บอดี้titerยังไม่ขึ้น ดังนั้นส่วนใหญ่แล้ว ผลของการ ตรวจ acute Serum มักจะ ให้ผลลบ จึงต้องส่ง ตรวจ convalescent serum อีกครั้งใน วันที่นัด Follow up โดยท่านอาจจะส่งเลือดไปตรวจที่โรงพยาบาลของท่าน หรือศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต12 โทร. 0-7433-0277
ถ้าท่านสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อแผนกอายุรศาสตร์ มอ. โทร. (074) 451483
ขอแสดงความนับถือ
นายแพทย์ขจรศักดิ์ ศิลปโภชากุล
หน่วยโรคติดเชื้อฯ
ปล. clinical gadgets ที่ อาจจะช่วยในการ วินิจฉัยแยก โรคไข้ฉี่หนูจากโรคอื่น มีดังต่อไปนี้ คือ
1.ถ้าผู้ป่วยไม่มีประวัติลง ไปลุย น้ำเลย โอกาสที่จะ เป็น โรคฉี่หนูจะมีน้อยมาก การระบาดเมื่อปี 2543 คนไข้โรคฉี่หนูมีประวัติลงน้ำ 98.9% นอกจากนี้ยังพบว่า คนไข้เด็กที่เป็น โรคฉี่หนู อายุเกิน 6 ขวบทั้งนั้น เหตุผลเป็นเพราะว่า ถ้าผู้ป่วยเป็นเด็กเล็กผู้ปกครองก็ไม่ ยอมให้ลงน้ำ เลยไม่ติดเชื้อ
2. อาการปวด เมื่อย กล้ามเนื้อ เล็กๆน้อยๆธรรมดา ไม่สามารถเอามาใช้แยกโรคได้ แต่ถ้าปวดมาก ขนาด บีบนิดเดียว คนไข้ร้อง หรือ เจ็บกล้ามเนื้อมากจน แทบจะขยับตัวไม่ได้ ที่เรียกว่าpseudoparalysis ให้คิดถึงเล็บโต หรือไม่ก็Staphylococcal sepsis
3.คนไข้เลบโต มีผื่นน้อยมาก ไม่ถึง 1-2% ถ้ามีผืนให้คิดถึงไข้เลือดออก หรือrickettsial diseases แล้วถ้าเกิด เป็นเล็บ โตขึ้นมาจริง ก็มักจะเป็น 2 โรคร่วม กับ โรค เหล่านี้
4 .อาการตาแดง หรือที่เรียกว่าinjected conjunctivae ไม่สามารถ ใช้ แยกโรคได้เสมอไป แต่ยกเว้นถ้าเป็น subconjuctival hemorrhage ให้คิดถึงเล็บโต หรือไม่ก็rickettsial diseases
5.ถ้าจะวินิจฉัยคนไข้ โรคเลบโต ที่มาด้วยอาการไข้ และเหลือง( jaundice 17%))อย่าลืมว่าต้องrule out มาลาเรีย, acute cholecystitis acute cholangitis, Staph หรือ Gram negative sepsis อย่างเช่นmelioiodosis l และ rickettsial diseases ก่อนเสมอ เพราะ บางที ยาที่ใช้สำหรับ รักษา เล็บ โต อาจไม่ครอบคลุม โรค พวกนี้ ดังนั้นจะต้อง ถามประวัติการเดินทางและ ดูblood smear ให้ ดี และต้องทำ อัลตร้าซาวด์, ก่อนเพื่อrule out liver abscess & gall stoneก่อนเสมอ ซึ่ง ถ้า ทำแล้วไม่มีgall stone คนไข้ก็จะ unlikely ที่จะ, เป็นcholecystitis หรือcholangitis
6.โรค หลังน้ำท่วม ที่จะต้องแยกจากเลปโต บ่อยที่สุดโดยเฉพาะในเด็ก คือโรคไข้ไข้เลือดออก เด้งกี่ Lab ที่อาจจะใช้ช่วยแยกก็คือ
6.1 WBC ปกติ ไม่เพิ่มขึ้น พบ ได้ ทั้ง ใน เด้งกี่ และเล็บโต แต่ถ้าWBC น้อยกว่า 3,000 น่าจะเป็นเด้งกี่ เพราะเด้งกี่ เป็นไวรัสไม่กี่ตัว ที่ attack bone marrow
6.2 Platelet ต่ำthrombocytopenia พบได้ ทั้ง ใน เดงกี่และเล็บโต(24.4%) ไม่สามารถใช้แยกโรคได้ยกเว้นว่าจะต่ำมากจริงๆ
6.3 17% ของ เล็บโต มีserum creatinine เกินกว่า 2 mg/ dl โดยจะมีเหลืองหรือไม่เหลืองก็ได้ ส่วนโรคอื่น ส่วนใหญ่ จะมีเซรั่มเคลียร์ตินีน เกินกว่า 2 ก็มักจะต้องshock ดังนั้นถ้าคนไข้มีแต่ ไข้ กับซีรั่มครีเอทินีนสูง โดยไม่shock หรือมีโรคไตมาก่อนให้คิดถึงโรค เล็บโต
7. คนไข้โรคเลปโตสไปโรซิส มี transaminases ใน LFTสูงถึง, 300 IU ได้ แต่ ถ้าสูงเป็นพันๆ ให้คิดถึงviral hepatitis มากกว่าเล็บโต”


