โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เผยกำลังหารืออย่างแข็งขันกับประเทศพันธมิตรเพื่อจัดตั้งกลไกความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองพลเมืองเวียดนาม และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกัมพูชา รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ในภูมิภาค
เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ตุลาคม) นางฝาม ทู หั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ได้แถลงข่าวอัปเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับการคุ้มครองพลเมืองเวียดนามที่ตกเป็นเหยื่อหรือถูกหลอกให้ทำงานในฐานปฏิบัติการอาชญากรรมทางไซเบอร์ในประเทศกัมพูชา ที่กรุงฮานอยว่า “ท่ามกลางสถานการณ์อาชญากรรมฉ้อโกงและการบังคับใช้แรงงานในกัมพูชาที่ซับซ้อนมากขึ้น หลายประเทศ รวมถึงเวียดนาม ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของพลเมืองตนเอง”
ฝาม ทู หั่ง ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังหารือกับประเทศพันธมิตรอย่างแข็งขันเพื่อจัดตั้งกลไกความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพงานคุ้มครองพลเมืองของเวียดนาม และเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นระบบและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขั้นสูงในกัมพูชาและพื้นที่อื่นๆ ในภูมิภาค
“ในขณะเดียวกัน กระทรวงได้สั่งการให้สำนักงานผู้แทนเวียดนามในกัมพูชาเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เหมาะสม และประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและในกัมพูชา เพื่อให้การคุ้มครองพลเมืองมีประสิทธิภาพและทันท่วงที” โฆษกกล่าว
เกี่ยวกับกรณีที่เจ้าหน้าที่กัมพูชาจับกุมชาวเวียดนาม 8 คนจากการบุกทลายฐานปฏิบัติการหลอกลวงออนไลน์เมื่อไม่นานนี้ กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเปิดเผยว่า สำนักงานผู้แทนเวียดนามในกัมพูชาได้ติดต่อกับทางการกัมพูชาเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงของกรณีดังกล่าว
“ทางเรายังขอให้ฝ่ายกัมพูชาดูแลความปลอดภัย ความปลอดภัย และสภาพความเป็นอยู่ของพลเมืองเวียดนาม และประสานงานในกระบวนการพิสูจน์ตัวตนเบื้องต้น” นางหั่งกล่าว
กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงานผู้แทนร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศและทางการกัมพูชา เพื่อดำเนินขั้นตอนทางกงสุลที่จำเป็น เพื่อให้ชาวเวียดนามสามารถเดินทางกลับประเทศได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ ภายในไม่กี่วันข้างหน้า คาดว่าจะมีชาวเวียดนามอีก 33 คน ถูกส่งตัวกลับจากกัมพูชา
ในอีกประเด็นหนึ่ง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีพบศพหญิงชาวเกาหลีใต้ในพื้นที่ชายแดนระหว่างเวียดนามและกัมพูชา นางหั่งตอบว่า กระทรวงกำลังตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว แต่ยืนยันว่า เวียดนามพร้อมให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามกฎหมายของเวียดนามและกฎหมายระหว่างประเทศในกรณีที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