xs
xsm
sm
md
lg

IOT ลงพื้นที่ช่องสายตะกู พบเขมรสร้างรั้วสังกะสีละเมิด MOU ประชิดแนวเขตไทย แถมบินโดรนตรวจการณ์ว่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะ IOT ลงสุรินทร์ดูการควบคุมเชลยศึกกัมพูชา ก่อนไปบุรีรัมย์ดูพื้นที่ช่องสายตะกู พบเขมรสร้างรั้วสังกะสีล้ำเข้ามาใกล้เส้นเขตแดนไทย 125 เมตร บริเวณหลักเขตที่ 24-26 ละเมิด MOU และข้อตกลงหยุดยิง แถมใช้โดรนบินสำรวจโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้านผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย หัวหน้าคณะ ชื่นชมทหารไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงได้ดี ไม่มีการให้ข้อมูลเท็จ ไม่ใช้อาวุธเพิ่มเติม

วันที่ 5 ต.ค. กองบัญชาการกองทัพไทย และกองทัพภาคที่ 2 นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) ประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย และสิงคโปร์ จำนวน 4 นาย นำโดย พลจัตวา ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย หัวหน้าคณะ IOT เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่ควบคุมเชลยศึกที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงและสังเกตการณ์การปฏิบัติงานด้านการดูแลเชลยศึก ของกองทัพภาคที่ 2


จากนั้นคณะฯ ได้ร่วมกับฝ่ายไทยสำรวจพื้นที่บริเวณแนวรั้วใกล้เส้นปฏิบัติการ และจุดที่มีรายงานการละเมิด ณ ช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อยืนยันความโปร่งใส ความจริงใจ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฝ่ายไทยในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ตามผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา อย่างเคร่งครัด

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะฯ ได้ตรวจสอบบริเวณรั้วใกล้แนวเส้นปฏิบัติการและจุดที่มีการละเมิดข้อตกลง พบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ก่อสร้างรั้วสังกะสีล้ำเข้ามาใกล้เส้นเขตแดนไทยในระยะประมาณ 125 เมตร บริเวณหลักเขตที่ 24-26 ใกล้หลักหมุดที่ 25 ซึ่งถือเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ (MOU) และข้อตกลงหลังหยุดยิง นอกจากนี้ยังมีการใช้โดรนบินสำรวจพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต


นอกจากนี้ คณะได้ตรวจดูร่องรอยความเสียหายจากการยิงปืนและจรวด BM-21 ของกัมพูชาที่พุ่งเป้าเข้าไปในชุมชน เช่น สภาพตู้คอนเทนเนอร์ในฝั่งไทยที่มีร่องรอยกระสุนปืน ซึ่งเป็นตู้สำหรับขออนุญาตผ่านแดน และยังมีร่องรอยกระจกที่แตกกระจายจากการยิงของฝั่งกัมพูชา

พลจัตวา ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า หลังจากนี้จะนำข้อมูลรายงานผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพมาเลเซีย ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมได้รับทราบ และหลังจากนั้นจะมีการรายงานไปยังผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองบัญชาการกองทัพไทย และทางกัมพูชาเช่นกัน เพื่อเสนอแนะในเรื่องที่ทุกฝ่ายควรดำเนินการและไม่ควรทำ เพื่อที่จะคงไว้ซึ่งความมั่นคง และการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง

สำหรับเป้าหมายของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เพื่อสังเกตการณ์ตรวจสอบในพื้นที่จริง เมื่อได้ข้อเท็จจริงหรือมีการยืนยันแล้วก็จะรายงานกลับไปให้สังคมโลกทราบ ทั้งนี้ ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือคุณภาพในการลงพื้นที่มีค่ามากกว่าการลงพื้นที่บ่อยหรือไม่บ่อย


ส่วนการลงพื้นที่ในครั้งนี้เราได้รับทราบข้อมูลจากทหาร และขอชื่นชมกองทัพบกที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี และได้ปฏิบัติการโดยที่ไม่มีการให้ข้อมูลเท็จ ไม่มีการใช้อาวุธเพิ่มเติมหรือการเสริมกำลัง เป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง

นอกจากนี้ ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียได้เน้นย้ำว่า การรักษาไว้ซึ่งความเป็นทหารอาชีพ คุณภาพของการปฏิบัติการ ตั้งแต่ระดับพลทหารไปจนถึงระดับผู้บังคับบัญชา เพื่อให้การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงนั้นเป็นไปตามที่ได้ตกลงไว้ รวมถึงปฏิบัติตามกฎการปะทะ

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำว่าพวกเราคือหนึ่งในประเทศในประชาคมอาเซียน เราปฏิบัติตามแนวทางของอาเซียน และอาเซียนเองก็เชื่อในความร่วมมือทวิภาคี ดังนั้น พวกเราคือครอบครัว เราไม่ได้ต้องการที่จะอวดเก่ง


ด้านเพจ "กองทัพภาคที่ 2" โพสต์ข้อความว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้เชิญคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่ควบคุมเชลยศึก เพื่อรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงและสังเกตการณ์การปฏิบัติงาน ด้านการดูแลเชลยศึก ของกองทัพภาคที่ 2 โดยได้ตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ การจัดสวัสดิการ รวมถึงมาตรการด้านมนุษยธรรม ที่กองทัพภาคที่ 2 ดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นไปตามหลักสากล การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันถึงมาตรฐานการปฏิบัติต่อเชลยศึกอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเป็นไปตามที่กองทัพภาคที่ 2 ได้นำเสนอไว้ ว่าทุกขั้นตอนของการดูแลเชลยศึกเป็นไปด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ภายใต้หลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด

จากนั้นคณะฯ ได้ร่วมกับฝ่ายไทยสำรวจพื้นที่บริเวณแนวรั้วใกล้เส้นปฏิบัติการ และจุดที่มีรายงานการละเมิด ณ ช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อยืนยันความโปร่งใส ความจริงใจ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฝ่ายไทยในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ตามผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา อย่างเคร่งครัด


ภายหลังการตรวจเยี่ยม คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ได้กล่าวชื่นชมกองทัพภาคที่ 2 และฝ่ายไทย ที่ได้ดำเนินการด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และยึดมั่นในข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการบิดเบือนข้อมูล และพร้อมจะนำรายงานผลข้อเท็จจริงทั้งหมดเสนอไปยังกองบัญชาการสูงสุดของกองทัพมาเลเซีย เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในระดับนานาชาติ

การดำเนินการในลักษณะนี้เป็นไปตามขั้นตอนที่ได้ตกลงร่วมกันในกรอบระหว่างประเทศ ซึ่งบางครั้งอาจไม่ถูกใจหรือไม่เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชนในทันที แต่ทุกขั้นตอนคือการวางรากฐานที่มั่นคง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในระยะยาว และสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาคมระหว่างประเทศว่าประเทศไทยยึดมั่นในสันติวิธีและหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง กองทัพภาคที่ 2 จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน รอบคอบ และด้วยหัวใจแห่งความจงรักภักดี เพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย และเกียรติภูมิของชาติไทย


























กำลังโหลดความคิดเห็น