สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (สสอท.) จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 48 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก โดยมี ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานกล่าวแสดงความยินดี พร้อมเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ และกล่าวปาฐกถา โดยงานนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่รวมพลังสถาบันอุดมศึกษาเอกชนกว่า 64 สถาบันจากทั่วประเทศ ในการแสดงศักยภาพ ความร่วมมือ และความมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการศึกษา การวิจัย และการสร้างบัณฑิตคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศชาติ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีและ AI ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การสร้างความร่วมมือในหลายมิติ ทั้งด้านวิชาการ งานวิจัย นวัตกรรม กิจการนักศึกษา และศิลปวัฒนธรรม โดยมี รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย นายกสมาคม สสอท. เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วย ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ นายกรับเลือก ดร.เสนีย์ สุวรรณดี เลขาธิการ อาจารย์สมพงษ์ แก้วเจริญไพศาล รองเลขาธิการ คณะกรรมการบริหาร รวมถึง อธิการบดี คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา ในเครือข่ายสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สะท้อนถึงความสำเร็จของสมาคมฯ ที่ดำเนินพันธกิจยกระดับคุณภาพการอุดมศึกษาเอกชนมาอย่างต่อเนื่องเกือบครึ่งศตวรรษ โดยมุ่งเน้นส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทุกมิติ ทั้งการผลิตบัณฑิต การวิจัย การสร้างนวัตกรรม และความร่วมมือกับภาคเอกชน
ด้าน รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย นายกสมาคม สสอท. กล่าวเปิดงาน โดยเน้นย้ำถึงจุดแข็งของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการของสังคม พื้นที่ และภาคธุรกิจ เนื่องจากต้องดำเนินงานในเชิงธุรกิจ นอกจากนี้ รศ.ดร.ธนวรรธน์ ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของประเทศในปัจจุบันด้านกำลังคนด้าน ICT โดยระบุตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึงความขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI ดังนั้น สสอท. จึงมุ่งมั่นที่จะร่วมกันผลิตบัณฑิตด้านไอทีและ AI ในเชิงประยุกต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจโลก
ภายหลังพิธีเปิดงาน ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้กล่าวปาฐกถาเนื่องในวาระครบรอบ 48 ปีของสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (สสอท.) แสดงความชื่นชมต่อ สสอท. ที่มีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่เป็นกลไกประสานงานระหว่างกระทรวงกับสถาบันสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีส่วนร่วมผลักดันนโยบายต่างๆ ของกระทรวงให้เกิดผลอย่างต่อเนื่อง
ปลัดกระทรวงฯ ศ.ดร.ศุภชัย ยังได้เน้นย้ำถึงจุดแข็งของมหาวิทยาลัยเอกชนที่สามารถตัดสินใจได้รวดเร็ว ทำให้นโยบายของกระทรวงสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างทันท่วงที พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวขอบคุณผู้บริหารและคณาจารย์ที่ได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Quick Win ของกระทรวง อว. และร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยสังคม ภัยเศรษฐกิจ และภัยความมั่นคง ซึ่งการสนับสนุนอย่างแข็งขันในทุกมิตินี้ ถือเป็นพลังสำคัญที่ทำให้สถาบันอุดมศึกษาเอกชนสามารถยืนเคียงข้างสังคมและประชาชนได้อย่างมั่นคงในทุกสถานการณ์
ในปีนี้สมาคมฯ ได้มอบรางวัลบุคลากรดีเด่น ประจำปี 2568 จำนวน 31 รางวัล และ รางวัลเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์แก่สมาคมฯ จำนวน 9 รางวัล รวมทั้งสิ้น 40 รางวัล โดยมีรายชื่อผู้ได้รับรางวัลในแต่ละสาขา ดังนี้
รางวัลเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์แก่สมาคมฯ จำนวน 9 รางวัล ได้แก่ รศ.ดร.บัณฑิต ทิพากร, อาจารย์ฉลอง แขวงอินทร์, ดร.สุนทรี รัตภาสกร, รศ.ดร.ศรุดา ชัยสุวรรณ, ดร.เสนีย์ สุวรรณดี, ดร.มานิต บุญประเสริฐ, ผศ.ดร.วิรัช เลิศไพฑูรย์พันธ์, ดร.จอมขวัญ ผลภาษี และ ผศ.วีรวิชญ์ เลิศรัตน์ธำรงกุล
บุคลากรดีเด่นด้านวิชาการ จำนวน 7 รางวัล ระดับดีเด่น กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ นางสาวสุกฤตา ตะการีย์ มหาวิทยาลัยสยาม ระดับดีมาก (Outstanding) กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ ดร.ศิถา ปัญญาวัชรวงศ์ มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ได้แก่ ผศ.พิชญา สุวรรณโน มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ระดับดี (Good) กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ นายอดิศักดิ์ หวานใจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ ดร.กนกวรรณ สกุลทรงเดช มหาวิทยาลัยศรีปทุม กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ได้แก่ นางสาวกัณยาวีร์ เพชรสุข มหาวิทยาลัยศรีปทุม และระดับชมเชย (Honorable Mention) กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ ผศ.ดร.สมฤดี ไทพาณิชย์ มหาวิทยาลัยสยาม
นักวิจัยรุ่นใหม่ จำนวน 5 รางวัล ระดับดีเด่น (Excellence) กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ ดร.อรุโณทัย สิงห์ตาแก้ว มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ผศ.ธนะวัฒน์ รวมสุก มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต นายลุกมาน สือรี มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ระดับชมเชย (Honorable Mention) กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ ดร.ถกลรัตน์ ทักษิมา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ Asst. Prof. Dr.Dong Yang มหาวิทยาลัยเกริก นักวิจัย จำนวน 7 รางวัล ระดับดีเด่น (Excellence) กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ ผศ.ดร.รติ วงษ์สถาน มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ผศ.ดร.เด่นชัย วรเดชจำเริญ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ดร.ภัทราภรณ์ สุขขาว สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ Dr. Wong Ming Wong มหาวิทยาลัยเกริก ผศ.ดร.นิติบดี ศุขเจริญ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ผศ.ดร.วงศ์วิศว์ หมื่นเทพ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ได้แก่ ผศ.กมลวรรณ พัชรพรพิพัฒน์ สารสุข มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
นอกจากนี้ สสอท.ยังมอบรางวัลบุคลากรดีเด่นด้านสนับสนุนวิชาการ ด้านกิจการนักศึกษา และด้านศิลปวัฒนธรรม จำนวน 6 รางวัล กลุ่มงานด้านสนับสนุนวิชาการ ระดับผู้บริหาร หรือหัวหน้าหน่วยงาน ระดับดีเด่น (Excellence) ได้แก่ นายจิรวงศ์ โตโสม สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ นางสาววันลภา เกิดเต็มภูมิ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ระดับดี (Good) ได้แก่ ผศ.ดร.ณัฐวุฒิ วิเศษ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ นายอิทธิพร ขำประเสริฐ มหาวิทยาลัยคริสเตียน นายภาณุวัฒน์ เรืองกุลทรัพย์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดับผู้ปฏิบัติการระดับดีเด่น (Excellence) ได้แก่ นายภาณุเดช ประทุมมา มหาวิทยาลัยศรีปทุม และระดับดี (Good) ได้แก่ นางสาวประไพร กรอกรวม มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก นางสาวเปรมวดี กระตุฤกษ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กลุ่มงานด้านกิจการนักศึกษา ระดับดีมาก (Outstanding) ได้แก่ นายเมธี วิเชียรสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ระดับดี (Good) ได้แก่ นางสาวรัชนี พงษ์ธานี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กลุ่มงานศิลปวัฒนธรรม ระดับดี (Good) ได้แก่ ดร.ณัฐธยาน์ ตรีผลา มหาวิทยาลัยศรีปทุม รวมถึงระดับผู้ปฏิบัติการ ระดับดี (Good) ได้แก่ นางสาวอรพรรณ ควงพันธ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
