xs
xsm
sm
md
lg

ดร.ธรณ์เล่าความทรงจำเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระพันปีหลวง ณ ภูพิงคราชนิเวศน์ หลังเหตุสึนามิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล เล่าความทรงจำเมื่อครั้งได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระพันปีหลวง ณ ภูพิงคราชนิเวศน์ หลังเหตุสึนามิ

วันนี้ (25 ต.ค.) เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” ของ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเลและรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เผยถึงความทรงจำประทับใจเมื่อครั้งได้เข้าเฝ้าฯ  สมเด็จพระพันปีหลวง ณ ภูพิงคราชนิเวศน์ หลังเหตุสึนามิ

โดยเล่าว่า "มีเรื่องเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟัง เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ตอนเกิดสึนามิใหม่ๆ ผมได้รับโทรศัพท์ขอให้ไปที่ภูพิงคราชนิเวศน์ ผมบินไปเชียงใหม่ มีรถสีเหลืองมารับ พาผมขึ้นไปยอดเขาอันเป็นที่ประทับของพระองค์ในช่วงนั้น

ผมเข้าที่พัก นั่งรออยู่ในห้อง พลางทบทวนความรู้

ผมพอทราบว่าพระองค์กำลังจะส่งทหารหลายท่านไปช่วยประชาชนที่ประสบภัย พระองค์อยากให้ทหารมีความรู้ จึงอยากให้ผมมาช่วยบรรยายให้ฟัง

ระหว่างผมกำลังอ่านข้อมูล มีเสียงเคาะประตู ผมสงสัย ยังไม่ถึงเวลาบรรยาย ยังอีกนาน ใครมาเคาะ?

ผมเปิดประตู เจ้าหน้าที่ยืนรออยู่ เขาบอกว่าเชิญอาจารย์

เชิญ? เชิญไปไหน? ผมได้แต่เปลี่ยนชุดแล้วเดินตามไปอย่างงงๆ

อาคารในภูพิงคฯ เป็นหลังเตี้ยๆ รายล้อมด้วยสวนสวย ผมเดินตามเจ้าหน้าที่ไปถึงอาคารหนึ่ง ก่อนเข้าไปข้างใน

ห้องโถงใหญ่ พื้นไม้สวยสุด แต่ในห้องไม่มีใครเลย

ผมรออยู่ในห้องพักใหญ่ ก่อนมีเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นมา ผมขนลุกซู่ พอทราบแล้วว่าเป็นใคร

เป็นคนที่อยากให้ผมมาที่นี่ เพื่อให้ความรู้แก่ทหารของพระองค์ที่กำลังจะไปช่วยเหลือประชาชนที่กำลังทุกข์ยากแสนสาหัส

ผมหมอบกราบ จนได้ยินเสียงรับสั่ง ผมเงยหน้าขึ้น

ตลอดชีวิตคนเรา มีความทรงจำมากมาย แต่มีบางจังหวะเท่านั้นที่แจ่มชัดเป็นพิเศษ

ผมมีความทรงจำที่แจ่มชัดในวินาทีนั้น จำได้แม้กระทั่งในวินาทีนี้

จากนั้นคือการถามตอบ

พระองค์ถาม ผมตอบ เรื่องสึนามิ

คลื่นเกิดได้อย่างไร จะเกิดอีกไหม ผลกระทบแรงแค่ไหน อะไรที่จะช่วยดูแลคนและทะเลได้บ้าง

“ขอบคุณ” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมไม่เคยลืม

ผมก้มกราบที่พื้น ระหว่างพระองค์เสด็จฯ จากไป

ผมไม่มีภาพใดๆ ให้เพื่อนธรณ์ดู ในห้องนั้นมีเพียงพระองค์กับนางกำนัลเพียงไม่กี่คน

ไม่มีหมายกำหนดการ ไม่มีใดๆ ที่ผมทราบล่วงหน้าว่าผมจะได้เข้าเฝ้าฯ

ผมจึงเหลือเพียงความทรงจำ

ความทรงจำที่แจ่มชัดและงดงาม…

ผมเป็นคนรุ่นเก่า เกิดและเติบโตมากับข่าวในราชสำนัก ผมเคารพเช่นเดียวกับคนรุ่นผมเคารพ

เมื่อผมเติบโตขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น ผมเริ่มรัก

เคารพกับเคารพรักไม่เหมือนกัน เคารพรักมันฝังลึกกลางใจ

วันนั้นที่ภูพิงคฯ บนยอดเขาสูงเสียดเมฆ ผมเล่าเรื่องทะเลให้พระองค์ฟัง

เรื่องภัยพิบัติที่โหดร้ายที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเผชิญ พระองค์ทรงอยากช่วยประชาชนมากที่สุดเท่าที่ทรงทำได้ จึงรับสั่งให้นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลคนหนึ่งไปที่ภูพิงคฯ

เคารพรักจึงเกิดขึ้นในใจคนผู้นั้น

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

เชื่อเสมอว่ามีใครบางคนรอคอยพระองค์อยู่บนนั้น

บนสายรุ้งอันงดงาม"


กำลังโหลดความคิดเห็น