โฆษกรัฐบาลกัมพูชาแถลงอ้างแผนที่ 1 ต่อ 200,000 พื้นที่บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้วที่ทหารไทยเข้าไปปรับพื้นที่และเก็บกวาดทุ่นระเบิดไม่ใช่ของไทย ชี้ต้องรอ JBC ทำข้อตกลงเขตแดนก่อน ทหารไทยไม่มีสิทธิประกาศอาณาเขตและไม่มีผลทางกฎหมาย พร้อมขู่จะใช้สิทธิปกป้องตัวเองหากไทยยังละเมิดอธิปไตย
วันนี้(17 ต.ค.) นายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ได้อ่านแถลงการณ์ว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 สื่อมวลชนไทยบางสำนักได้อ้างอิงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ทหารไทยที่ยืนยันว่า “พื้นที่ที่ทหารไทยบุกรุกนั้นเป็นดินแดนของไทย” โดยอ้างถึงหมู่บ้านเปรยจันและหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอไบชัน อำเภอโอวโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งกองทัพไทยได้วางลวดหนามฝ่ายเดียวตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2568 และต่อมาได้ใช้รถปรับพื้นดินรื้อถอนพื้นที่ดังกล่าวและปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิด
โฆษกรัฐบาลกัมพูชาขอย้ำว่าเขตแดนระหว่างกัมพูชาและไทยเป็นเขตแดนระหว่างประเทศตามที่กำหนดไว้ในอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 ซึ่งรวมถึงแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 และเสาหลักเขตแดนที่ได้รับการยอมรับ 74 หลัก ซึ่งติดตั้งมานานกว่าศตวรรษ เส้นแบ่งเขตแดนนี้ยังคงมีผลทางกฎหมายและได้รับการคุ้มครองภายใต้บทบัญญัติของกฎบัตรสหประชาชาติ รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เพียงฝ่ายเดียว
โฆษกรัฐบาลย้ำว่าคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามข้อตกลงระหว่างกัมพูชาและไทย มีอำนาจหน้าที่ในการสำรวจและกำหนดเขตแดนของทั้งสองประเทศ จนกว่า JBC จะดำเนินงานสำรวจและกำหนดเขตแดนเสร็จสิ้น กัมพูชามุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยสันติวิธีโดยอิงตามสนธิสัญญา ข้อตกลงทวิภาคีที่มีอยู่ และกฎหมายระหว่างประเทศ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลงเหล่านี้ และให้ทั้งสองฝ่ายรอให้ JBC แก้ไขปัญหาชายแดน รวมถึงหลีกเลี่ยงการยั่วยุใดๆ ที่อาจยกระดับความตึงเครียด
โฆษกรัฐบาลกัมพูชาขอยืนยันต่อสาธารณชนว่ารัฐบาลกัมพูชายังคงยึดมั่นในจุดยืนที่มั่นคงเกี่ยวกับบูรณภาพแห่งดินแดน และไม่ยอมรับข้อเรียกร้องฝ่ายเดียวใดๆ จากกองกำลังทหารไทย เนื่องจากกองทัพบกไม่มีอำนาจในการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศ และยิ่งไปกว่านั้น คำประกาศฝ่ายเดียวของไทยดังกล่าวไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ
“แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชาจะใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุดในการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง เพื่อป้องกันการปะทะด้วยอาวุธที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและประชาชนทั้งสองฝ่าย แต่รัฐบาลกัมพูชาขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนตามอนุสัญญา สนธิสัญญา และกฎหมายระหว่างประเทศ” แถลงการณ์โฆษกรัฐบาลกัมพูชาระบุ