xs
xsm
sm
md
lg

“พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร” ชี้แจงกรณี “พล.ท.กนก” กล่าวพาดพิง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 (เกษียณราชการปี 2555) ชี้แจงกรณี พล.ท.กนก เนตระคะเวสนะ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวพาดพิง ดังนี้

“ผม พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร เข้ารับราชการสนามตั้งแต่ปี 2521–2554 ได้รับพระราชทาน เหรียญรามาธิบดี ชั้นอัศวิน ในปี 2525 ขณะมียศร้อยเอก ผ่านการปฏิบัติหน้าที่ในทุกตำแหน่ง ทั้งผู้พัน ผู้การ ผู้บัญชาการกองพล และแม่ทัพ ซึ่งตลอดการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ไม่เคยเสียเปรียบทางการรบต่อกัมพูชา

กองกำลังของ กรมทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ได้พลีชีพเพื่อชาติราว 160 นาย มีรายชื่อจารึกที่อนุสาวรีย์กล้ากลางสมร ร.23 อันเป็นเกียรติยศสูงสุดแก่ทหารหาญ

ชี้แจงกรณีที่ พล.ท.กนก ให้ข่าวอ้างถึง
1. การบริหารงบประมาณและทรัพยากรสนาม
• ในสมัยที่ผมเป็น ผบ.พล.ร.6 ได้มอบหมายให้ พล.ท.กนก (ซึ่งเป็นรุ่นพี่ 1 ปี แต่ขณะนั้นเป็นรอง ผบ.พล.ร.6) ดูแลส่วนหลัง รวมถึงงบประมาณและการจัดหาน้ำมันจากสนามเดือนละ 10,000 ลิตร
• รายได้สนามกอล์ฟที่ผมปรับปรุงจนสร้างรายได้กว่า 300,000 บาทต่อเดือน ได้แบ่งสรรอย่างโปร่งใส คือ
• 100,000 บาท สำหรับจัดหาข้าวสารอาหารแห้ง 100 ชุด มอบเป็นขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวกำลังพลแนวหน้า
• 200,000 บาท ให้ พล.ท.กนก บริหารจัดการในส่วนงานสนับสนุน
การดำเนินงานทั้งหมดเป็นไปเพื่อสวัสดิการกำลังพล ไม่ใช่การทุจริตหรือหาผลประโยชน์ส่วนตนแต่อย่างใด

2. กรณีอ้างถึงบ่อนชายแดน
ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีใครนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีเพื่อโอนเงิน 80,000 บาทตามที่กล่าวหา เรื่องนี้เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล

3. กรณีไม้ไผ่ปราสาทตาเมือน
รั้วไม้ไผ่ดังกล่าวสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2551 โดย พล.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรม (รุ่น 24) สมัยดำรงตำแหน่งผู้การทหารพราน 26 เพื่อใช้ตรวจสอบชาวกัมพูชาที่ขึ้นมาชมปราสาทตาเมือน และถูกทำลายจากเหตุการณ์การรบปี 2554 ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ พล.ท.กนก กล่าวอ้าง

4. เหตุการณ์รบชายแดนปี 2554
ในฐานะแม่ทัพภาคที่ 2 ผมได้สั่งการปฏิบัติการที่ทำให้กองทัพกัมพูชาได้รับความเสียหายทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์เป็นจำนวนมาก ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ไทยเสียเปรียบตามที่มีการกล่าวหา

ข้อสรุป

ผมเห็นว่า การที่ พล.ท.กนกออกมาให้ข่าวอันเป็นเท็จ อาจเกิดจากความคับข้องใจที่ไม่ได้รับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ในปี 2553 และต้องการ “แสง” ทางสังคม แต่การกระทำดังกล่าวไม่เพียงบิดเบือนข้อเท็จจริง ยังบั่นทอนกำลังใจของทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าในปัจจุบัน

ตลอดเวลาที่ผมทำงาน ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่มอบการสนับสนุนทุกด้านอย่างไม่ต้องร้องขอ

ผมขอยืนยันให้สังคมตรวจสอบกับกำลังพลทุกระดับตั้งแต่ยศ พ.อ.จนถึงผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกษียณแล้วหรือยังปฏิบัติหน้าที่ ว่าใครกันแน่ที่มีบทบาทในการรบ ใส่ใจสวัสดิการ และเหมาะสมกับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ในยุคนั้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น