ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดกัมพูชา ใกล้ปราสาทโดนตวล เคราะห์ดีระเบิดทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ซ้ำตรวจพบกัมพูชาหยอดกาวไว้ที่ชนวนหวังไม่ให้เก็บกู้ ด้าน AOT ถึงขั้นเอ่ยว่า “คุณโชคดีมาก”
วันนี้ (17 พ.ย. 68) คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนประจำประเทศไทย ASEAN Observer Team-Thailand หรือ AOT ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเพื่อสังเกตการณ์ และรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงบริเวณจุดประจำการปราสาทโดนตวล ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ทหารกัมพูชาลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดจนทำให้กำลังพลหนึ่งนายประสบเหตุ เคราะห์ดีที่ทุ่นระเบิดทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
พันตรี ผดุงเดช พ่อค้าช้าง รองผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 12 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ตน และกำลังพลรวมทั้งหมด 7 นายเข้าพื้นที่ไปลาดตระเวน ซึ่งเป็นจุดเดิมที่เคยลาดตระเวนแล้ว เนื่องจากมีรายงานว่ากัมพูชาลักลอบเข้ามาในพื้นที่ โดยจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณสามแยก ซึ่งทหารกัมพูชาจะสามารถเดินขึ้นมาใกล้กับบริเวณสามแยกนี้ได้
โดยนาทีที่เกิดเหตุมีทหารนายหนึ่งเดินข้ามทุ่นระเบิดดังกล่าวไป แต่กำลังพลที่เดินตามเป็นนายที่สองเหยียบทุ่นระเบิดเข้าอย่างจังจนมีเสียงดังตูม และมีควันพุ่งขึ้นมาจากจุดดังกล่าว เหตุนี้จึงมีการสั่งกำลังถอยร่นออกจากพื้นที่เพื่อที่จะกลับมารายงานให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปตรวจสอบ
วันรุ่งขึ้น (21 ต.ค. 68) ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจึงเข้าตรวจสอบพบทุ่นระเบิดทั้งหมด 4 ทุ่น เป็นทุ่นระเบิดใหม่ชนิด PMN 2 ซึ่งขณะเก็บกู้วัตถุระเบิดยังพบว่า ดินขยายการระเบิด หรือภาษาชาวบ้านคือบริเวณชนวน มีการหยอดกาวเอาไว้ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้วางไม่ต้องการให้เก็บกู้ เพราะหากเก็บกู้แล้วถอดชนวนออกอาจจะระเบิดคามือ
พลจัตวา ซัมซุล ริซาล มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย ในฐานะหัวหน้าคณะ AOT ฝ่ายไทย ถึงกับเอ่ยว่า "คุณโชคดีมาก"
มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.68 คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) และทีมกองทัพไทย รวม 8 นาย เข้าสำรวจบริเวณพื้นที่บริเวณช่องอานม้า และพื้นที่สัตตะโสม เพื่อรับทราบข้อมูลจากหน่วยในพื้นที่ โดยเป็นการรับฟังการบรรยายสรุปในลักษณะบอร์ด walk ชี้แจงสถานการณ์ในพื้นที่ ชี้แจงเรื่องกำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด และการตรวจพบกับระเบิด ทุ่นระเบิดในพื้นที่เป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้นได้ดูทุ่นระเบิดที่ทางฝ่ายไทยได้เก็บกู้ได้ในพื้นที่ รวมทั้งมีการสอบถามจาก AOT เป็นการสอบถามวันเวลาที่ตรวจพบ และชิ้นส่วนต่างๆที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เพื่อนำมาประกอบหลักฐานความสอดคล้องในการนำมาวางใหม่หรือไม่อย่างไร
หลังจากนั้นได้เดินสำรวจเส้นทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุและได้สอบถามข้อมูลจากกำลังพลที่ปฏิบัติงานเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบการรายงาน ระหว่างทางกลับได้แวะเซเว่นอีเลฟเว่น(7-11) ที่เกิดเหตุจรวด หลายลำกล้อง BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา ยิงเข้าใส่จนเป็นเหตุให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตหลายราย และยังสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของประชาชนอย่างมาก โดยหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน(AOT) ได้สอบถามเหตุการณ์จากประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียหายในวันนั้น อีกด้วย


