xs
xsm
sm
md
lg

โคตรปวดใจ! หมอชี้ระบบ ‘ใบส่งตัว’ ฆ่าคนไข้บัตรทองใน กทม. อุปสรรคยุ่งยากทำคนไข้ปล่อยตัวจนไตวาย-เส้นเลือดในสมองแตก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจ "เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล" ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง สปสช. ตีแผ่วิกฤตที่แท้จริง ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยบัตรทองในกรุงเทพฯ จดหมายฉบับนี้ชี้ว่า แม้ปัญหาหนี้จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ "ชีวิตคนที่ไม่มีทางเลือก" คือของจริงที่กำลังถูกทำลายลงเพราะความยุ่งยากของระบบบัตรทองในพื้นที่ กทม.

จากกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ประกาศว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ จำเป็นต้องหยุดให้บริการผู้ป่วยนอก หรือ โอ พี ดี แก่ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ขึ้นตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ เนื่องจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่ชำระหนี้ค่ารักษาพยาบาลข้ามหลายปีงบประมาณ จนมียอดสะสมมากกว่า 100 ล้านบาทแล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า สปสช. ติดหนี้แทบทุก รพ. อยู่ระหว่างของบกลางเคลียร์บัญชีล้างหนี้ให้ หากเข้าเกณฑ์-มีความจำเป็นเร่งด่วน จะเร่งดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 ต.ค. เพจ “เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล” ได้ออกมาโพสต์จดหมายที่ส่งถึง สปสช. เป็นการสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นจริงและบ่อยครั้งกับ ผู้ป่วยบัตรทองในกรุงเทพมหานคร ที่เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ยากลำบาก จนนำไปสู่ภาวะสุขภาพที่ทรุดโทรมรุนแรง โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า

“ถึงสปสช.
.
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นจริง

คนไข้ขาบวม นอนราบไม่ได้ มาสองวัน มาถึงตรวจเจอไตวาย ชนิดที่ค่าของเสียขึ้นไปเป็นร้อย (BUN > 100)

คนไข้คลื่นไส้ อาเจียน ซึมลงตรวจเจอน้ำตาลสูงลิ่ว
แบบที่เครื่องตรวจปลายนิ้ว ตรวจไม่ได้ สูงจนพร้อมจะชักได้ตลอดเวลา

คนไข้ เหนื่อยหอบ เดินเข้าห้องน้ำไม่ไหว จนกระทั่ง แค่ลุกกินข้าวก็เหนื่อยเอกซเรย์มา ปอดเปรอะไปหมด คนไข้บอกตัวเองมีเชื้อ HIV และขาดยามาหลายเดือน

และใช่ครับ สองเคสแรก ก็เอ่ยประโยคคล้าย ๆ กัน
เป็นเบาหวาน เคยใช้ยาฉีด .. ขาดยามาสองอาทิตย์
เป็นความดัน เป็นเบาหวาน หมอเคยบอกว่าไตเริ่มไม่ดี และ ขาดยามาหลายเดือน

และมีเกือบทุกวัน หรือวันละหลายๆ เคสที่คนไข้ถูกส่งตัวมาพร้อมกับสภาพยับเยิน จะด้วยญาติพี่น้องพามา หรือ รถกู้ชีพ กู้ภัย นำส่ง

น้ำท่วมปอด ไม่ได้กินยา เส้นเลือดในสมองแตก เพราะขาดยา

ในช่วงปีนี้ เป็นปีที่ คนไข้บัตรทองใน กทม. ย้ำว่า ใน กทม. (ไว้จะอธิบายข้างล่าง)อยู่ในสภาพที่ น่าสงสารมาก จะใช้คำว่าอะไรดี ถูกทิ้งขว้าง ทิ้งให้เคว้งคว้าง
เร่ร่อนเป็นสัมภเวสี ไปทั่วทิศทั่วแดน

ส่วนหนึ่ง ก็หาทางไปได้ คว้าเอาขอนไม้พยุงตัวพอได้
แต่ส่วนหนึ่ง ก็ดิ้นรนจนท้อ ปล่อยชีวิตล่องลอยไปตามยถากรรมจนถึงวันต้องดิ้นเฮือกสุดท้าย มาโผล่ที่ ห้องฉุกเฉิน ใน รพ. สักแห่ง

สำหรับ หมอ หรือ เจ้าหน้าที่ ที่ทำงานใน ตจว.
ผมคิดว่าคงนึกภาพไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น

ตอนผมอยู่ ตจว. ก็ไม่มีภาพแบบนี้ คนไข้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะดีจะร้ายยังไง ถ้าเป็นคนไทย เป็นคนไข้ที่รักษากันประจำก็เป็นคนอำเภอนี้ เป็นคนที่นี่
เข้า รพ. ที่นี่มาตลอด หมอ หรือ รพ. ก็ดูแลกันไปจนวันตาย จะขี้แตก จะตกเตียง ยาจะหมด ไป รพ. ยังไงก็จะได้รับความช่วยเหลือ คุณไม่ต้องไป รพ.สต. ก่อน แล้วถึงได้ใบส่งตัวมา

