อ.แพทย์ มช.ทิ้งทวนชีวิตราชการ ทำเคสเปลี่ยนลิ้นหัวใจผู้ป่วยสูงวัยสำเร็จ เผยทั้งเสี่ยง ทั้งกังวล

ทีมแพทย์โรคหัวใจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สร้างประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังกับทีมผู้เชี่ยวชาญจากไต้หวันและทีมแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช ช่วยชีวิตผู้ป่วยสูงวัย 80 ปีที่อยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลวสำเร็จ ด้วยการทำหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวน โดยใช้เทคนิคขั้นสูง "LAMPOON" ซึ่งมีความซับซ้อนและไม่เคยทำมาก่อนในทีม นับเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของวงการแพทย์ไทย

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก “Rungsrit Kanjanavanit“ ออกมาเล่าประสบการณ์ถึงความสำเร็จในการรักษา "งานสุดท้ายในชีวิตราชการ"

โดยเป็นเคสผู้ป่วยสูงวัยอายุ 80+ ปี ซึ่งเคยผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม 2 ลิ้น และกำลังประสบภาวะหัวใจล้มเหลวเนื่องจากลิ้นเทียมไมตรัลเสื่อม การผ่าตัดใหม่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากอายุและโรคร่วม Heart Team จึงตัดสินใจเลือกวิธีการใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวน Mitral Valve-in-Valve โดยต้องใช้เทคนิค LAMPOON เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ซึ่งเป็นเคสที่ยากและยังไม่เคยทำมาก่อน

สุดท้าย ได้ประสานงานขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ไต้หวันที่มีความชำนาญเป็นการเฉพาะ รวมถึงมีทีมแพทย์จากศิริราชมาร่วมสังเกตการณ์ การรักษาครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม นำมาซึ่งความโล่งใจและเป็นบทเรียนครั้งสำคัญให้กับทีมแพทย์ไทย โดย นพ.รังสฤษฎ์ได้ระบุข้อความว่า

"งานสุดท้าย ของชีวิตราชการ

คนไข้ผม อายุ 80+ ปี ผ่าตัดลิ้นหัวใจเทียมไปแล้ว 2 ลิ้น ที่เอออร์ติก กับไมตรัล

ตอนนี้ลิ้นเทียม (เนื้อเยื่อ) ที่ตำแหน่ง ไมตรัลเสื่อมมากจนมีอาการหัวใจล้มเหลว ผมพยายามรักษาเต็มที่ด้วยยาแล้วไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร

จะผ่าใหม่ก็เสี่ยง เพราะอายุ และโรคร่วมเยอะ

ผมจึงปรึกษา heart team เพื่อพิจารณา ใส่ลิ้นเทียมผ่านสายสวน สวมในลิ้นเทียมเดิม Mitral Vale-in-Valve

เนื่องจากเป็น case ยาก ต้องใช้ technique LAMPOON (ไม่เกี่ยวกับ จ.ลำพูน แต่อย่างใด) เพื่อป้องกัน neoLVOT obstruction และไม่เคยทำกันมาก่อน

อ.แมค Structural heart interventionist จึงประสานให้ทีมแพทย์จากไต้หวันที่มีความชำนาญเรื่องนี้บินมาช่วย (มันเป็นเรื่องใหม่ของโลกเลย)

เนื่องจากเป็น case น่าสนใจ ทีมอาจารย์แพทย์โรคหัวใจจากศิริราช นำโดย อ.ณัฐวุฒิ ก็มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ผมลุ้นมาก กังวลพอสมควร เพราะคนไข้ อายุมาก มีโรคร่วมเยอะ ไม่ค่อยแข็งแรง

ดีใจมากที่ผลการรักษาประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม

และทีมเราได้เรียนรู้อะไรมากมาย การรักษาคนไข้ 1 คน ต้องอาศัยทีมดูแล ทั้ง อายุรแพทย์ ศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ พยาบาล technician มากมายจริงๆ

ทั้งหมดนี้ ต้องขอบคุณ และชื่นชม อ.แมค ทรรศลักษณ์ ที่สุด ที่ติดต่อ ประสานทุกฝ่าย และ lead การรักษาที่แสนซับซ้อนนี้ จนเป็นผลสำเร็จ

โล่งใจเลย"