xs
xsm
sm
md
lg

วิรังรอง ทัพพะรังสี เปิดแคมเปญล่ารายชื่อถอดถอน “ทรงศัก สายเชื้อ” ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมวินิจฉัยปมรักษาตัว “ทักษิณ” ขัดศาลฎีกาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากกรณีศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้นำตัว “ทักษิณ ชินวัตร” กลับเข้าเรือนจำ รับโทษจำคุก 1 ปี หลังพบการรักษาตัวนอกเรือนจำไม่ชอบด้วยกฎหมาย ล่าสุด “วิรังรอง ทัพพะรังสี” เดินหน้าล่ารายชื่อประชาชน เพื่อยื่นถอดถอน “ทรงศัก สายเชื้อ” ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฐานกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 นางวิรังรอง ทัพพะรังสี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศเชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อสนับสนุนการยื่นถอดถอนนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยระบุว่า การวินิจฉัยของนายทรงศักที่เคยรับรองการเข้ารักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ในโรงพยาบาลตำรวจ ขัดแย้งกับคำสั่งล่าสุดของศาลฎีกาฯ ซึ่งมีมติให้นำตัวกลับเข้าเรือนจำ เนื่องจากไม่ได้ป่วยฉุกเฉินตามเกณฑ์กฎหมาย โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า

“ขอเชิญร่วมลงชื่อสนับสนุนการยื่นถอดถอนนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดินฐานกระทำความผิดจริยธรรมร้ายแรง

สืบเนื่องจากนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เคยมีคำวินิจฉัยรับรองนายทักษิณ ชินวัตร ในกรณีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการแพทยสภาฯ ได้มีมติว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนว่านาย ทักษิณ ชินวัตร ป่วยวิกฤตจริง และได้ลงโทษแพทย์ 3 ราย ในประเด็นการให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงหลักฐานความเป็นจริง ดิฉันจึงได้ยื่นโต้แย้งคำวินิจฉัยของนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้แสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อทบทวนคำวินิจฉัยโดยได้อ้างอิงมติแพทยสภาฯ เพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่นายทรงศัก สายเชื้อ ปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า ดิฉันมิใช่ผู้เสียหาย มิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องนี้ จึงยืนยันคำวินิจฉัยเดิมและยุติไม่รับเรื่องที่ดิฉันยื่นเรื่องโต้แย้ง

จนถึงวันที่ 9 กันยายน 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งถึงที่สุดว่าให้นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร กลับเข้าเรือนจำโดยให้จำคุก 1 ปี ตามพระบรมราชโองการ เนื่องจากการนำตัวนายทักษิณไปรักษาตัวนอกเรือนจำนั้น มิได้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ตัวผู้ต้องขังไปรักษา นอกจากนี้นายทักษิณทราบว่าตนมิได้ป่วยฉุกเฉินมีเพียงโรคประจำตัวซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาตัวแบบผู้ป่วยนอกได้โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ คำวินิจฉัยของนายทรงศัก ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงขัดกับคำสั่งของศาลฎีกาฯ

ดิฉันจึงขอยื่นถอดถอนนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากได้กระทำความผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่ง ในองค์กรอิสระอย่างร้ายแรง ดังนี้

1.1 ในหมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

ข้อ 5 ต้องยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2566 มีพระบรมราชโองการพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นายทักษิณ เหลือโทษจำคุกเพียง 1 ปี (จากตามคำพิพากษา 8 ปี) ดังนั้น นายทักษิณ จะต้องรับโทษจำคุก 1 ปี ตามพระบรมราชโองการ แต่นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน มิได้คำนึงถึงประบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์ซึ่งทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ ทั้งที่นายทรงศักมีอำนาจไต่สวนการบังคับโทษจำคุกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กลับละเลย มิได้แสวงหาข้อเท็จจริง หรือพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน หรือศึกษาและวินิจฉัยพยานหลักฐานทางการแพทย์แต่อย่างใด คงเชื่อแต่เพียงเอกสารหลักฐานที่หน่วยงานของรัฐที่ถูกร้องเรียนส่งมาให้อ่านเท่านั้น แม้ดิฉันได้พยายามโต้แย้งคำวินิจฉัยแล้ว แต่นายทรงศัก ก็มิได้นำมาวินิจฉัยแต่อย่างใด กระบวนการบังคับโทษในรายของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร จึงเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามพระบรมราชโองการบังคับโทษ และปราศจากการตรวจสอบจากองค์กรอิสระคือสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทั้งที่มีผู้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวหลายราย มีผลทำให้นายทักษิณไม่ต้องรับโทษจำคุก 1 ปี ตามพระบรมราชโองการ

