xs
xsm
sm
md
lg

ราคากากถั่วเหลืองลดลง หนุนเนื้อสัตว์คุณภาพดีในราคาสมเหตุผล เกษตรกร-ผู้บริโภคได้ประโยชน์ร่วมกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เป็นที่ทราบกันดีว่าภาคปศุสัตว์โดยเฉพาะการเลี้ยงหมู ไก่ และไข่ไก่ ต้นทุนหลักมากกว่า 50% มาจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ ที่ราคามีความผันผวนมาโดยตลอดจากหลายปัจจัยทั้งสภาพอากาศ โรคระบาดสัตว์ สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองของโลก แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2566-2568) ราคากากถั่วเหลืองปรับตัวลดลงประมาณ 21-22% จาก 18 บาทต่อกิโลกรัมในปี 2566 เหลือ 14 บาท เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2568 เป็นโอกาสดีที่การผลิตเนื้อสัตว์จะสามารถบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมคุณภาพที่ดีของเนื้อสัตว์และเสถียรภาพราคาที่ผู้บริโภคและเกษตรกรผู้เลี้ยงจะได้รับเป็นราคาที่สมเหตุผล

สำหรับต้นทุนสำคัญในการผลิตเนื้อสัตว์ของไทย คือ วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร้อนแล้ง ฝนตกหนัก น้ำท่วม รวมถึงสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์รายใหญ่ของโลก ล้วนส่งผลกระทบในวงกว้างดันราคาวัตถุดิบและราคาพลังงานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

3 ปี ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ประเทศผู้ผลิตและส่งออกเนื้อสัตว์รายใหญ่ของโลก ต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคสัตว์ต่างๆ ทั้งโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู เช่น โรค ASF ในสุกร และไข้หวัดนก (ในประเทศเพื่อนบ้าน) นอกจากทำให้ผลผลิตลดลงมากกว่า 50% แล้ว ยังต้องทำลายสัตว์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดขยายวง เหล่านี้ส่งผลกระทบกับต้นทุนการผลิตและราคาเนื้อสัตว์ในประเทศสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

“ไก่เนื้อ” จะได้รับอานิสงน์โดยตรง มีทางเลือกในการใช้สูตรอาหารมากขึ้น จากราคากากถั่วเหลืองที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญที่มีบทบาทในการพัฒนาเนื้อสัตว์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและราคาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์มีเสถียรภาพมากขึ้น การลดลงของราคากากถั่วเหลืองจึงเป็นปัจจัยบวกที่จะจูงใจให้เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ หันมาใช้สูตรอาหารสัตว์ที่มีสัดส่วนของกากถั่วเหลืองมากขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสำคัญในการปรับโครงสร้างการเพาะปลูกพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตควบคู่กับการใช้เทคโนโลยี และตรวจสอบย้อนกลับได้ตามแนวทางการผลิตที่ยั่งยืน ลดความผันผวนของราคาวัตถุดิบในอนาคต รวมถึงรองรับเงื่อนไขทางการค้าและการบริโภคของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น และยังช่วยยกระดับเนื้อสัตว์และเกษตรกรไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น

บทเรียนจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เห็นความจำเป็นในการปรับโครงสร้างการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ของไทย โดยเฉพาะการลดการใช้วัตถุดิบจากการเผา เช่น ข้าวโพดจากพื้นที่เผา ซึ่งมีส่วนในการสร้างฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การส่งเสริมการผลิตวัตถุดิบที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ และใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต เป็นความจำเป็นที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหารและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น

การลดลงของราคากากถั่วเหลืองไม่ใช่เพียงเรื่องของต้นทุนที่ลดลง แต่เป็นโอกาสในการสร้างระบบอาหารที่มีคุณภาพ ยั่งยืน และเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายในห่วงโซ่การผลิตเนื้อสัตว์ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำทุกภาคส่วนในห่วงโซ่เนื้อสัตว์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ร่วมกันแบบ win-win ที่สำคัญนี่คือโอกาสสำคัญในการปรับโครงสร้างการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ของไทยสู่ความยั่งยืน และส่งเสริมคนไทยสู่การบริโภคอย่างยั่งยืนควบคู่กันไป./

เขียนโดย ศิระ มุ่งมะโน นักวิชาการอิสระ






กำลังโหลดความคิดเห็น