xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก ทร.เผยสิ้นเดือน ต.ค.ถนนชายแดนไทย-กัมพูชาช่วงโป่งน้ำร้อน พร้อมใช้งานเคลื่อนกำลังพล ชี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้ใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกกองทัพเรือเผยสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ถนนชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงโป่งน้ำร้อน จันทบุรี พร้อมใช้งานเคลื่อนกำลังพล บอก ผบ.ทร.ลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล-ตรวจเยี่ยมความพร้อมหากจำเป็นต้องมีการใช้กำลัง เหตุสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ

วันที่ 8 ต.ค.พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณี พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ลงพื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด เพื่อติดตามสถานการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เป็นการเข้าไปเพื่อรับทราบสถานการณ์ล่าสุด ทั้งสถานการณ์ด้านการข่าวและความพร้อมของฝ่ายไทย หากเกิดเหตุการณ์จำเป็นต้องมีการใช้กำลัง

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการติดตามการแก้ปัญหารุกล้ำชายแดนบริเวณจันทบุรีและตราดในพื้นที่ 17 จุดที่เป็นประเด็น รวมไปถึงในพื้นที่จังหวัดตราดจากผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดและจันทบุรี เรื่องการลุกล้ำพื้นที่อธิปไตย อย่างสิ่งปลูกสร้างสามหลัง การขุดคูเลต ป่ายาง และฐานที่มั่นทางการทหารโดยได้มีการแก้ไขตามลำดับ เป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือได้มีการกำชับให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายสูงสุด คือต้องการให้สิ่งที่รุกล้ำทั้งหมดออกจากพื้นที่เส้นปฏิบัติการบนแผ่นดินไทย ขณะเดียวกันยังเป็นการติดตามนโยบายตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในการติดตั้งรั้วบริเวณแนวชายแดน โดยผบ.ทร. ได้ลงพื้นที่บริเวณหลักเขตที่ 52 ถึง 58 ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดแรกที่สามารถมีรั้วได้ โดยที่ทั้งสองฝ่ายให้ความยินยอมและมีปัญหาน้อยที่สุด ซึ่งอะไรที่ทำได้ก็ควรทำก่อน

อีกทั้ง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ยังได้กำชับให้เร่งสำรวจและออกแบบ ว่ารั้วที่จะมีขึ้นจะมีลักษณะเช่นไร เพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งการ ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความอุ่นใจและปลอดภัยในการดำรงชีวิต

นอกจากนี้ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ยังเป็นการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่บริเวณพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่ตึงเครียด โดยเป็นการให้กำลังใจและขอบคุณในความเสียสละของกำลังพลในพื้นที่ แม้ว่าบางส่วนจะยังไม่มีการสับเปลี่ยนกำลัง เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ จึงยังคงต้องตรึงกำลังส่วนหนึ่งไว้

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าในการสร้างถนนบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยว่า เป็นการสร้างอยู่บริเวณพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อนจังหวัดจันทบุรี ใกล้กับด่านบ้านแหลม ที่เกิดจากการลุกล้ำอธิปไตย ทั้งพื้นที่รูปตัวยูและพื้นที่รูปตัวก. ซึ่งมีลักษณะเป็นจะงอยยื่นเข้าไปในฝั่งกัมพูชา โดยฝ่ายตรงข้ามมีการดัดแปลงภูมิประเทศ ขุดคูเลต เพื่อให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและตัดพื้นที่ส่วนที่เป็นจะงอยออกไป ซึ่งจากที่ทหารไทยตรวจพบจึงพยายามปรับภูมิประเทศให้กลับมาเหมือนเดิมด้วยการถมพื้นที่คู และ หลังจากประชาชนรับทราบก็ได้มาร่วมมือกับฝ่ายทหารในการใช้กำลังทรัพย์ เครื่องมือหนัก และแรงงาน ในการถมคูเล็กๆ เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นของไทยเหมือนเดิม พร้อมยังเล็งเห็นว่าในพื้นที่ตัวยูและพื้นที่ตัวก. เป็นพื้นที่ยากลำบากในการเข้าถึง และส่งกำลังบำรุง รวมไปถึงการดำเนินยุทธวิธี ทุกภาคส่วนจึงรวมตัวกันในการระดมทุน

ผบ.ทร.จึงได้ ขอบคุณประชาชนที่ยังช่วยงานราชการทางทหารในการสร้างถนน 15 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่า 13 กิโลเมตร ซึ่งคาดการณ์ว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ และหลังจากนั้นอาจมีการปรับปรุงต่อโดยการนำลูกรังมาเททับบริเวณด้านหน้าถนน แต่สิ้นเดือนนี้ทหารจะสามารถ ใช้ถนนสายดังกล่าวในการเคลื่อนกำลังพลทางยุทธวิธีได้

ส่วนที่ประชาชนอาจไม่เข้าใจถึงการทำงานของกองทัพจนเกิดกระแสทางสังคมในหลายเรื่อง โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่ากองทัพเรือจะพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ซึ่งเรามีอำนาจและหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตย จึงขอให้ความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว


กำลังโหลดความคิดเห็น