2 ในหมวด 1 ข้อ 7 ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน

การกระทำดังที่กล่าวมาของนายทรงศัก สายเชื้อ ทำให้ดิฉันเข้าใจว่า นายทรงศัก ไม่มีความกล้าหาญพอที่จะวินิจฉัยเรื่องนายทักษิณ น่าจะเป็นเพราะเรื่องประโยชน์ส่วนตน เพราะถ้านายทรงศักคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักสำคัญ ควรต้องพยายามสืบแสวงหาข้อมูลประกอบการวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว รอบคอบ และครบถ้วนตามความเป็นจริง ดังเช่นที่ศาลฎีกาฯ ทำ ซึ่งกฎหมายก็ได้ให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถเรียกทุกคนที่ศาลฎีกาฯ เรียกมาไต่สวนได้ คือทำได้หมดเหมือนที่ศาลทำ แม้จะไม่มีอำนาจบังคับโทษเหมือนศาล แต่เพื่อหาข้อเท็จจริง ถ้านายทรงศักคำนึงถึงประโยชน์ของชาติ ศาลและประชาชนส่วนใหญ่ก็คงไม่ต้องเหนื่อย เรื่องนี้เป็นปัญหาสำคัญระดับชาติที่สาธารณชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และกระทบต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศ แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินกลับไม่ให้ความสำคัญ

3 ในหมวด 1 ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

20 พฤศจิกายน 2566 คณะผู้ตรวจการแผ่นดินได้ไปแสวงหาข้อมูลตรวจชั้น ๑๔ และได้พบกับนายทักษิณ โดยมิได้เปิดเผยข้อมูลใดๆ ทำให้เข้าใจว่านายทักษิณคงป่วยวิกฤติจริง เพราะถ้าคณะผู้ตรวจการแผ่นดินพบว่า นายทักษิณ มิได้ป่วยวิกฤติ แล้วไม่เปิดเผยหรือตรวจสอบเพิ่มเติม ปล่อยให้ไม่ต้องกลับไปจำคุกในเรือนจำ จะต้องถึอว่ามีพฤติกรรมสนับสนุนหรือสมรู้ร่วมคิดยินยอมช่วยเหลือให้นายทักษิณไม่ต้องติดคุก แม้แต่นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ก็ยังนำคำวินิจฉัยของ นายทรงศัก ผู้ตรวจการแผ่นดินมาแก้ตัวกับคณะกรรมการสิทธิ (กสม.) ว่าเรื่องนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงละเอียดยิบเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากนายทักษิณ เป็นผู้มีอิทธิพล ต้องโทษคดีทุจริตและคอร์รัปชัน เคยมีข่าวเรื่องถุงขนมในศาล การที่ผู้ตรวจการแผ่นดินกล้ารับรองนายทักษิณตลอดมา ทำให้สงสัยในความซื่อสัตย์สุจริตว่าอาจจะแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และเพื่อความโปร่งใสสง่างามของผู้ตรวจการแผ่นดิน ตลอดจนคณะเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นไปตรวจชั้น 14 ซึ่งควรเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถมากพอที่จะลงพื้นที่แสวงหาข้อมูลเรื่องสำคัญ การได้พบตัวนายทักษิณตัวเป็น ๆ ก็ควรประเมินได้ว่าป่วยวิกฤตหรือไม่ จึงควรตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลเหล่านี้ทั้งหมดว่าอาจมีความเชื่อมโยงถึงกันและกันหรือไม่

4 ในหมวด 2 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก

ข้อ 11 ไม่กระทําการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

ข้อนี้ได้กล่าวไว้โดยรวมข้างต้นแล้ว

5 ในหมวด 2 ข้อ 12 ยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน

กรณีโกงคุกของนายทักษิณ เป็นเรื่องไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการได้รับการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกันกับนักโทษรายอื่น จนถึงขนาดสังคมถามว่า คุกมีไว้ขังแค่คนจนหรือ ถ้าประชาชนเสื่อมศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ก็จะไม่เคารพกฎหมายและกลายเป็นปัญหาสังคม หากผู้ตรวจการแผ่นดินไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ แล้วประชาชนจะพึ่งใคร

6 ในหมวด 2 ข้อ 13 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ โดยไม่หวั่นไหวต่ออิทธิพล กระแสสังคม หรือแรงกดดันอันมิชอบด้วยกฎหมาย โดยคํานึงถึงสิทธิและ เสรีภาพของประชาชน ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมแห่งสถานภาพ

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องการบังคับโทษไม่เป็นไปตามหมายจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร ศาลฎีกาไม่รับด้วยเหตุผลว่ามิใช่ผู้ที่มีส่วนได้เสีย แต่ศาลฯ กลับยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาไต่สวนเอง จนทำให้เรามีวันนี้ที่ความยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม คือคนทำผิดได้รับโทษ

ถ้านายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ โดยไม่หวั่นไหวต่ออิทธิพล หรือแรงกดดันอันมิชอบด้วยกฎหมาย คํานึงถึงประชาชนเป็นหลัก แม้จะยุติเรื่องที่ดิฉันโต้แย้งไปด้วยเหตุผลว่ามิใช่ผู้เสียหาย เช่นเดียวกับกรณีนายชาญชัย แต่นายทรงศัก สามารถยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาวินิจฉัยใหม่เองได้ดังเช่นศาลฎีกาฯ เพื่อประโยชน์สาธารณะ และเพื่อธำรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่กลับไม่ทำ

7 ในหมวด 2 ข้อ 15 ให้ข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริงแก่ประชาชนหรือสื่อมวลชนอันอยู่ในความรับผิดชอบ ของตน ถูกต้องครบถ้วนและไม่บิดเบือน

ดิฉันเคยร้องเรียนให้นายทรงศัก เปิดเผยข้อมูลการลงพื้นเพื่อแสวงหาข้อมูล ณ ชั้น 14 ของคณะผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งเป็นข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสื่อมวลชน จะได้ไม่ต้องคาดเดาไปเองต่างๆ นานา แต่ถูกปฏิเสธ จนบัดนี้สาธารณชนยังไม่ทราบเลยว่า วันนั้น ณ ชั้น 14 คณะผู้ตรวจการแผ่นดินได้ข้อเท็จจริงอะไรบ้าง นายทรงศักจึงได้มีคำวินิจฉัยรับรองนายทักษิณ ดิฉันสงสัยว่าการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมิได้เปิดเผยข้อเท็จจริงใด ๆ เลย อาจถึอเป็นการบิดเบือนข้อมูล ซึ่งสวนทางกับข้อเท็จจริงในคำสั่งศาลฎีกาฯ ที่ว่า นายทักษิณ ชินวัตรทราบว่าตัวเองไม่ได้ป่วย

8 ในหมวด 2 ข้อ 17 ไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง

คำวินิจฉัยรับรองการป่วยและรับโทษติดคุกของนายทักษิณชินวัตร ของนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน นำความอับอาย เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่เคยมีองค์กรอิสระใดเคยทำพลาดเช่นนี้มาก่อน ถึงแม้คำวินิจฉัยของนายทรงศักจะออกมาก่อนมติแพทยสภา แต่ภายหลัง เมื่อได้ทราบมติแพทยสภาก็ควรเฉลียวใจคิดทบทวน และใช้โอกาสที่ดิฉันโต้แย้งไป รับไว้เพื่อวินิจฉัยใหม่โดยยกเหตุผลว่ามีหลักฐานใหม่จากแพทยสภา เราก็คงจะได้คำวินิจฉัยใหม่ว่านายทักษิณโกงการติดคุก ไม่ได้ป่วยจริง ซึ่งหลักฐานจากแพทยสภานั้นศาลฎีกาฯ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่นายทรงศัก กลับเมินเฉยไม่ได้ให้ความสำคัญ ไม่รับไว้พิจารณา

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินคนปัจจุบัน กำลังจะหมดหมดวาระในวันที่ 14 ตุลา 2568 จึงจะต้องมีการเลือกประธานผู้ตรวจการแผ่นดินคนใหม่จากผู้ตรวจการแผ่นดินทั้ง 3 คนในเวลาอันใกล้นี้ สำหรับนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะครบวาระในอีก 4 ปีข้างหน้า และเป็น 1 ในผู้มีสิธิได้รับเลือกเป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดินคนต่อไป ถ้าได้รับเลือก ก็จะอยู่ในตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดินอีก 4 ปี

