xs
xsm
sm
md
lg

ฉก.อรัญฯ เร่งสร้างสภาพปลอดภัยบ้านหนองหญ้าแก้ว พร้อมวางแผนเคลียร์ทุ่นระเบิดบ้านหนองจาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนด้านบ้านหนองจาน วันนี้พบฝั่งกัมพูชามีประชาชน-เจ้าหน้าที่รวมตัว 150-200 คน อ้างตรวจสุขภาพหลังโดนเสียงก่อกวน ด้าน กกล.บูรพาจับคนไทย 55 คนแอบกลับเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ อ้างโดนแก๊งสแกมเมอร์นำมาปล่อย ขณะ ฉก.อรัญฯ เร่งสร้างสภาพปลอดภัยบ้านหนองหญ้าแก้วพร้อมประสานเอกสารที่ทำกินให้ชาวบ้าน และเตรียมวางแผนกู้ทุ่นระเบิดบ้านหนงจานต่อไป

กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2568 ณ เวลา 16.00 น. ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ดังนี้

สถานการณ์ด้านความมั่นคงชายแดน จ.สระแก้ว โดยฝ่ายไทย มีมวลชนชาวบ้านในพื้นที่และสื่อมวลชน ติดตามการนำรถแห่ที่คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากมวลชนจาก กทม. บริเวณ จต.ส.40 บ.หนองจาน ส่วนฝั่งตรงข้าม ฝ่ายกัมพูชา พบความเคลื่อนไหวของ ประชาชน, สื่อมวลชน, ทหาร, ตำรวจ, เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและส่วนราชการ ประมาณ 150-200 คน รวมตัวเพื่อจัดกิจกรรมแจกสิ่งของอุปโภคและบริโภคให้กับประชาชน รวมถึงติดตามเรื่องสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากกรณีฝ่ายไทยสร้างเสียงดังก่อกวน

การปฏิบัติการที่สำคัญ กกล.บูรพา ยังคงเข้มงวดในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยล่าสุด (16-17 ต.ค.68) ฉก.อรัญประเทศ และชุดควบคุมกรมทหารพราน ที่ 12 สามารถจับกุมคนไทยได้ 55 คน (ชาย 31 คน และหญิง 24 คน) ลักลอบเข้าไทยโดยช่องทางธรรมชาติ บริเวณ บ.เนินสมบูรณ์ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อ้างโดนกลุ่มสแกมเมอร์ฝั่งกัมพูชานำมาปล่อยทิ้งหลังหมดประโยชน์เนื่องจากบัญชีม้าถูกปิด และไม่มีค่าเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป


สำหรับภารกิจการสร้างสภาพแวดล้อม เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ได้มีที่ทำกิน ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฉก.อรัญประเทศ อยู่ระหว่างประสานส่วนราชการในการทำเอกสารการครอบครองที่ดินที่ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายต่อไป และเตรียมการวางแผนเข้าตรวจสอบค้นหาวัตถุระเบิดที่คาดว่าตกค้างในพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน ในห้วงต่อไป

สำหรับความคืบหน้าการจัดสร้างบังเกอร์และหลุมหลบภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ซึ่งได้รับการสนุนจาก “กองทุนหทัยทิพย์” ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ โดยกองทัพภาคที่ 1 ได้รับการประสานจากคณะทำงานสนับสนุนโครงการ กองทุนหทัยทิพย์ กองทัพบก ให้ กกล.บูรพาและทุกภาคส่วน ให้ดำเนินการจัดสร้างบังเกอร์และหลุมหลบภัยตามแผนทั้งหมด จากความเร่งด่วนในห้วงแรก สร้างบังเกอร์จาก 10 แห่ง เป็น 72 แห่ง และสร้างหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน ขนาดความจุ 40 คน จาก 2 แห่ง เป็น 6 แห่ง

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา พร้อมดำเนินการตามแนวทางคณะทำงานสนับสนุนโครงการกองทุนหทัยทิพย์ กองทัพบกอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้แก่กำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา








กำลังโหลดความคิดเห็น