พลโทบุญสิน "แม่ทัพกุ้ง" อดีตแม่ทัพภาค 2 เปิดใจ "สุดเสียใจ" ที่ต้องเสียปราสาทตาควายให้เขมร แต่เผยเป็นเหตุผลทางยุทธวิธีที่จำเป็นต้องยอม เพื่อทุ่มกำลังรักษา "ปราสาทตาเมือนธม" ที่สำคัญกว่าไว้ให้ได้ พร้อมลั่น "จะทวงคืนเมื่อมีโอกาส"
วันนี้ (8 พ.ย.) น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เผยว่า "แม่ทัพกุ้ง" ยอมรับเสียใจ เสียปราสาทตาควายให้เขมร เพราะถูกรุกหนักที่ปราสาทตาเมือนธม พอจะกลับมาทวงคืน หมดเวลาก่อน ทั้นนี้ น.ส.วาสนา ได้ระบุข้อความว่า
"“แม่ทัพกุ้ง” ยัน เอาคืน ปราสาทตาควาย เมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
เผย เสียใจ เพราะ สัญลักษณ์หนึ่ง แต่ตอนนั้น ต้องปกป้อง ปราสาทตาเมือนธม ไว้ให้ได้ เพราะทหารเขมร ระดมกำลังเข้ามามาก หมายจะยึดให้ได้
ถามว่าเสียใจมั้ย ไม่ต้องพูดถึง ใจ อยากให้ประสาท หายไปเลย
พลโทบุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาค2 และที่ปรึกษา ผบ.ทบ. พูดที่นครราชสีมา ถึง ความรู้สึกที่สูญเสียปราสาทตาควายไป ว่า เสียใจ เพราะก็ถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่ง
แต่ปราสาท ตาเมือนธม สำคัญกว่า เรายอมเสียไม่ได้ จึงระดมกำลังมาป้องกันที่นี่ ทหารเขมรขึันมา ทีละ 100 คน อัดบังเกอร์เราพัง เขาจะเอาให้ได้เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ สำคัญกว่าตาควาย เราถูกยึดไม่ได้ เรายอมไม่ได้เขาสูญเสียเยอะมาก เพราะเขาใช้กำลังมาเยอะ ที่ตาเมือนธม
ปราสาทตาควายอยู่ลึกบนเขา เฉียดเส้นเขตแดนและใกล้เนิน 350 ที่เขมร ควบคุมอยู่ ตอนนั้น เรามองว่า เราต้องเอากำลังเรามายึดคืน “ภูมะเขือ” ก่อน เราสูญเสียไป1 นาย พอเรายึดได้ เราจะมาเอาที่ตาควายคืน แต่หมดเวลาเสียก่อน รบกัน 4 คืน 5 วัน เราจะเอาคืน แน่เมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
”แม่ทัพกุ้ง“ จะพาไปเที่ยวภูมะเขือก่อนแล้วไปจิบกาแฟที่ ตาเมือนธม แล้วไปจิบโค้กเย็นๆที่ ‘ตาควาย"


