xs
xsm
sm
md
lg

4 องค์กรหลัก ผนึกกำลังจัดงานใหญ่ ชู "ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค" ขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่ "ฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคต"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อว. ผนึกกำลัง สกสว. และ สวทช. โชว์พลัง 4 ระเบียงเศรษฐกิจ ในงาน “Synergise 4 Economic Corridors” ดันนวัตกรรมสู่การเติบโตของภูมิภาค ดร.วัฒนจักร เผยความสำเร็จสร้าง 56 โครงการนวัตกรรมเชิงลึก พร้อมบุคลากร 168 ราย คาดการณ์สร้างมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 4.9 แสนล้านบาท ใน 5 ปี สกสว. ย้ำอุทยานวิทยาศาสตร์คือกลไกสำคัญสู่การเป็น "ฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคต" โดยเชื่อมโยงงานวิจัยเข้ากับบริบทเศรษฐกิจเฉพาะพื้นที่

กลุ่มอุทยานวิทยาศาสตร์ (กอ.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วยอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ได้ร่วมกันจัดงานครั้งสำคัญในชื่อ “ประสานพลัง 4 ระเบียงเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์นวัตกรรมและพลังร่วมเพื่อการเติบโตของภูมิภาค (Synergise 4 Economic Corridors: Strategy, Innovation and Synergy Directive for Regional Economic Growth)” เพื่อแสดงศักยภาพและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ดร.วัฒนจักร พุ่มวิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มอุทยานวิทยาศาสตร์ (กอ.) ได้เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของโครงการที่ดำเนินงานภายใต้แผน ววน. โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จของการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ว่า

"โครงการได้บรรลุเป้าหมายสำคัญในการสร้างรากฐานเทคโนโลยีเชิงลึก โดยสามารถสร้าง 56 โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเชิงลึก ที่พร้อมเข้าสู่เชิงพาณิชย์ และพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูงด้าน 7 เทคโนโลยี จำนวน 168 ราย ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เราคาดการณ์ว่ากลยุทธ์การขับเคลื่อนนี้จะสร้าง มูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 4.9 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี"

สกสว. ย้ำกลไก: อุทยานวิทย์ฯ คือจุดเชื่อมโยงสู่การเป็น “ฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคต” ด้านมิติทางยุทธศาสตร์ ศาสตราจารย์ ดร.คมกฤต เล็กสกุล รองผู้อำนวยการ สกสว. ได้เน้นย้ำถึงบทบาทการสนับสนุนของ สกสว. ว่า

"การสนับสนุนของ สกสว. มุ่งเน้นการใช้กลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคเป็น จุดเชื่อมโยงงานวิจัยและนวัตกรรมให้ตรงกับทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการบูรณาการเทคโนโลยีเป้าหมายให้เข้ากับบริบทของแต่ละพื้นที่ เช่น Creative Digital (NEC), Biorefinery (NeEC), Digital AI Sensor (CWEC) และ Oleochemical (SEC) เพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่ยั่งยืน ซึ่งจะนำไปสู่การเป็น 'ฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคต' ของภูมิภาคอย่างแท้จริง"

การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการ ผนึกกำลังผู้นำในการดำเนินงานระเบียงเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ (NEC), ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ (CWEC), ผศ.ดร.ปภากร พิทยชวาล (NeEC), และ ผศ.ดร.อนุรักษ์ ถุงทอง (SEC) มาร่วมแสดงศักยภาพของพื้นที่ พร้อมทั้งมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากหลายภาคส่วน อาทิ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภาคมหาวิทยาลัย ภาคการศึกษา และภาครัฐ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ยังได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามรายละเอียดผลงานเชิงประจักษ์ในแต่ละระเบียงเศรษฐกิจอีกด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น