ดิฉันเห็นว่า ตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ควรต้องคัดสรรคนที่ไม่มีมลทิน เป็นคนดี มีความสง่างาม กล่าวคือมีความสุจริตและจริยธรรมเป็นที่ประจักษ์ มีความกล้าหาญที่จะกวาดล้างเจ้าหน้าที่รัฐที่ประพฤติผิดมิชอบ ไม่เกรงกลัวหรือเกรงใจอำนาจหรืออิทธิพลนักการเมือง ถ้าหาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเช่นนี้ไม่ได้ ก็ควรยุบสำนักงานนี้ไปให้สิ้นซากไม่ต้องมี

9 หมวด 3 จริยธรรมทั่วไป

ข้อ 21 ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกําลังความสามารถ และยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ โดยคํานึงถึง ผลประโยชน์ของชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม

จากข้อมูลที่ดิฉันทราบและได้กล่าวไว้ข้างต้น ทำให้ดิฉันคิดว่านายทรงศัก สายเชื้อ มิได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกําลังความสามารถ ไม่ยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม ไม่โปร่งใส และตรวจสอบไม่ได้ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ ไม่คํานึงถึง ผลประโยชน์ของชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม

ในฐานะคนไทยที่จงรักภักดี การที่นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้จำคุกตามพระบรมราชโองการ ถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แม้ศาลฎีกาฯ ก็ยังให้ความสำคัญกล่าวถึงพระบรมราชโองการพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้เหลือโทษจำคุกแค่ 1 ปี เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทรงศัก สายเชื้อ มีคำวินิจฉัยผิดพลาดขัดกับศาลฎีกาฯ และไม่รับผิดชอบโดยไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งตามที่ดิฉันเรียกร้องผ่านสื่อสังคม จึงเห็นควรขอเสียงสนับสนุน จากประชาชนที่เห็นด้วยกับดิฉัน เพื่อดิฉันจะได้ยื่นเรื่องถอดถอนนายทรงศัก สายเชื้อ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา ในฐานความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ต่อไป

กรณีนี้ เป็นคำวินิจฉัยเฉพาะตัวของนายทรงศักดิ์ สายเชื้อคนเดียวเท่านั้น จึงยื่นถอดถอนนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน คนเดียว

การร่วมลงชื่อสนับสนุน มีระยะเวลา 5 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 9 โมงเช้า - เวลาประมาณเที่ยงคืน ของวันที่ 15 กันยายน 2568

การตรวจสอบรายชื่อ: จะเผยแพร่รายชื่อทาง Facebook ชื่อวิรังรอง ทัพพะรังสี เป็นระยะ ๆ ท่านใดที่ไม่สะดวกให้เผยแพร่ชื่อกรุณาอย่าลงชื่อค่ะ

ท่านที่ต้องการตรวจสอบชื่อ กรุณาจดวันที่และเวลาที่ท่านได้ลงชื่อไว้ เพื่อใช้ตรวจรายชื่อตามวันเวลาที่ท่านได้ลงชื่อค่ะ

ท่านที่แสดงความเห็นแต่ไม่แสดงตัวตน ไม่ใส่นามสกุล หรือพิมพ์ข้อความอื่นในช่องชื่อนามสกุล หรือใช้คำหยาบ ถ้าพบจะถูกลบทิ้งค่ะ

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนค่ะ

วิรังรอง ทัพพะรังสี

10 กันยายน พ.ศ. 2568
โพสต์เวลา 06.15 น.
เปิดเป็นสาธารณะให้ลงชื่อเวลา 9.30 น.

คำนำหน้าที่พิมพ์ไว้อัตโนมัติในแบบฟอร์ม เป็นการทำสำเนาจากแบบฟอร์มที่เคยรวบรวมรายชื่อเพื่อสนับสนุนแพทยสภา จึงมีคำนำหน้าเชิงวิชาการแพทย์และนักวิชาการหลายรายการ และไม่ได้ลบออกเนื่องจากเพื่อความสะดวกสำหรับบางท่านจะได้ไม่ต้องพิมพ์เองยาว ๆ ค่ะ“
กำลังโหลดความคิดเห็น