สำหรับรางวัลนักศึกษาดีเด่น รวมทั้งสิ้น จำนวน 40 รางวัล ครอบคลุมทุกสาขา ได้แก่ประเภทวิชาการดีเด่น จำนวน 11 รางวัล กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ นายกวีภพ มณีประวัติ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายกัมปนาท สุนทรธรรม สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ นายศุภกร จัง วิทยาลัยดุสิตธานี กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ นายชัยกวี อำทะวงษ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี นายรติภัทร นภานุรักษ์ มหาวิทยาลัยสยาม กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ นางสาวภัทรพร พูลทั่วญาติ วิทยาลัยดุสิตธานี นางสาวอาทิตยา พรวศิน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ นายพีรวิชญ์ ไชยศร มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ได้แก่ นายวัลลภ ทองแดง มหาวิทยาลัยศรีปทุม นางสาวจารุวรรณ ด้วงหิรัญ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นายศุภชัย ฤทธิรัตน์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
รางวัลนักศึกษาดีเด่นประเภทวิทยานิพนธ์ดีเด่น จำนวน 21 รางวัล แบ่งเป็นระดับปริญญาโท จำนวน 11 รางวัล ผู้ได้รับรางวัลกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ Miss Yan Xie สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ นายพิสิทธิ์ ทิพยเสม มหาวิทยาลัยศรีปทุม นางสาวสุมารินทร์ เรืองโรจน์ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ นางสาวนพรัตน์ เนียมสุคนธ์สกุล มหาวิทยาลัยคริสเตียน นายศิวนารถ หงษ์ประยูร มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ ร้อยเอกกฤษฎา ลีเลียง มหาวิทยาลัยรังสิต Mr. Nyan Lin Naing สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ นางสาวยโสธรา แสนเขื่อน มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ได้แก่ นายสิทธิราชย์ หลีล้วน สถาบันสารสาสน์เทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ นายอภิศักดิ์ ยีเกษม มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ นายชวัลวิทย์ บูรณวนิช มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ส่วนในระดับปริญญาเอก จำนวน 10 รางวัล ผู้ได้รับรางวัลกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ ดร.สุรพันธ์ สันติยานนท์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ดร.ธนกฤษ จันทร์แสง มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ ดร.ศจีรัตน์ โกศล มหาวิทยาลัยคริสเตียน กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ ดร.รัฐพงษ์ ลาภเย็น มหาวิทยาลัยศรีปทุม ดร.พงศกร ลิ่มนา มหาวิทยาลัยรังสิต ดร.กษิภัท ภัทรบวรวุฒิ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ได้แก่ นพ.ชัยณัฐ สุรพิชญ์พงษ์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต Dr.Kaiyu Yang มหาวิทยาลัยกรุงเทพ Dr. Wu Jiang-Hua มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ดร.สายฝน พุดประกอบ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
นอกจากนี้ สสอท.ยังมีมอบรางวัลนักศึกษาดีเด่นประเภทกิจกรรมดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ประเภทบุคคล ได้แก่ นายจิรายุทธ์ เชื้อดี มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ นายณัฏฐกิตติ์ ทุ่ยอ้น มหาวิทยาลัยรังสิต นางสาวณภัทร วัฒน์แย้ม มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ประเภททีม ได้แก่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รวมถึงนักศึกษาดีเด่นประเภทศิลปวัฒนธรรมดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ประเภทบุคคล ได้แก่ นายวัฒนพล บุญรักษ์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ นางสาวศศิชา เพชราภรณ์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ นางสาวเพชรรัตน์ ปัญญาวาทิตาทร วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น ประเภททีม ได้แก่ มหาวิทยาลัยรังสิต
