โซเชียลฯ ร้อนกรณีหญิงโพสต์โวยโรงพยาบาล ขอให้แม่มีอาการป่วยเลื่อนคิวเข้าห้องฉุกเฉิน เหตุเพราะแพทย์มีเคสหัวใจหยุดเต้นต้องทำ CPR ด้านแพทย์เวรชี้แจงทำตามลำดับความรุนแรงของโรค ย้ำไม่มีเลือกปฏิบัติและเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น
วันนี้ (3 ต.ค.) พบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาโพสต์ระบุข้อความว่า “เช้านี้ตอนหกโมงกว่าน้าเราโทรมาว่าแม่เราอาการหนักต้องไปโรงบาลเดี๋ยวนี้ เรากะบอกน้องๆว่าฝากร้านด้วย เดี๋ยวมานะ เรารีบไปรับแม่มาโรงบาล หน้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลบอกมีผู้ป่วยวิกฤติหัวใจหยุดเต้นใน ห้อง ขอให้รอก่อน บอกเลยตอนนั้นคิด เหีย! แม่กูก็วิกฤต แต่กะรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ผ่านไปสักพัก เราเลยไปเปิดประตูห้องดู เห็นน้องที่รู้จักเลยใช้ให้เป็นประโยช์น แม่เราได้เข้าห้องฉุกเฉินได้รับการรักษา ตอนนี้ปลอดภัยแล้วค่ะ #หัวอกคนเป็นลูก“
ด้านหมอเวรในเหตุการณ์เดียวกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Jirasak Tumprayoch" ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “ขออนุญาตเล่าเคส
เวลา 05.45 น. มีผู้ป่วยมาด้วยอาการเจ็บหน้าอกมา 1 วัน ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ พบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน จึงได้ประสานงานกับรพ.ชัยภูมิเพื่อเตรียมส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการสวนหัวใจ Activate Fast Track STEMI
ระหว่างเตรียมการส่งต่อ ผู้ป่วยเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น จึงได้ทำการ CPR ทันที โดยมีการประกาศให้ญาติบริเวณหน้าห้องฉุกเฉินทราบว่า "ขณะนี้กำลังปั๊มหัวใจอยู่"
ขณะทำ CPR มีเสียงกดกริ่งเรียกจากหน้าห้องฉุกเฉินหลายครั้ง และได้ยินเสียงดังจากญาติ ผมจึงให้พยาบาลอีกท่านหนึ่งออกไปประเมิน พบว่ามีผู้ป่วยใหม่มาด้วยอาการปวดศีรษะมา 2 วัน พยาบาลได้ชี้แจงกับญาติว่ามีเคส CPR อยู่ ขอให้รอสักครู่
อย่างไรก็ตาม ญาติยังคงกดกริ่งเรียกซ้ำหลายครั้งในระหว่างที่ CPR
เพื่อป้องกันการปะทะทางวาจาหรือเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดนั้น ผมจึงตัดสินใจให้พนักงานเวรเปลเข็นผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะเข้ามารอภายในห้องฉุกเฉินก่อน
และการทำ CPR ก็ดำเนินไปประมาณ 30 นาที ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการช่วยชีวิตและเสียชีวิตในที่สุด จึงได้แจ้งญาติให้ทราบ ถึงค่อยไปตรวจรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะต่อในลำดับถัดไป
ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันด้วยมากๆครับ จังหวัดชัยภูมิเราพยายามพัฒนาระบบส่งต่อสวนหัวใจให้รวดเร็วและทันเวลาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยรอดชีวิต เสียใจมากๆจริงๆกับเคสนี้
ข้อชี้แจงเพิ่มเติม
เวร ณ เวลานั้น มี ผม(แพทย์เวร) พยาบาล 2 คน EMT 1 คน พนักงานเวรเปล 1 คน ขอยืนยันว่า การดูแลผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินของเราเป็นไปตามลำดับความรุนแรงของโรค ไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือใช้เส้นสายในการเข้ารับการรักษา ผู้ป่วยทุกคนได้รับการดูแลตามมาตรฐานการแพทย์และตามหลักความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญครับ"