xs
xsm
sm
md
lg

“เสธ.ต๊อด” เผยกัมพูชาเสริมกำลังชายแดนต่อเนื่อง ไทยพร้อมตอบโต้ ย้ำ “ปราสาทตาควาย” อยู่ในเป้าหมายกลับเข้าควบคุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกกองทัพบกเผยกัมพูชายังเสริมกำลังทหาร–อาวุธใกล้ชายแดนต่อเนื่อง แถมยั่วยุในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ไทยตรึงกำลังพร้อมตอบโต้ตามกฎการปะทะ “เตือนด้วยวาจา – ยิงเตือน – ยิงตรง” ย้ำปราสาทตาควายอยู่ในเป้าหมายที่จะกลับเข้าควบคุม

วันนี้(20 พ.ย.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยระบุว่า ขณะนี้กองกำลังฝ่ายกัมพูชายังคงเสริมกำลังทหารและอาวุธอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยับเข้ามาใกล้แนวชายแดนมากขึ้น
ส่วนกรณีภาพรถถังกัมพูชาที่ปรากฏตามแนวชายแดน พล.ต.วินธัยยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และยังไม่มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เนื่องจากตามข้อตกลงเฟสแรกเป็นการถอนเฉพาะอาวุธหนักประเภทเครื่องยิงสนับสนุนระยะไกล ซึ่งกัมพูชาได้ถอนออกแล้วแต่ไม่ได้เคลื่อนย้ายออกไปไกลจากแนวชายแดน ขณะที่รถถังยังไม่อยู่ในขั้นตอนการถอนกำลังจึงยังคงพบเห็นได้
โฆษกกองทัพบกระบุว่า ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 พบความพยายามของทหารกัมพูชาในการยั่วยุให้ทหารไทยตอบโต้ ตั้งแต่ภายหลังการหยุดยิงเมื่อ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีหลายคลิปที่แสดงให้เห็นการใช้ถ้อยคำรุนแรงและพฤติกรรมยั่วยุจากฝั่งกัมพูชา ทหารไทยจึงต้องตอบโต้ตามสถานการณ์เพื่อไม่ให้ถูกนำไปกล่าวหาโจมตี

สำหรับเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดรายที่ 7 ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ พล.ต.วินธัยยอมรับว่าแม้เป็นพื้นที่ลาดตระเวนเป็นประจำ แต่พบว่าฝั่งกัมพูชาพยายามลักลอบนำทุ่นระเบิดใหม่เข้ามาวางในบางจุดที่เคยเคลียร์ไปแล้ว ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการระมัดระวังเข้มงวดขึ้น

ในส่วนการเตรียมความพร้อมของกองทัพ โฆษกกองทัพบกระบุว่า ที่ประชุมสภากลาโหมได้หารือมาตรการด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้กำลังจะอยู่ภายใต้กฎการปะทะ ได้แก่ “เตือนด้วยวาจา – ยิงเตือน – ยิงตรง” ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละหน่วย แต่ยืนยันว่าทหารไทยยังคงตรึงกำลังตามแนวชายแดนเหมือนเดิม และถอนเฉพาะอาวุธยิงสนับสนุนเท่านั้น

เมื่อถามถึงปัญหาเฟกนิวส์จากฝั่งกัมพูชา เช่นกรณีล่าสุดที่ จ.ตราด กัมพูชาจุดประทัดแล้วอ้างว่าเป้ฯการยิงปืนจากฝั่งไทย พล.ต.วินธัยระบุว่า ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะกัมพูชามักสร้างข่าวปลอมและหลักฐานเท็จมาโดยตลอด หลังจากนี้กองทัพไทยจะเร่งตอบโต้ด้วยข้อเท็จจริง พร้อมนำพยานหลักฐานให้ประชาคมระหว่างประเทศรับรู้ โดยหากมีการเก็บกู้ระเบิดหรือปักปันเขตแดน จะเชิญคณะ AOT ลงพื้นที่สังเกตการณ์ทุกครั้งเพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมด

สำหรับประเด็นพื้นที่ภูมะเขือ-ปราสาทตาเมือนธม และพื้นที่ปราสาทตาควาย–ช่องอานม้า พล.ต.วินธัยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญ และบางจุดทหารกัมพูชาตรึงกำลังเข้ายึดพื้นที่ไว้แล้ว ซึ่งไทยมีความต้องการเข้าไปควบคุมในทุกพื้นที่ แต่ต้องพิจารณาโอกาสและสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ อยากให้ประชาชนชาวไทย เชื่อมั่นในกองทัพไทยในการทำหน้าที่ที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ แต่ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง และกองทัพไทยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น