“ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” อธิบายเส้นทางพายุคัลแมกีพัดผ่านฟิลิปปินส์มุ่งหน้าเข้าเวียดนาม ย้ำไทยโดนฝนไม่ใช่ลม ชี้โลกร้อนทำพายุรุนแรงขึ้นทุกปี ย้ำแค่ซ้อมมือ ของจริงยังไม่มา พร้อมส่งกำลังใจให้สองประเทศที่ต้องรับแรงปะทะแทนภูมิภาค
วันนี้ (4 พ.ย.) เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" ของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ระบุข้อความว่า ฟิลิปปินส์และเวียดนามคือเกราะกำบังไต้ฝุ่นของไทย เมื่อเกิดพายุใหญ่ในแปซิฟิก ลมจะพัดมาทางตะวันตก เส้นทางหนึ่งคือเฉียงขึ้นเหนือไปไต้หวันญี่ปุ่น ไม่เกี่ยวกับบ้านเรา
อีกเส้นคือมาตรงๆ ผ่านฟิลิปปินส์ ความรุนแรงลดลง จากนั้นก็เพิ่มความแรงอีกครั้งเมื่อผ่านทะเลจีนใต้ ยิ่งน้ำร้อนเท่าไหร่ยิ่งแรงเท่านั้น
พายุเส้นทางนี้อาจเฉียงขึ้นเหนือเล็กน้อย เข้าฮ่องกงและเวียดนามเหนือ ส่งผลต่อภาคเหนือและอีสานตอนบน เหมือนที่มาหลายลูกในปีนี้
อีกเส้นคือกดต่ำลงหน่อย เข้าเวียดนามตรงๆ โดยไม่ผ่านฮ่องกงหรือไห่หนาน ลมจะแรงหน่อยเพราะผ่านทะเลตลอด แต่เคราะห์ดีที่ช่วงนี้น้ำทะเลไม่ร้อนจัด ลมจึงไม่แรงสุดๆ เหมือนไต้ฝุ่นในช่วงพีก (ไตรมาส 3)
พายุคัลแมกีพัดผ่านฟิลิปปินส์เมื่อวาน สร้างความเสียหายให้ที่นั่น จากนั้นพายุก็มุ่งตรงเข้าเวียดนามที่กำลังเตรียมรับมือ
สำหรับบ้านเรา ที่โดนหนักคือฝนไม่ใช่ลม เพราะลมถูกกั้นไว้เกือบหมด กรมอุตุฯ ประกาศเตือนแล้ว 6-9 พ.ย. หนนี้น่าจะเป็นอีสานล่าง ภาคตะวันออก จนถึงกรุงเทพฯ
เตรียมรับมือกันไว้นะครับเพื่อนธรณ์ ที่ตกอยู่ตอนนี้เป็นแค่ซ้อมมือ ของจริงยังไม่มา
อยากส่งกำลังใจไปให้ชาวฟิลิปปินส์และเวียดนาม ทุกครั้งที่เกิดความสูญเสียในสองประเทศ ผมเศร้าเสมอ
ขอบคุณที่เป็นปราการต้านไต้ฝุ่นของอาเซียน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคัลแมกีจะไม่สร้างความสูญเสียมากมายจนเกินไป
เราต้องเผชิญกับฟ้าฝนแปรปรวนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องโทษใครครับ เราทำให้โลกเป็นเช่นนี้เอง และยังไม่ยอมหยุด โลกจึงยังโคตรร้อนโคตรท่วม ไปอีกนานถึงรุ่นลูกหลานครับ"


