กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อผู้โดยสารรายหนึ่งออกมาเล่าเหตุการณ์บนรถเมล์สายครีมแดง หลังมีปากเสียงกับหญิงสูงวัยอายุราว 70 ปี เหตุเกิดจากสัมภาระที่รบกวนพื้นที่ส่วนตัว จนลุกลามเป็นวิวาทะเรื่อง "มารยาท" และ "การให้เกียรติผู้สูงอายุ" ในสังคม
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ผู้โดยสารรายหนึ่งได้เปิดเผยเหตุการณ์กระทบกระทั่งบนรถเมล์สายครีมแดงเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังมีปากเสียงกับหญิงสูงวัยรายหนึ่งอายุราว 70 ปี ที่นำสัมภาระมาวางรบกวนพื้นที่ส่วนตัว จนนำไปสู่การโต้เถียงเรื่องมารยาทและการให้เกียรติผู้สูงอายุ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 20.30 น. ขณะที่ผู้โดยสาร (ขอใช้อิโมจิหน้ายิ้มสีเหลืองแทนตัวผู้ประสบเหตุ) กำลังเดินทางด้วยรถเมล์จากเดอะมอลล์บางกะปิ มุ่งหน้าลาดพร้าว 101 หลังขึ้นรถมาได้ไม่นาน ผู้โดยสารรายนี้ได้ถูกมือของหญิงสูงวัยคนหนึ่งสัมผัสบริเวณที่พิงศีรษะโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งแม้จะรู้สึกขุ่นมัวแต่ก็เลือกที่จะปล่อยผ่านไป
อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น หญิงคนดังกล่าวได้นำกระเป๋าถือและสัมภาระต่างๆ (ขอใช้สติกเกอร์อื่นๆ แทนสัมภาระ) มาวางทับบริเวณบ่า ไหล่ และหูของผู้โดยสารรายนี้ จนทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว จึงหันไปแจ้งอย่างสุภาพว่า "ขอโทษนะครับ กระเป๋าสัมภาระ มันโดนหัวผม รบกวนเอาออกไปด้วยนะครับ" หญิงสูงวัยตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า "อ้าว ฉันก็ต้องวางสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะยืนได้สะดวกยังไง มันก็ไม่มั่นคง"
เมื่อเห็นว่าไม่มีทีท่าว่าจะนำสัมภาระออก ผู้โดยสารจึงขยับตัวเพื่อให้สิ่งของเหล่านั้นพ้นจากตัว ทันใดนั้นเอง หญิงสูงวัยก็ตำหนิเขาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า "คุณนี่มันไม่มีมารยาทเอาซะเลยนะ ฉันรู้นะว่าตั้งใจ คุณเจตนาทำแบบนี้ มันแย่มาก นี่รู้ไหมว่าฉันอายุ 70 แล้วนะ จริงๆ คุณควรจะลุกให้ฉันนั่งด้วยซ้ำ"
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้โดยสารจึงหันไปมองเป็นครั้งแรก และพบว่าเป็นหญิงสูงวัยจริงตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่กระเป๋ารถเมล์และผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เข้ามาไกล่เกลี่ย โดยบอกหญิงสูงวัยว่า "คุณป้ามานั่งตรงนี้ก็ได้ มีที่ว่างอยู่" แต่หญิงคนดังกล่าวปฏิเสธที่จะนั่งและยังคงตำหนิผู้โดยสารเสียงดังต่อไป โดยอ้างว่าตนเคยเป็นครู และสิ่งที่ผู้โดยสารทำนั้นไม่ถูกต้องและไร้มารยาท
ผู้โดยสารจึงตอบกลับไปว่า "ก่อนอื่น ผมไม่ได้มีตาหลังที่จะคอยสอดส่องคนทั้งรถ เพื่อแสดงน้ำใจครับ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนสูงอายุ อยากจะได้ความช่วยเหลือจากคนที่อายุน้อยกว่า คุณก็สะกิดถามขอความช่วยเหลือตรงๆ ว่า คุณแก่แล้ว คุณมีปัญหาด้านสุขภาพ อะไรก็ว่ากันไป ผมเชื่อว่าหลายคนก็พร้อมช่วย แต่คุณก็ไม่ได้ทำ ที่นั่งมีว่าง คุณก็ไม่ไปนั่ง อ้างไกล เพราะเตรียมจะลงรถ สาเหตุของปัญหาครั้งนี้ มันไม่ได้อยู่ที่อายุ มันเริ่มที่คุณ เอาของมาวางโดนหัวผมเป็นเวลานาน โดยไม่มีวี่แววจะรู้สำนึก แล้วจะใช้เรื่องอายุมาอ้างอะไรกัน จะใช้ความเป็นครูบาอาจารย์อะไรที่ไหนมาสั่งสอนคนอื่น ในเมื่อสิ่งที่ตัวเองทำมันผิดตั้งแต่เริ่มต้น"
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ ผู้ประสบเหตุได้ลุกเพื่อลงจากรถ ผู้ประสบเหตุจึงหันไปเสนอที่นั่งให้หญิงสูงวัยอีกครั้ง แต่เธอก็ยังคงปฏิเสธโดยกล่าวว่าจะลงจากรถแล้ว และเมื่อหญิงคนดังกล่าวลงไป ผู้ประสบเหตุก็ลงจากรถที่ป้ายถัดไปเช่นกัน ก่อนลงจากรถ เขาได้กล่าวขอโทษกระเป๋ารถเมล์ที่สร้างความวุ่นวาย ซึ่งกระเป๋ารถเมล์ได้ตอบกลับมาว่า "หนูเห็นแล้วล่ะค่ะ ว่าคุณป้าแกถือกระเป๋าสัมภาระต่างๆ วางโดนหัวผู้โดยสาร ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเดี๋ยวจะมีปัญหาหรือเปล่า"
ผู้ประสบเหตุกล่าวทิ้งท้ายว่า "โอเค อย่างน้อยผมมีพยานแล้ว 1 คน ส่วนคนอื่นบนรถเมล์ อาจไม่ทราบเรื่องราว เผื่อมีชาวเน็ตโพสต์ด่า หวังว่ากระเป๋ารถจะช่วยแก้ข่าวให้บ้าง"