xs
xsm
sm
md
lg

ประมวลภาพ : คณะบุคคล-ประชาชน เข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง ด้วยความอาลัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประชาชนหลั่งไหลเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย ต่างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

วันนี้ (26 ต.ค.) ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตามที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง ในวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 ตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น. 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่สำนักพระราชวังเปิดประตูมณีนพรัตน์ ซึ่งตั้งอยู่ถนนสนามไชย มีข้าราชการ คณะบุคคลและประชาชนต่างแต่งกายด้วยชุดสีดำ เดินทางมาต่อแถวเพื่อเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม และลงนามแสดงความอาลัยน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ภายในศาลาสหทัยสมาคม และด้านหน้าอาคารศาลาลูกขุนใน ในพระบรมมหาราชวังอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้า เช่น หน่วยราชการในพระองค์, นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) พร้อม ศุภชัย เจียรวนนท์ ณรงค์ เจียรวนนท์, นางปวีณา หงสกุล, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ, พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ, นายจาตุรนต์ ฉายแสง ราชสกุลเทวกุล เป็นต้น 
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ประชาชนต่างใส่ชุดไว้ทุกข์สีดำผ่านจุดกรองที่บริเวณท้องสนามหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่จัดเต็นท์ และเก้าอี้ คอยอำนวยความสะดวก พร้อมมีอาหาร และเครื่องดื่มให้บริการ จากนั้นประชาชนเข้าแถวเดินเข้าพระบรมมหาราชวังผ่านทางประตูมณีนพรัตน์ เพื่อเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม ทั้งนี้บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย โดยประชาชนบางคนถือพระฉายาลักษณ์ และพระสาทิสลักษณ์ไว้แนบอก และขณะที่ถวายน้ำสรงฯ ประชาชนบางคนได้หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจอย่างมิอาจสะกดกลั้นไว้ได้

นางมยุรี บรรดาศักดิ์ อายุ 77 ปี กล่าวว่า ออกจากบ้านบางเขน กรุงเทพฯ มาตั้งแต่เช้า เดินทางมาคนเดียว ตั้งใจมาสรงน้ำพระบรมศพด้วยความอาลัยรัก พร้อมกล่าวต่อด้วยใบหน้าโศกเศร้าและมีน้ำตาคลอว่า พอทราบข่าวว่าสมเด็จพระพันปีหลวงสวรรคตก็เสียใจมาก ร้องไห้อยู่นาน เมื่อทราบว่าสำนักพระราชวังเปิดให้สรงน้ำพระบรมศพจึงตั้งใจมาเพื่อถวายราชสักการะพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย รักพระองค์มาก ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีพระเมตตาต่อปวงชนชาวไทยโดยไม่แบ่งแยก พระราชทานอาชีพให้คนไทย ทรงเปรียบดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรที่เคียงคู่กับในหลวงรัชกาลที่ ๙ บำเพ็ญพระราชกรณียภารกิจมาตลอด 70 ปี เมื่อครั้งงานพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙ ตนก็มาเคารพพระบรมศพ 200 ครั้ง รักและเคารพทั้งสองพระองค์มาก 
นางธัยพร อร่ามเมฆา อายุ 65 ปี เดินทางมาจากบ้านย่านบางเขนตั้งแต่เช้าพร้อมกับลูกสาว กล่าวว่า ตั้งใจมาถวายสักการะน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เนื่องจากในชีวิตได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระพันปีหลวงหลายครั้งตั้งแต่อายุ 15 ปี มีความจดจำที่ทำให้เกิดความรัก ผูกพัน เทิดทูนในสถาบันและราชวงศ์จักรี ทั้งนี้ สิ่งที่ตนจำจดและมีต่อสมเด็จพระพันปีหลวง คือช่วงเวลาเข้าเฝ้าฯ ตอนเด็ก พระองค์จะรับสั่งถามทุกข์สุข เช่น หนูจ๊ะมาจากไหน กินข้าวหรือยังจ๊ะ ทำให้ซาบซึ้งในพระเมตตา นอกจากนี้ก็มีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงงานเพื่อพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนไทยทั่วทุกภาคของประเทศได้กินดีอยู่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
 
ด.ญ.ฑิธารา มาเปี่ยม อายุ 10 ขวบ ซึ่งมาในชุดนักเรียน พร้อมถือพระฉายาลักษณ์ ของสมเด็จพระพันปีหลวงโทนสีขาว ดำ มาด้วย กล่าวว่า เดินทางออกจากบ้านที่บางใหญ่ตอนตี 5 พร้อมกับคุณย่า ตั้งใจมาร่วมถวายสักการะน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยด้วยความเคารพสมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งพระองค์เป็นแม่ของในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ และเป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชน ซึ่งในวัยของตนเองอาจจะไม่ทันได้เห็นงานที่พระองค์ทรงทำ แต่คุณย่าได้เล่าให้ฟังบ่อยๆ ที่ผ่านมาคุณย่าพาไปทำจิตอาสาทำประโยชน์เพื่อสังคม การได้มาครั้งนี้รู้สึกภูมิใจที่ได้มาแสดงความเคารพสมเด็จพระพันปีหลวงในวันนี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวังมีประชาชนจำนวนมากมาจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จขบวนพระบรมศพตั้งแต่ 18.00 น.ของวันที่ 25 ตุลาคม และทยอยมากันเรื่อยๆ กระทั่งเช้าวันที่ 26 ตุลาคม บางส่วนปักหลักรอเพื่อให้ได้ส่งเสด็จพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวงเป็นครั้งสุดท้าย และบางส่วนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพฯ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง