กระทรวงยุติธรรม ขอน้อมถวายพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ผู้ทรงอุทิศพระวิริยะและพระปรีชาญาณในการพัฒนาระบบยุติธรรมไทยให้เป็นระบบ เปี่ยมด้วยความเมตตาและโอกาสสำหรับทุกชีวิต โดยตลอดระยะเวลา 19 ปี “โครงการกำลังใจในพระดำริฯ” ได้ขับเคลื่อนการทำงานอย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำของกระบวนการยุติธรรม ผ่านนวัตกรรมและผลลัพธ์ที่โดดเด่น แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จ คุณค่า และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นตลอด 2 ทศวรรษ ทั้งในมิติของการพัฒนาผู้ต้องขัง การฟื้นฟูคุณภาพชีวิต และการสร้างมาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชน อันเป็นผลจากพระดำริและการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องภายใต้กระทรวงยุติธรรม
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงได้รับแรงบันดาลพระทัยและทรงเป็น "เจ้าหญิงนักกฎหมาย" ผู้พลิกโฉมงานราชทัณฑ์ผ่านเส้นทางชีวิตที่ผูกพันกับกระบวนการยุติธรรมมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ หลังสำเร็จการศึกษาพระองค์ทรงเข้ารับราชการในตำแหน่งนายทหารพระธรรมนูญ และต่อมาได้ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในตำแหน่งอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญที่ทำให้ทรงได้ศึกษาสภาพปัญหาของผู้กระทำผิดในทุกมิติ ขณะทรงปฏิบัติหน้าที่พระองค์ได้ทรงพบปะกับจำเลยและผู้ต้องขังในกระบวนการพิจารณาคดี ทรงตระหนักถึง “ช่องว่างของระบบยุติธรรม” ที่มักแยกการทำงานของหน่วยงานออกจากกัน ทั้งในด้านการดูแลผู้ต้องขัง การให้ความรู้ทางกฎหมาย การฟื้นฟูจิตใจ และการเตรียมความพร้อมก่อนคืนสู่สังคม พระองค์จึงทรงมีพระดำริที่จะสร้าง “กลไกแห่งโอกาส” เพื่อให้ระบบยุติธรรมสามารถดูแลผู้กระทำผิดได้อย่างครบวงจร พระปณิธานนี้ ได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของการริเริ่ม “โครงการกำลังใจในพระดำริฯ” ในเวลาต่อมา
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2549 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เสด็จเยี่ยมทัณฑสถานหญิงกลาง ทรงรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ต้องขังหญิงที่กราบทูลขอให้พระองค์เสด็จกลับมาช่วยเหลือพวกเธออีกครั้ง คำกราบทูลนั้นได้จารึกไว้ในพระราชหฤทัย และทรงถือเป็นพันธกิจที่จะต้องสานต่อ พระองค์จึงทรงมีพระดำริให้จัดตั้ง “โครงการกำลังใจในพระดำริฯ” เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์และเด็กที่อยู่กับมารดาในเรือนจำ ทรงโปรดให้ วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย เข้าร่วมพัฒนาหลักสูตรต้นแบบ 2 หลักสูตร คือ การตั้งครรภ์คุณภาพ และการสร้างคนดีเริ่มที่ขวบปีแรก ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “โมเดลกำลังใจแม่และเด็ก” ที่ยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ต้องขังหญิงและเด็กในเรือนจำของไทยให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานสากล
โครงการกำลังใจในพระดำริฯ ที่จัดตั้งขึ้น พระองค์เสด็จไปทรงเปิดโครงการ ณ เรือนจำหญิงหลายแห่งทั่วประเทศ ทรงติดตามผลการดำเนินงานด้วยพระองค์เอง และมีพระดำริให้ขยายขอบเขตการดำเนินงานไปสู่การฝึกอาชีพ การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย การอบรมพัฒนาจิตใจ และการศึกษาวิจัยเพื่อนำไปสู่การพัฒนานโยบายอย่างเป็นระบบ
เนื่องในโอกาสการก่อตั้งโครงการกำลังใจฯ ครบรอบ 19 ปี กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ กองทุนกำลังใจฯ จึงจัดงานครบรอบ 19 ปี ภายใต้ชื่อ “2 ทศวรรษกำลังใจ ก้าวสู่โอกาสใหม่ ด้วยนวัตกรรม” เพื่อถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ผู้ทรงมีคุณูปการต่อกระบวนการยุติธรรมไทยและต่อกระทรวงยุติธรรม ด้วยแนวคิดของการจัดงานและการก้าวสู่ปีที่ 20 ของโครงการด้วยการ “ให้กำลังใจ ให้โอกาส ให้อนาคต” โดยรายละเอียดภายในงาน ประกอบด้วย
การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ
การเปิดตัวหลักสูตร “ปัญญาบำบัด” ซึ่งเป็นการสร้างกำลังใจเชิงลึกและกำลังใจแบบยั่งยืนสำหรับผู้ต้องขัง โดยได้กราบอาราธนาเชิญพระพรหมศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร บรรยายเกี่ยวกับหลักสูตร “ปัญญาบำบัด”
การจัดพิธี Kick Off “สานพลัง รัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม กับการให้โอกาสผู้พ้นโทษ” ในมิติต่างๆ เพื่อสร้างและเพิ่มเครือข่ายการช่วยเหลือผู้กระทำผิด
การจัดพิธีมอบรางวัลถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ สำหรับการประกวด การทำอาหาร ขนมและเครื่องดื่ม เพื่อยกระดับการฝึกอาชีพผู้ต้องขัง ประจำปี พ.ศ. 2568 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก
การมอบรางวัลการประกวดเรือนจำดีเด่นเพื่อพัฒนามาตรฐานการทำงานของเรือนจำ ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องมาโดยตลอดตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2566 - 2567
และการจัดนิทรรศการผลงานโครงการกำลังใจฯ ผลงานของเรือนจำ ผลงานของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน รวมทั้งการให้บริการดูดวงและนวดแผนไทยจากเรือนจำและคนต้นแบบ
ตลอดระยะเวลาจากการเริ่มโครงการถึงปัจจุบันเป็นเวลา 19 ปี ที่กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานร่วมกับกรมราชทัณฑ์และหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกกระทรวง พร้อมสืบสานพระปณิธาน เพื่อสร้างระบบยุติธรรมแห่งอนาคตที่ให้โอกาสผู้ก้าวพลาดอย่างยั่งยืนต่อไป


