ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เดือดผ่านเฟซบุ๊ก วิจารณ์กรณีคุณชาดาเรียกร้องให้นายกฯ แป้นลาออกกลางวงประชุม ชี้ปัญหาที่แท้จริงอยู่เหนือระดับท้องถิ่น พร้อมตั้งคำถามแรงว่าเหตุใด “อนุทิน” ในฐานะผู้ว่าการกระทรวงมหาดไทยและนายกฯ ควบตำแหน่ง จึงลอยตัวเหนือวิกฤตครั้งนี้ เขาระบุชัด สายบังคับบัญชาทั้งระบบควรต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่โยนภาระให้นายกฯ ท้องถิ่นเพียงรายเดียว
วันนี้ (3 ธ.ค.) ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่หาดใหญ่ พร้อมวิพากษ์การบริหารจัดการของผู้มีอำนาจระดับรัฐบาล โดยเฉพาะการโยนความผิดให้นายกเทศมนตรีท้องถิ่นหรือ “นายกฯ แป้น” เพียงฝ่ายเดียว
ชูวิทย์กล่าวถึงเหตุที่คุณชาดา แกนนำการเมืองในพื้นที่ ออกมาพูดกลางวงประชุมให้นายกฯ แป้นลาออก โดยเขามองว่านั่นเป็นสไตล์ตรงไปตรงมาตามแบบ “นักเลงบ้านนอก” แต่หากจะพูดถึงผู้ที่ควรลาออกจริง ๆ ควรเป็น นายอนุทิน หัวหน้าพรรคที่คุณชาดาสังกัด และในขณะเดียวกันยังนั่งควบทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและนายกรัฐมนตรีรักษาการ
ชูวิทย์ชี้ว่า เรื่องนี้ “เกินมือท้องถิ่น” เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนล่วงหน้า แต่ข้อมูลและการเตรียมการกลับไม่ถูกผลักลงสู่พื้นที่อย่างทันท่วงที ทั้งผู้ว่าฯ สงขลา ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปจนถึงรัฐมนตรีมหาดไทย ล้วนอยู่ในสายบังคับบัญชาที่ต้องรายงานขึ้นสู่ “นายกรัฐมนตรีอนุทิน” ทำให้เกิดคำถามว่าใครควรต้องรับผิดชอบทั้งระบบ
เขายังวิจารณ์ถึงความล่าช้าและความสับสนในการจัดตั้งศูนย์อพยพ การให้ความช่วยเหลือ รวมถึงการเยียวยาประชาชน โดยระบุว่าช่วงแรกของเหตุการณ์ไม่มีการจัดสรรกำลังอย่างเร่งด่วน และรัฐบาลควรเป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหาระดับนี้ ไม่ใช่ปล่อยให้ท้องถิ่นรับศึกเพียงลำพัง
ชูวิทย์ยังย้อนถึงคำพูดนายอนุทินที่เคยประกาศว่า “ไม่มีปัญหา ไม่ติดขัด” แต่กลับแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมเมื่อสถานการณ์จริงเกิดขึ้น พร้อมเหน็บแรงว่า แม้จะทำงานด้านการเมืองคล่องแคล่ว แต่ในภาวะภัยพิบัติกับ “กลายเป็นการหลบภัยและหาแพะ”
ท้ายที่สุด ชูวิทย์ระบุว่า นายอนุทินเข้ามาเป็นนายกฯ เพียง 2 เดือน แต่ต้องเผชิญ 4 วิกฤต ทั้งชายแดนไทย–กัมพูชา ปัญหาภาษีสหรัฐฯ (ทรัมป์) สแกมเมอร์ และน้ำท่วม—โดยยัง “ไม่สำเร็จสักเรื่องเดียว” พร้อมทิ้งท้ายเหน็บว่า ก่อนตามหาแพะรับบาป ควรตามหาว่า “ควายหลงทางไปไหนก่อน” อีกด้วย


