xs
xsm
sm
md
lg

อาจารย์ตฤณห์เคลียร์ดรามา “เหลี่ยม-ไม่โปร่งใส” ปมธุรกิจ ออม สุชาร์-พริม ณัฐชา ยันวิเคราะห์ตามข้อมูล ไม่ได้กล่าวหาใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดรามา “ฮุบบริษัท” ยังไม่จบ! หลัง ออม สุชาร์ เผยไม่พร้อมเผชิญหน้า อาจารย์ตฤณห์ กลางรายการ ล่าสุดเจ้าตัวออกมาโพสต์ชี้แจง ย้ำวิเคราะห์ตามมุมอาชญาวิทยา ไม่ได้ตัดสินใครผิด-ถูก พร้อมทิ้งบทเรียนธุรกิจต้องมีหลักฐานชัดเจน ไม่ใช่แค่ความไว้ใจ

จากกรณีกลายเป็นประเด็นดรามา 'ฮุบบริษัท' สนั่นโลกโซเชียลสำหรับประเด็นของดาราหน้าเด็ก 'ออม' สุชาร์ มานะยิ่ง กับคู่กรณี 'พริม' ณัฐชา ชุณหะ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนแบรนด์ผลิตภัณฑ์บิวตี้ Fleen Beauty ที่ร่วมทำกับ 'ออม สุชาร์' ซึ่งขณะนี้กำลังมีเรื่องมีราวถึงขั้นฟ้องร้องกันในศาล จนทั้งสองฝ่ายได้ไปออกรายการดังอย่าง #โหนกระแส

ต่อมาในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ที่มี หนุ่ม กรรชัย นั่งเป็นผู้ประกาศข่าว ก็ได้เผยว่า ในวันนี้ทาง 'ออม สุชาร์' พร้อมด้วย 'อัง' น้องสาวของออม จะมานั่งในรายการ และพี่หนุ่มได้ถามออมตรงๆ ว่าทำไมวันนี้ถึงไม่อยากให้อาจารย์ตฤณห์มา

ซึ่ง 'ออม สุชาร์' ก็ได้ตอบว่า "จากที่หนูดูเมื่อวาน หนูก็มีความงอนๆ นิดหนึ่ง เพราะว่าหนูก็มีความรู้สึกว่าอาจารย์ก็ยังไม่ได้ฟังเรื่องจากหนูเลย และมันก็มีคำพูดบางคำที่หนูเสียใจ ที่เขาพูดว่าหนูเป็นคนเหลี่ยมหรืออะไรอย่างนี้ แต่จริงๆ อะ ถ้าหลังจากนี้หนูก็อยากคุยกับอาจารย์นะคะ หนูอยากให้อาจารย์ฟังมุมจากหนูบ้างเหมือนกัน" พี่หนุ่มบอกว่า แต่จริงๆ ก็น่าจะให้เขามานั่งเลยนะ  'ออม สุชาร์' บอกว่า "หนูยังไม่พร้อมค่ะพี่หนุ่ม"

ต่อมาอาจารย์ตฤณห์ โพธิ์รักษา ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความต่ออีกว่า "ผมก็งอนเป็นเหมือนกัน"

ล่าสุดวันนี้ (20 ก.ย.) อาจารย์ตฤณห์ โพธิ์รักษาได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว "Aj. Trynh Phoraksa" ระบุข้อความว่า

ผมขอชี้แจงดังนี้ครับ ผมได้รับเชิญให้ไปวิเคราะห์ในรายการ จึงวิเคราะห์ตามข้อมูลที่มีอยู่ ณ ขณะนั้น โดยทำหน้าที่ในฐานะ “นักอาชญาวิทยา” ไม่ใช่นักกฎหมายหรือทนายความ การวิเคราะห์ของผมจึงเป็นการมองผ่านมุมของสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ไม่ใช่นิติศาสตร์

ในทางอาชญาวิทยา ความชั่วร้ายไม่จำเป็นต้องหมายถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายเสมอไป ที่ภาษาละตินเรียกว่า Mala Prohibita (สิ่งที่ผิดเพราะกฎหมายห้าม) ในขณะที่การกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมเรียกว่า Mala In Se (สิ่งที่ผิดโดยตัวมันเอง) ซึ่งคำถามสำคัญคือ ในสังคมนี้ เรายังสามารถยึดถือศีลธรรมได้เพียงใด

ดังนั้น ผมจึงวิเคราะห์จากข้อมูลที่ปรากฏในรายการสดเท่านั้น ไม่ได้ตัดสินหรือกล่าวหาว่าใครกระทำผิด หากเมื่อวานได้เข้าร่วมรายการ ผมก็พร้อมจะวิเคราะห์ตามข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน

สำหรับในมุมมองส่วนตัว หากพฤติกรรมเป็นไปตามที่เล่ามา การแอบทำสิ่งใดลับหลังหุ้นส่วนถือว่า “ไม่โปร่งใส” (Transparency) ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม หรือที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า “เหลี่ยม” ซึ่งในทางธุรกิจ “เหลี่ยม” ไม่ได้หมายความว่าผิดกฎหมายเสมอไป แต่เป็นเรื่องของศีลธรรมและความน่าเชื่อถือ 

โดยสรุป สำหรับผู้ที่รอการวิเคราะห์ กรณีนี้สะท้อนคำกล่าวที่ว่า “ในเวทีธุรกิจไม่มีมิตรแท้” เพราะแต่ละฝ่ายต่างมีจุดยืนและมุมมองของตนเอง และมักเล่าในมุมที่ตัวเองดูดี พร้อมหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของตน

บทเรียนสำคัญสำหรับทุกคน คือ การทำธุรกิจและการทำธุรกรรมทางกฎหมาย ควรมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ ไม่ควรพึ่งพาเพียงคำพูดหรือความไว้ใจ เพราะในโลกธุรกิจ ความชัดเจนและเอกสาร คือเกราะป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด การป้องกันย่อมมีราคาน้อยกว่าการแก้ไขเสมอ

ผมต้องขอโทษ หากทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นการกล่าวหาที่ตัวบุคคล ผมคิดว่าเหลี่ยมหมายถึงได้ทุกคน ถ้าทำตัวไม่โปร่งใส เพราะคำว่าเหลี่ยมคือคำอธิบายเชิงพฤติกรรม ใครที่ทำตัวไม่โปร่งใสก็เหลี่ยมทั้งนั้น 

และที่โพสต์เรื่องงอน เพราะผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่ได้มีเรื่องเคืองใจ ผมโพสต์ตบมุกเพราะทางนั้นบอกงอนผม ผมก็เลยแซวว่าผมก็งอนที่เขาไม่ให้ผมเจอ ขอบคุณมากครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น