“ธิย โสวันธา” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแบบรัวๆ ยอมรับผิด 3 เรื่อง หลัง “ฮุนเซน” สั่งปลดพ้นรองนายกเทศมนตรีนครอริยกษัตริย์ บอกแฟนคลับจะไม่ฆ่าตัวตายเพราะเป็นหญิงแกร่ง ชี้ผู้นำลงโทษลูกน้องทำผิดเป็นเรื่องปกติ ขอความเมตตาจากสมเด็จเตโช บุญคุณสูงส่งที่สุดแล้ว
“ธิย โสวันธา” นอกจากจะเป็นนักการเมืองสาวดาวรุ่งของกัมพูชาแล้ว ยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในโลกโซเชียลฯ ของชาวเขมร มีผู้ติดตามเฟซบุ๊ก ធី សុវណ្ណថា Thy Sovantha มากกว่า 2.4 ล้านคน
ล่าสุดหลังจากที่นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ใช้อำนาจในฐานะประธานพรรคประชาชนกัมพูชาสั่งปลดเธอออกจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครอริยกษัตริย์ จังหวัดกันดาล (อยู่ติดกับกรุงพนมเปญ) พร้อมไล่ออกจากราชการ และไล่ออกจากพรรคประชาชนกัมพูชา ฐานทำให้กองทัพกัมพูชาเสียหาย กรณีโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าทหารกัมพูชาเป็นโรคหลายโรคเพราะดื่มแอลกอฮอล์แล้วนั้น
ต่อมาพบว่าในเฟซบุ๊ก ធី សុវណ្ណថា Thy Sovantha ได้มีการโพสต์ข้อความอย่างต่อเนื่อง เช่น
- คุณปู่ พ่อแม่ดุด่าและลงโทษลูกเป็นเรื่องปกติ ฉันทำผิด ฉันยอมรับ... ด้วยความเคารพ…
- สมเด็จเตโช ขอความเมตตาต่อฉันด้วยเถิด สูงเท่าฟ้า กว้างเท่าดิน ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร คุณคือคนที่ช่วยชีวิตฉันไว้...@tha
- อย่ากังวลเลย พี่น้องทั้งหลาย ฉันจะไม่ฆ่าตัวตาย ฉันคือ ธิย โสวันธา ของทุกคน ฉันเป็นเด็กสาวที่เข้มแข็ง...
- สมเด็จเตโชลงโทษฉัน ฉันทำผิดจริงๆ นี่คือคำเตือนสำหรับเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ให้รักษาวินัยและเคารพกฎหมาย...
- ผู้นำดุด่าและลงโทษลูกที่ทำผิดเป็นเรื่องปกติ เคยมีมาแล้วหลายครั้ง ทำไมบางคนถึงหัวเราะเยาะฉันนักหนา... @note
- ขอกำลังใจหน่อย 1...
- หลานทำผิด ขอโทษปู่ ขอบคุณยายที่ดูแลหลานมาโดยตลอด บุญคุณปู่สูงส่งที่สุด
- ความผิดพลาด 3 ข้อของฉัน ที่ได้โพสต์ออกไป
1. เรื่องการติดตามเงินช่วยเหลือทหาร
2. เรื่องการประท้วงต่อต้านสินค้าไทย
3. เรื่องทหารป่วยจากการดื่มแอลกอฮอล์
ฉันต้องรับผิดชอบต่อสิ่งนี้
สำหรับประวัติของ ธิย โสวันธา เกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2538 ในครอบครัวอาชีพค้าขายในกัมพูชา เริ่มมีชื่อเสียงปี 2556 ขณะอายุ 18 ปี จากการใช้โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊กรณรงค์การเมืองใต้แฮชแท็ก #ChangeCambodia วิจารณ์รัฐบาลฮุนเซนอย่างดุเดือด จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “ดาวรุ่งฝ่ายค้าน” และเป็นความหวังของเยาวชน
อย่างไรก็ตาม ปลายปี 2559 มีแชตหลุดเกี่ยวกับการวางแผนทางการเมืองร่วมกับนายฮุน มานิต (บุตรชายนายฮุนเซน) โดยมีข่าวว่าได้รับเงินสนับสนุนกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงถูกกล่าวหาว่าเป็น “สายลับสองหน้า” สูญเสียความไว้วางใจจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาล จึงหันมาอยู่ข้างรัฐบาล สร้างชื่อเสียงจากการเปิดตัวโครงการเพื่อสังคม เช่น มูลนิธิ ทุนการศึกษา และโรงพยาบาล
ปี 2560 มีบทบาทสำคัญในการดึงมวลชนฝ่ายค้านเข้าสู่ฝั่งรัฐบาล จนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในฝ่ายปกครองท้องถิ่น