แต่ กับ กทม. ไม่ใช่ แบบนั้น วันดีคืนดี สิทธิการรักษาของคุณถูกย้าย

ไม่ว่าคุณจะรักษาที่ รพ. A มากี่สิบปี ไม่ว่า บ้านคุณจะอยู่ห่างจาก รพ. B แค่ระยะเดิน 5 นาที ก็ตาม

แต่คุณไม่มีสิทธิ์ไปแล้ว ถ้าดันทุรังไป ก็ไม่ได้ตรวจ ไม่ได้เจอหมอไม่ได้ยา ไม่ได้รับการเหลียวแล ยกเว้นจะพะงาบๆ ไป ถึงขนาดนั้น พอตรวจเบื้องต้นเสร็จ
แก้ไขปัญหาเบื้องต้น ปุ๊บ คุณก็จะถูกส่งไป รพ. แห่งอื่นที่คุณมีสิทธิ์ทั้ง ๆ ที่ประวัติ/พงศาวดาร/มหากาพย์
ความเจ็บป่วยทุกอย่างของคุณจะอยู่ที่นั่นก็ตามที

เมื่อสิทธิคุณถูกย้ายแล้วคุณจะไปรักษาที่ใหม่
คุณจะไปตัวเปล่าก็ไม่ได้ หมอ ที่ใหม่ จะเริ่มต้นใหม่กับคุณ โดยไม่มีข้อมูลตลอด 10 ปี ที่คุณเคยตรวจ
และรักษามาก่อนเลย มันก็ลำบากเกินไป คุณก็จะต้องไปนำประวัติมาจากที่เดิม ขั้นตอนขอเอกสาร สำเนาเอกสาร หมอจะสรุปประวัติที่สำคัญให้อีก
ก็ต้องใช้เวลา - บางที่ต้องใช้เงิน ญาติ หรือ คนไข้ ก็ต้องใช้เวลาในการเดืนทางใช้เวลาในการรอแล้วรอเล่า

นึกสภาพออกไหม ไป รอคิว รพ. รัฐ เพื่อจะเจอหมอ เพิ่อจะขอประวัติ แล้วก็รอว่าจะได้เมื่อไหร่ บางที่หนึ่งสัปดาห์ บางที่สองสัปดาห์ หมอไม่อยู่ หมอประชุม หมอติดเคส บลาๆๆๆ

ยัง ยังไม่หมด

มีประวัติแล้ว ยังต้องมีใบส่งตัว จากคลินิกปฐมภูมิ เพื่อยืนยันสิทธิ์จึงจะไปหาหมอที่ รพ. ได้ คลินิก ก็จำกัดการออกใบส่งตัวบางที่ ทั้งสัปดาห์ออกให้สองวันบางที่ ต้องแย่งคิวกัน ไม่ทันก็อดได้บางที่ ก็ไม่สามารถออกให้ได้เนื่องจากสิทธิไม่ตรงกับที่เดิมอีก
บางที่ ถ้าคนไข้ไม่มา ไม่ออกให้ โดยไม่สนใจว่า คนไข้อยู่ในสภาพไหนเดินทางมายากลำบากแค่ไหน

ผมเคยแปลกใจ เมื่อได้ยินคนไข้บอก เหตุผลว่า
ทำไมพวกเขาถึงไม่มาเอายา
... มันท้อครับ
... กว่าจะได้ใบส่งตัว
... เดินทางทีค่ารถไปกลับเป็นพันนะหมอ

.
.

หนูพยายาม หาทางแล้วนะหมอ ที่ รพ. นั้น ก็บอกแต่ว่า หมดสิทธิ์แล้วไปหาทางเอาเอง พอติดต่อ สปสช. เขาก็บอกว่าได้ ๆๆ ไปได้เลย พอไป ก็โดนไล่ไปเอาใบส่งตัวอีก

จนพ่อบอกว่า .. ไม่ต้องแล้ว พ่อไม่อยากรักษาแล้ว
เพราะเห็นว่าที่บ้านลำบาก

จนวันนี้แกทนจนทนไม่ไหว โทรหาเบอร์ฉุกเฉิน พี่เจ้าหน้าที่เขาเลยพามาที่นี่
.
.

สปสช. มีบทเรียนมาหลายครั้งแล้ว ย้ำอีกทีว่า นี่คือ กรณีใน กทม. ผมไม่รู้ว่า ปัญหาจริง ๆ มันคืออะไรกันแน่ ตัวเลขไหนจริง ไม่จริง ขั้นตอนไหนที่มันเป็นปัญหา

แต่ ชีวิตคนที่ไม่มีทางเลือก นี่คือของจริงคนที่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อ กลับต้องตาย เพราะแค่ขาดยา มีอยู่จริง

พ่อ ที่บอกลูกว่า ปล่อยพ่อตายเถอะ มีอยู่จริง

หมอที่อยากรักษาคนไข้แต่ทำไม่ได้ เพราะแค่ไม่มีใบส่งตัวมันโคตร ... ความรู้สึกมัน คือ โคตรปวดใจ

.
หวังว่า จะได้ยินเสียงนี้นะครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น