xs
xsm
sm
md
lg

"รถขนฝัน" หรือ "สัญลักษณ์แห่งความล้มเหลว" ตบหน้าความจริงของ Ecosystem ฟุตบอลไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อ "รถขนฝัน" กลายเป็นฮีโร่ นี่คือสัญญาณเตือนที่น่าอับอายที่สุดของวงการกีฬาไทย บทความตั้งคำถามตรงไปที่สมาคมฟุตบอลฯ ว่า "งบประมาณพัฒนาฟุตบอลรากหญ้าหายไปไหน?" พร้อมชี้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ทำให้วัตถุดิบ (Talent) ทั่วประเทศไม่สามารถเข้าสู่ระบบลีกได้ เพราะขาด "ระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่ง" และความสำเร็จของทีมอย่างหมอนทอง เป็นเพียงเพชรที่หลุดรอดมาจาก "Supply Chain Management" ที่พังทลายเท่านั้น

จากกรณี โรงเรียนหมอนทองวิทยา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กลายเป็นที่จับตามองของวงการฟุตบอลระดับนักเรียนในประเทศไทย เมื่อทีมฟุตบอลของโรงเรียนใช้ “ยานพาหนะคู่ใจ” ที่ถูกเรียกว่า รถขนฝัน — เป็นรถบรรทุก / รถสองแถวคันเก่า ที่ทีมใช้เดินทางไปแข่งขัน โดยเฉพาะการแข่งขันรายการ ฟุตบอลแชมป์กีฬา 7 HD แชมเปียน คัพ 2025 ซึ่งทีมสามารถทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อย่างน่าทึ่ง

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ระวี ตะวันธรงค์“ ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ปรากฏการณ์ "หมอนทองฟีเวอร์" และภาพ "#รถขนฝัน" ว่าเป็น "ตลกร้าย" และ "การประท้วงโดยสันติ" ของแฟนบอลต่อความล้มเหลวในการบริหารจัดการฟุตบอลไทย โดยชี้ให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งนี้ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

““รถขนฝัน" หรือ "สัญลักษณ์แห่งความล้มเหลว"
เมื่อความฝันเป็นความสามารถของเด็กๆ
ตบหน้าความจริงของ Ecosystem ฟุตบอลไทย

ปรากฏการณ์ "หมอนทองฟีเวอร์" และภาพ #รถขนฝัน ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย มันคือ "ตลกร้าย" ที่วนซ้ำ มันคือ "ไวรัล" ที่เกิดขึ้นบน "ซากปรักหักพัง" ของระบบอุปถัมภ์ และความล้มเหลวในการบริหารจัดการทรัพยากร

ถ้าเราเลิก "โรแมนติก" แล้วมองด้วยสายตาของนักกลยุทธ์ เราจะเห็นปัญหาที่ชัดเจน 4 ข้อ

1. Product (สินค้า) vs. Management (การบริหาร)
คนไทยไม่เคย "เลิก" รักฟุตบอลไทย พวกเขารัก "Product" ที่เรียกว่า "ความพยายาม" และ "เรื่องราว" (The Story)

หมอนทองวิทยาคือ "Product" ที่สมบูรณ์แบบ: ม้ามืด (Underdog), สู้จากความขาดแคลน (Authentic), มีสัญลักษณ์ที่จับต้องได้ (รถขนฝัน) นี่คือ "คอนเทนต์" ที่ดีที่สุดที่สมาคมฟุตบอลฯ ไม่เคยสร้างได้

ในทางกลับกัน คนไทย "สิ้นหวัง" กับ "Management" (สมาคมฯ) มาทุกยุค

กระแส "หมอนทองฟีเวอร์" จึงไม่ใช่แค่การเชียร์ฟุตบอล แต่มันคือการ "ประท้วงโดยสันติ" (Peaceful Protest) ของ Stakeholders (แฟนบอล) ที่บอก "ผู้บริหารฟุตบอลไทย" ว่า….

"นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณทำอยู่"

2. "รถขนฝัน" คือ KPI ที่ชี้วัดความล้มเหลว :
การที่ "รถขนฝัน" กลายเป็นฮีโร่ คือเรื่องน่าอับอายที่สุดของ Ecosystem กีฬาไทย

ในประเทศที่เจริญแล้วด้านกีฬา "รถขนฝัน" จะต้องถูกตรวจสอบ ไม่ใช่ถูกชื่นชม มันคือหลักฐานของความล้มเหลวในการ "จัดสรรทรัพยากร" (Resource Allocation) ที่ชัดเจนที่สุด

คำถามที่ต้องถาม ไม่ใช่ "จะบริจาคให้เขาเท่าไหร่" แต่คือ "งบประมาณพัฒนาฟุตบอลรากหญ้า (Grassroots) หายไปไหน?" ทำไมโรงเรียนที่มุ่งมั่นขนาดนี้ ถึงต้องพึ่งพา "ความเสียสละส่วนบุคคล" (ครู) แทนที่จะอยู่ใน "ระบบสนับสนุน" (Supporting System) ที่แข็งแกร่ง
นี่ไม่ใช่เรื่อง "น้ำใจ" แต่มันคือเรื่อง "โครงสร้าง" (Structure) ล้วนๆ

3. ความเหลื่อมล้ำ = Supply Chain ที่พังทลาย
ในเชิงธุรกิจ ถ้าคุณมี "วัตถุดิบ" (Talent) ที่ดีอยู่ทั่วประเทศ แต่คุณ "ขนส่ง" มันมาเข้า "โรงงาน" (ระบบลีก, อะคาเดมี่) ไม่ได้ นั่นคือ "Supply Chain Management" ที่ล้มเหลว

กรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ คือ "Hub" ที่ดูดซับโอกาสทุกอย่างไว้ เด็กต่างจังหวัดที่มีพรสวรรค์ (Raw Talent) มีต้นทุนที่ต้องจ่ายสูงกว่ามหาศาลเพื่อเข้าสู่ระบบ
เรากำลังรอให้ "เพชร" โผล่ขึ้นมาจากตมเอง โดยไม่เคยสร้าง "ระบบ" ขุดค้นที่มีประสิทธิภาพ สมาคมฯ ทำงานแบบ "รอรับ" (Passive) ไม่ใช่ "รุกเข้าหา" (Active Scouting)

หมอนทอง หรือ อบจ. ชัยนาท คือตัวอย่างของ "วัตถุดิบ" ที่หลุดรอดมาได้ด้วยตัวเองความสามารถ และฝันของตัวเอง ไม่ใช่เพราะระบบพามันมา

4. จาก "ระบบอุปถัมภ์" สู่ "ระบบอาชีพ" (ที่ยังไม่เกิด)
ปัญหาที่แท้จริงของสมาคมฟุตบอลฯ คือการไม่เคย "ปฏิรูป" (Transform) จาก "ระบบอุปถัมภ์" (Patronage System) ไปสู่ "การบริหารแบบมืออาชีพ" (Professional Management) ได้สำเร็จ

เรายังคงติดอยู่กับการเมืองภายใน, การแบ่งขั้ว, และการมองผลประโยชน์ระยะสั้น (การเลือกตั้งนายกสมาคมฯ) มากกว่าการวาง "พิมพ์เขียว" (Blueprint) 10-20 ปี

เราตื่นเต้นกับ "Soft Power" แต่เราลืม "Hard Infrastructure" ที่เป็นรากฐาน

สรุป
ปรากฏการณ์ "หมอนทองฟีเวอร์" เป็น "ยาแรง" ที่กระตุ้นสังคม แต่ถ้าเรายังจบด้วยการ "บริจาค" ซื้อรถคันใหม่ให้ อ.สกล แล้วแยกย้าย มันก็คือการ "ซื้อเวลา" ให้กับความล้มเหลวเดิมๆ

ถ้าเราอยากเห็นฟุตบอลไทยไปไกลกว่านี้ เราต้องเลิกโรแมนติกกับความลำบาก และเริ่ม "ทุบ" โครงสร้างที่มันพังทลายนี้ทิ้งไป

"รถขนฝัน" ไม่ควรเป็นสัญลักษณ์ของ "นักสู้"
มันควรเป็นสัญลักษณ์ "ตราบาป" ของผู้บริหารฟุตบอลไทย ที่ปล่อยให้เด็กๆ ต้องสู้ด้วยตัวเองครับ“
กำลังโหลดความคิดเห็น