คปท.นำมวลชนบุกสถานทูตกัมพูชา ย่านประชาอุทิศ จุดประกายเคลื่อนไหวปกป้องอธิปไตย จี้ “ฮุน มาเนต” ถอนคนกัมพูชารุกแดนบ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว พร้อมเรียกร้อง “อนุทิน” แสดงจุดยืนแข็งกร้าวต่อเพื่อนบ้าน ก่อนขยายแนวเคลื่อนไหวต่อที่สระแก้วปลายเดือนนี้
วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ถนนประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล ร่วมกับกลุ่มกองทัพธรรม และประชาชนผู้รักชาติหลายสิบคน จัดชุมนุมเชิงสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องให้ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถอนประชาชนกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว ในฝั่งไทยออกจากดินแดนโดยทันที
กลุ่มผู้ชุมนุมตั้งเวทีปราศรัยบนรถเครื่องขยายเสียง ปิดการจราจรช่องซ้ายของถนนประชาอุทิศ 1 ช่องทาง มีการสลับผลัดกันขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตี สมเด็จฮุน เซน และ ฮุน มาเนต ว่าเป็น “อาชญากรโลก” พร้อมพาดพิงถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “ขายชาติ” โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 และ สน.วังทองหลาง กว่า 1 กองร้อย เข้าดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ระบุว่า แม้ปัจจุบันประเทศไทยไม่มีเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำอยู่ แต่การชุมนุมครั้งนี้ต้องการส่งสารไปถึงผู้นำสองพ่อลูกกัมพูชา ให้เร่งถอนประชาชนออกจากพื้นที่รุกล้ำของไทย พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล แสดงท่าทีที่แข็งกร้าว และทำหนังสือถึงผู้นำกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงจุดยืนปกป้องอธิปไตยไทย
เขายังตั้งข้อสังเกตถึงความล่าช้าในการดำเนินการของฝ่ายไทยว่า อาจมีนักการเมืองหรือรัฐมนตรีบางคนมีผลประโยชน์เชื่อมโยงกับธุรกรรมทางการเงินของกัมพูชา จึงเรียกร้องให้รัฐบาล “เปิดโปงและจัดการ” ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง
นายพิชิต ยังกล่าวถึงกรณี นางสาวอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการแสดงความเห็นเรื่องสิทธิมนุษยชนว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงทางวาจาในโลกออนไลน์ และขอให้คนไทยมุ่งเน้นการปกป้องแผ่นดินมากกว่าการแตกแยกกันเอง
ทั้งนี้ คปท.มีแผนจะเคลื่อนไหวต่อในพื้นที่จังหวัด สระแก้ว ช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยอยู่ระหว่างการประสานกับ นายวีระ สมความคิด เพื่อกำหนดวันเวลาแน่นอน ยืนยันไม่เข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการของทหาร เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่
ก่อนปิดการชุมนุม กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จากนั้นจึงทยอยแยกย้ายกลับ โดยการชุมนุมทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย