ทบ.ยืนยันกองทัพไทยไม่เคยใช้อาวุธเคมีในการปฏิบัติการ ชี้กัมพูชาบิดเบือนอ้างไทยใช้อาวุธเคมี หวังสร้างความเข้าใจผิดเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือจากต่างชาติ
จากกรณีที่ พลเอก พร นรา เลขาธิการหน่วยงานแห่งชาติเพื่อการห้ามอาวุธเคมี นิวเคลียร์ ชีวภาพ และรังสี (NACW) ของกัมพูชา ออกมาประกาศขอสนับสนุนงบประมาณและความช่วยเหลือจากนานาชาติ เพื่อนำไปใช้สำหรับภารกิจทำลายและกำจัดสารเคมีอันตรายมากกว่า 70 ชนิดปนเปื้อนในพื้นที่ชายแดน โดยอ้างว่าเป็นผลตกค้างจากการสู้รบทางทหารกับไทยที่ใช้อาวุธเคมี รวมถึงกระสุนฟอสฟอรัสขาวระหว่างการต่อสู้เมื่อหลายเดือนก่อน
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ปราศจากหลักฐานสนับสนุน และไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย โดยชี้แจงว่าประเทศไทยไม่ได้มีปฏิบัติการที่ใช้อาวุธเคมี ส่วนกรณีของกระสุนฟอสฟอรัสขาว (WP) มีวัตถุประสงค์หลักใช้ในการสร้างควัน แสงสว่าง ระเบิด และเพลิง ไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอาวุธเคมีตามอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention - CWC) รวมถึงไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศใดที่ห้ามการเก็บรักษาหรือการใช้งานกระสุนชนิดนี้ ประเทศไทยจึงสามารถเก็บรักษาและใช้ตามภารกิจทางทหารได้ภายใต้กรอบกฎหมายสากล
ทั้งนี้ การใช้กระสุน WP ของกองทัพบกไทยอยู่ภายใต้ระเบียบการควบคุมอย่างเข้มงวด ใช้ต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และไม่เคยมีการนำไปใช้เพื่อมุ่งทำลายชีวิตพลเรือนแต่อย่างใด
กองทัพบกเน้นย้ำว่า การปฏิบัติการทางทหารของประเทศไทยไม่มีการใช้อาวุธเคมี ส่วนการใช้กระสุนฟอสฟอรัสขาว WP อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด สอดคล้องกับหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยจะเห็นได้ว่าการที่กัมพูชาเผยแพร่ข้อกล่าวหามีความมุ่งหวังเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความเข้าใจผิดในเวทีสาธารณะเท่านั้น