แฉทหารเขมรยังวางระเบิดต่อเนื่องในพื้นที่อีสานตอนล่าง คาดเต็มไปหมดแล้ว หากทหารไทยจะไปไหนต้องให้ทหารช่างตรวจก่อน แถมที่ผ่านมายังขัดขวางการเก็บกู้ถึง 22 ครั้ง อย่างไรก็ตามบนยอดภูมะเขือเคลียร์หมดแล้ว
วันนี้(24 ต.ค.) พันโท ศุภวัฒน์ นามม่อง ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 6 (ผบ..ช,พัน6) กองพลทหารราบที่ 6 ผู้บังคับหน่วยตรวจค้นและทำลายทุ่นระเบิดหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผย ผลการปฏิบัติภารกิจ ว่า มีทั้งงานเก็บกู้ระเบิด งานแจ้งเตือนให้ความรู้ งานช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิด งานทำลายทุ่นระเบิดที่ได้จากเก็บกู้ และการสนับสนุนหน่วยงานราชการในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
สำหรับพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง จากการสำรวจตั้งแต่ปี 2543 ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี รวมทั้งสิ้น 1,349 ตารางกิโลเมตร โดยได้เก็บกู้ไปแล้ว 1,342 ตารางกิโลเมตร หรือ 99.45% คงเหลือพื้นที่อันตราย ในจังหวัดบุรีรัมย์ 0.27 ตารางกิโลเมตร สุรินทร์ 2.23 ตารางกิโลเมตร ศรีสะเกษ 4.02 ตารางกิโลเมตร และอุบลราชธานี 0.67 ตารางกิโลเมตร รวมทั้งหมด 7.37 ตารางกิโลเมตร หรือ 0.55 %
ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประสบกับปัญหาการขัดขวางจากฝ่ายกัมพูชา ด้วยการนำกำลังมาสกัดไม่ให้เราเข้าพื้นที่ โดยสถิติจากปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ถูกขัดขวางทั้งสิ้น 22 ครั้ง และยังมีการวางทุ่นระเบิดเพิ่มเติม ซึ่งมีกำลังพลของไทยเหยียบไป 6 ครั้ง
ในห้วงการปะทะที่ผ่านมา ในการยิงจรวด BM-21 ลงมาตกบ้านเรือนประชาชนในพื้นที 4 จังหวัด บุรีรัมย์ 126 สุรินทร์ 446 ศรีสะเกษ 302 อุบลฯ 86 จุด ส่งมอบพื้นที่ให้ ตร. EOD จว.960 จุด
นอกจากนั้นยังได้จัดชุดเก็บกู้ เข้ามาตรวจค้นและทำลายทุ่นระเบิดในพื้นที่ฐานปฏิบัติการต่าง ๆ โดยตรวจพบทุ่นระเบิดเพิ่มเติม 801 ทุ่น และในปัจจุบันมีการตรวจพบเจออยู่เรื่อย ๆ
ส่วนการวางระเบิดใหม่ตามแนวชายแดน โดยฝ่ายกัมพูชา เพื่อเป็นการป้องกันตนเองนั้น พ.ท.ศุภวัฒน์ กล่าวว่า คาดว่าน่าจะวางเต็มแล้ว หากจะไปไหนก็ต้องใช้ทหารช่างในการตรวจค้นก่อน เพื่อความปลอดภัยของกำลังพล โดยบนพื้นที่ยอดภูมะเขือ เราได้ทำการเคลียร์หมดแล้ว
สำหรับทุ่นระเบิดที่ได้มีการตรวจพบนั้น จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก 1.ทุ่นระเบิดที่ใช้ดักรถถัง 2.ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยระเบิดสังหารบุคคลจะมุ่งเน้นให้ตัวบุคคลได้รับบาดเจ็บ เพื่อถ่วงกำลังพลในกลุ่ม ส่วนระเบิดดักรถถังนั้นจะทำงานเพื่อมีน้ำหนักกรดปริมาณมาก โดยจะไม่ทำงานหากมีคนเหยียบ
ในการปฏิบัติ ผู้บังคับบัญชาให้ระมัดระวังอันตรายจากทุ่นระเบิด รวมถึงมีการเพิ่มเติมยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ในการตรวจค้นให้ทันสมัย เพื่อให้ได้ตรวจทุ่นระเบิดให้พบ


