"ประชาคมแพทย์" ออกแถลงการณ์ประณาม กัมพูชา ที่นำอดีตเชลยศึก "ซึม ซ็อมแอง" ซึ่งไทยปล่อยตัวเพราะ "พิษสุราเรื้อรัง-มีอาการทางจิต" กลับสู่สนามรบอีกครั้ง ซัด นี่คือการ "ทำร้ายมนุษย์ที่เปราะบางทางจิตใจอย่างร้ายแรงที่สุด" และเป็นการละเมิด อนุสัญญาเจนีวา เรียกร้องให้ ICRC และ กสม. เข้ามาตรวจสอบสถานการณ์ดังกล่าวทันที!
จากกรณี ตามที่ปรากฏภาพข่าวของสำนักข่าว Fresh News Daily ว่า คุณยังจำฮีโร่ทหารของเราชื่อ "ซึม ซ็อมแอง" ได้หรือไม่??? เขาคือคนที่ถูกทหารไทยจับกุมและได้รับการปล่อยตัว และตอนนี้ได้ฟื้นตัวกลับมาอยู่แนวหน้าอีกครั้งแล้ว
ต่อมา กองทัพภาคที่ 2 ตอกหน้าสื่อเขมรปั่น "ฮีโร่" คืนสนามรบ ที่แท้เชลยศึกไทยปล่อยตัว เพราะ "พิษสุราเรื้อรัง-เสียสติ" ซัดกัมพูชานำคนป่วยจิตกลับมารบคือการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม
ล่าสุด วันนี้ (19 พ.ย.) เพจ "ประชาคมแพทย์" ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เพียงการละเมิดข้อตกลง แต่เป็นการทำร้ายมนุษย์ที่มีความเปราะบางทางจิตใจอย่างร้ายแรงที่สุด โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า
"ความเห็นของ “ประชาคมแพทย์” ต่อกรณีการนำอดีตเชลยศึกที่มีอาการทางจิตเวชกลับสู่สนามรบของกัมพูชา “นี่ไม่ใช่เพียงการละเมิดข้อตกลง แต่เป็นการทำร้ายมนุษย์ที่มีความเปราะบางทางจิตใจอย่างร้ายแรงที่สุด”
กรณีที่เพจ SMART Soldiers Strong ARMY รายงานว่า “ซึม ซ็อมแอง” อดีตเชลยศึกกัมพูชาซึ่งไทยช่วยชีวิต ดูแลรักษา และปล่อยตัวกลับไปตามหลักมนุษยธรรมเมื่อปี 2568 — กลับไปปรากฏตัวในบังเกอร์พร้อมอาวุธในแนวรบอีกครั้ง ทั้งที่ได้ลงนาม Parole ยืนยันว่าจะไม่กลับเข้าสู่การรบ สิ่งนี้ ไม่ใช่เพียงการผิดข้อตกลง แต่เป็นปัญหา “มนุษยธรรม” และ “จริยธรรมทางการแพทย์–สิทธิมนุษยชน” ที่รุนแรงมาก บุคคลรายนี้เป็นหนึ่งในผู้ที่ไทยส่งตัวกลับเพราะ มี อาการป่วยหนักและมี อาการทางระบบประสาทหรือจิตเวชแต่กลับถูกนำไปใช้ในแนวรบ และถูกสื่อบางสำนักยกย่องเป็น “วีรบุรุษ” ทั้งที่ การนำผู้ป่วยจิตเวชกลับเข้าสู่สงคราม ถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล อย่างโจ่งแจ้ง และขัดต่อ อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 ข้อ 21–22 ซึ่งกัมพูชาเป็นภาคีร่วมกับไทยด้วย
หลักการทางการแพทย์และมนุษยธรรมที่ถูกละเมิดอย่างชัดเจน
1) ผู้ป่วยจิตเวชคือ “ผู้เปราะบาง” ตามมาตรฐานสากล
บุคคลที่มีภาวะ
ความผิดปกติทางจิต
PTSD
ความผิดปกติทางระบบประสาท
ล้วนเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการรักษา ประเมินซ้ำ และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ไม่ใช่ถูกส่งกลับเข้าสู่สถานการณ์คุกคามชีวิต
2) การใช้ผู้ป่วยเป็นกำลังรบ = การทำร้ายมนุษย์ที่ไร้ความสามารถในการตัดสินใจอย่างเป็นเหตุเป็นผล
ทหารที่มีอาการทางจิตอาจไม่สามารถ
ประเมินความเสี่ยง
ควบคุมอารมณ์
รู้เท่าทันสถานการณ์รบ
หรือมีวิจารณญาณที่เพียงพอต่อการทำงานในสนามรบ
การส่งผู้ป่วยเข้าสมรบคือการผลักให้เขาไปสู่ ”สนามมรณะ” โดยตรง
3) ละเมิด Geneva Convention III มาตรา 21–22 อย่างชัดแจ้ง
ซึ่งกำหนดว่า
อดีตเชลยศึกต้องไม่ถูกบังคับกลับไปสู่การสู้รบทันที
ต้องได้รับการคุ้มครองจากเหตุการณ์ที่เป็นภัยต่อชีวิต—รวมถึงสภาพจิตใจที่ไม่พร้อม
การกลับไปปรากฏตัวพร้อมอาวุธหลังลงนาม Parole เป็นหลักฐานว่าข้อตกลงไม่ถูกเคารพ
4) ละเมิดจริยธรรมขั้นพื้นฐานของมนุษย์
การนำบุคคลที่ป่วยทางจิตเข้ารบ เทียบได้กับ
> “การส่งผู้ป่วยเข้าไปในกองไฟ เพราะรู้ว่าเขาไม่มีแรงจะหนี”
นี่ไม่ใช่สงครามอย่างเป็นธรรม แต่เป็นการใช้ “ผู้ป่วย” เป็นเครื่องมือ
ความเห็นในฐานะแพทย์
ประชาคมแพทย์ขอชี้อย่างหนักแน่นว่า การกระทำลักษณะนี้เป็น ความรุนแรงทางสิทธิมนุษยชน การละเมิดจิตวิญญาณของการแพทย์ที่เน้นการปกป้องชีวิต ความโหดร้ายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังภาพการยกย่องในสื่อ ในฐานะคนทำงานด้านแพทย์ เรารับไม่ได้กับการที่ “ผู้ป่วยถูกใช้เป็นอาวุธ” แทนที่จะได้รับการรักษา
ข้อเรียกร้องจาก “ประชาคมแพทย์” ต่อองค์กรสิทธิมนุษยชน (ไทยและสากล)
1) ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ
รวมถึงประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อยืนยันสถานะทางการแพทย์ของบุคคลดังกล่าว และประเมินการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้น และดำเนินการประท้วงอย่างจริงจัง
2) ขอให้คณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) ส่งทีมตรวจสอบภาคสนาม
โดยเฉพาะเรื่อง
สภาพของอดีตเชลยศึก
การละเมิด Geneva Convention
การใช้ผู้ป่วยจิตเวชในกองกำลัง
3) ขอให้ UNHRC และ OHCHR ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เพราะเป็น precedent อันตราย ที่อาจเกิดซ้ำ และเปิดช่องให้มีการ “ใช้ผู้ป่วยเป็นทรัพยากรสงคราม”
4) ขอให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบและปฏิบัติตามพันธกรณี Geneva Convention
โดยเฉพาะหลักการคุ้มครองผู้ที่เปราะบางทางจิตใจและอดีตเชลยศึก
5) ขอให้สื่อมวลชนทั้งสองประเทศรายงานบนพื้นฐานข้อเท็จจริง ไม่สร้างภาพฮีโร่บนความเจ็บป่วยของมนุษย์
การทำให้ผู้ป่วยกลายเป็น “เครื่องมือเชิดชูความกล้าหาญ” เป็นการทำร้ายเขาซ้ำสอง
เสียงสุดท้ายจากประชาคมแพทย์
ประเทศไทยได้ทำหน้าที่ในฐานะรัฐภาคี Geneva Convention อย่างครบถ้วนแล้ว ช่วยชีวิตให้การรักษาส่งตัวกลับด้วยมนุษยธรรมแต่เมื่อฝ่ายตรงข้ามนำผู้ป่วยกลับสู่สนามรบนั่นไม่ใช่เพียงการ “แหกกฎ”แต่เป็น การเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ที่ป่วยและเปราะบางที่สุดประชาคมแพทย์ยืนอยู่ข้างหลักมนุษยธรรมหลักกฎหมายสากลและความเป็นมนุษย์เหนือการเมืองและสงครามเราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปกป้องชีวิตหนึ่งชีวิตที่ไม่มีทางป้องกันตัวเองจากคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้
Admin ประชาคมแพทย์
17 พย.2568"