พร้อมกันนี้ ยังได้ประกาศผลการคัดเลือกนักศึกษาคณะบัญชีเพื่อรับทุน"กองทุนเต็ม - ยรรยง วรากรวรวุฒิ" ปี 2568 ได้แก่ นายพสธร ช้างน้อย มหาวิทยาลัยรังสิต และคัดเลือกนักศึกษาที่มีความสามารถด้านกีฬา เพื่อรับทุน "สุธี บูรณธนิต" ปีพุทธศักราช 2568 ได้แก่ นายธนัช เตชะรัตนวิบูลย์ มหาวิทยาลัยสยาม
เวทีเสวนา การขับเคลื่อน AI เพื่อการปฏิรูปอุดมศึกษา
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างสูงและเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของงานในครั้งนี้ คือการเสวนาวิชาการหัวข้อ "บทบาทของสถาบันอุดมศึกษาไทยในการยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)" โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิระดับแนวหน้าจากสถาบันสมาชิกมาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประกอบด้วย รศ.ดร.ณัฐภพ นิ่มปิติวัน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, ผศ.ดร.ชัชชัย หวังวิวัฒนา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ศ.ดร.สื่อจิตต์ เพ็ชร์ประสาน มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมี อาจารย์สืบศักดิ์ สืบภักดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผู้ร่วมเสวนาได้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่อุดมศึกษาเอกชนจะต้องนำ AI มาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบ (Fully Integrated) ซึ่งครอบคลุมทั้งมิติของการบริหารจัดการ การเรียนการสอน และการวิจัย โดยมีการนำเสนอแนวทางที่เป็นรูปธรรมในหลากหลายด้าน ตั้งแต่การประยุกต์ใช้ Machine Learning เข้ามาช่วยในระบบ Retention หรือการดูแลนักศึกษาเพื่อคาดการณ์และป้องกันการลาออก โดยใช้ปัจจัยที่หลากหลายกว่า 20 ปัจจัย ซึ่งระบบนี้มีประสิทธิภาพในการทำนายความถูกต้องสูงถึงร้อยละ 90 ทำให้สามารถเข้าถึงและให้คำปรึกษาได้อย่างรวดเร็วและตรงประเด็น ซึ่งเป็นการใช้ AI ในระบบสนับสนุนการเรียนการสอน (system that supports)
ในด้านการพัฒนากำลังคน หลายมหาวิทยาลัยริเริ่มโครงการ "AI Champions" เพื่อพัฒนาอาจารย์ให้สามารถบูรณาการ AI เข้ากับการเรียนการสอนในทุกสาขาวิชา เพื่อให้บัณฑิตมีทักษะแห่งอนาคตที่หลากหลายและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาจริงผ่านการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning) ควบคู่ไปกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Supercomputer (GPU) และการสร้างศูนย์ความเป็นเลิศด้าน AI เพื่อส่งเสริมงานวิจัย รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างเครือข่ายความเร็วสูงเพื่อรองรับการไหลของข้อมูลสำหรับระบบ AI ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ ผู้ร่วมเสวนายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของจริยธรรม (Ethics) ในการใช้ AI และการรักษาพื้นฐานวิชาชีพของนักศึกษาให้แข็งแกร่ง โดยในช่วงท้าย วิทยากรทุกท่านเห็นพ้องว่า การใช้ AI เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มจากการใช้โปรแกรมที่มีอยู่ก่อน ปรับปรุง และทำซ้ำ (Iterate) อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งควรมีการแชร์นวัตกรรมและทรัพยากรระหว่างสถาบันสมาชิก เพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อนและเร่งรัดให้เกิดผลลัพธ์ที่รวดเร็ว (Quick Win)
บุคลากร-นักศึกษา รวมพลังจากสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ด้าน นางสาวอาทิตยา พรวศิน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการจัดการการโรงแรม คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผู้ได้รับรางวัลนักศึกษาดีเด่นประเภทวิชาการดีเด่น กลุ่มสังคมศาสตร์ ได้เล่าถึงความภาคภูมิใจที่เกิดจากความทุ่มเทในการฝึกซ้อมและการเข้าร่วมการแข่งขันทำอาหารทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลงานที่สั่งสมจากประสบการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงความตั้งใจจริงในการพัฒนาทักษะและความสามารถอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือการคว้ารางวัล Top Score อันดับ 3 จากการแข่งขันที่ประเทศเกาหลี ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างความมั่นใจสู่เส้นทางอาชีพเชฟในอนาคต รางวัลนี้ไม่เพียงเป็นเกียรติยศ แต่ยังเปิดโอกาสให้ต่อยอดไปสู่การทำงานในโรงแรมและการพัฒนาทักษะเฉพาะทางด้านอาหารให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงต่อไป
ขณะที่ งานวิทยานิพนธ์ดีเด่นระดับปริญญาโท กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายพิสิทธิ์ ทิพยเสม นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้นำเสนอนวัตกรรมด้านความยั่งยืน ผลงานวิจัยคือการพัฒนา “อิฐจีโอโพลิเมอร์” หรือ Geopolymer Brick ซึ่งใช้วัสดุเหลือใช้ เช่น เถ้าลอยและเถ้าชานอ้อย มาทดแทนปูนซีเมนต์ ถือเป็นการสร้างวัสดุประสานทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้งานจริง
นวัตกรรมนี้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 80% และมีคุณสมบัติในการทนไฟสูงกว่า 4 ชั่วโมง จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยนายพิสิทธิ์ ยังได้ตั้งเป้าว่างานวิจัยนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อโลกมากขึ้นในอนาคต และช่วยขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อโลกให้มากขึ้นในอนาคต
ทางด้าน นายชวัลวิทย์ บูรณวนิช นักศึกษาจากวิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ซึ่งได้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ดีเด่นระดับปริญญาโท กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ได้นำเสนอผลงานเรื่อง การพัฒนาทักษะทางภูมิศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภูมิศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบงานภาคสนามร่วมกับการศึกษาหาความรู้”
งานวิจัยดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ผู้สอนพบว่า การเรียนการสอนวิชาภูมิศาสตร์มักจำกัดอยู่เพียงในตำราและห้องเรียน จึงมีแนวคิดที่จะย้ายบริบทการเรียนสู่การปฏิบัติจริง ซึ่งนายชวัลวิทย์ได้ออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ใหม่ โดยให้ผู้เรียนใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์และกระบวนการค้นคว้าเพื่อสร้างความเข้าใจเชิงประสบการณ์
นายชวัลวิทย์ ยังระบุด้วยว่า รางวัลที่ได้รับสะท้อนถึงการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งระหว่างอาจารย์และนิสิต รวมถึงการออกแบบหลักสูตรที่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการเป็นครูสามารถปรับตัวและเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ งานวิจัยนี้ยังได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากคณาจารย์ผู้เป็นพี่เลี้ยงตลอดกระบวนการ
สำหรับรางวัลวิทยานิพนธ์ดีเด่นระดับปริญญาเอก ดร.สายฝน พุดประกอบ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้นำเสนอผลงานวิจัยเชิงธุรกิจ เรื่อง “โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อความตั้งใจเช่าวัตถุมงคลซ้ำผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์” งานวิจัยนี้เกิดขึ้นจากการสังเกตการเติบโตของตลาดเช่าวัตถุมงคลออนไลน์ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 7,000–15,000 ล้านบาทต่อปี และสะท้อนถึงศักยภาพของตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคกลับมาเช่าซ้ำ ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความจริงใจ และความน่าเชื่อถือของผู้ขาย ข้อมูลเหล่านี้จึงมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการพัฒนาธุรกิจวัตถุมงคลออนไลน์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถใช้เป็นแนวทางในการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคในอนาคต
การจัดงานครบรอบ 48 ปี สสอท. ในครั้งนี้ ถือเป็นการรวมพลังของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมแห่งความรู้และนวัตกรรม โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันการมุ่งเน้นการใช้ AI และการพัฒนาบัณฑิตที่มีทักษะแห่งอนาคต เป็นการลงทุนในรากฐานหนึ่งที่สำคัญ ที่จะขับเคลื่อนและนำความยั่งยืนมาสู่ประเทศไทย


