xs
xsm
sm
md
lg

"อ.ปานเทพ" แจ้งผลการรับบริจาคสร้างโดรนให้ ทภ.ได้เกิน 91 ล้าน ยังขาดอะไรอีก ก่อนปิดโครงการเที่ยงคืนคืนนี้?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แจ้งผลการรับบริจาคจัดทำโดรนและสถานีแอนตี้โดรนของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินให้กองทัพภาคที่ 2 เกิน 91 ล้านบาท ยังขาดอะไรอีกเป็นการฉุกเฉิน ก่อนปิดโครงการเที่ยงคืนคืนนี้?

วันนี้ (1 ส.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" แจ้งความคืบหน้าการรับบริจาคจัดทำโดรนและสถานีแอนตี้โดรนของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินให้กองทัพภาคที่ 2 ว่า กราบขอบพระคุณด้วยแรงพลังใจของพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินในการดำเนินการรับบริจาคเพื่อจัดทำโครงการผลิตโดรนทิ้งระเบิดชนิดพิเศษ โดรนลาดตระเวนชนิดพิเศษ และแอนตี้โดรนชนิดพิเศษ ที่ทำโดยฝีมือคนไทยทั้งหมด ทั้งซอฟต์แวร์ คลื่นความถี่ ที่ไม่สามารถดักจับอุปกรณ์ของอริราชศัตรูมาทำร้ายทหารผู้ใช้รีโมตคอนโทรลในการบังคับโดรนได้ ทั้งนี้เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันกับกองทัพภาคที่ 2 ที่กำลังเผชิญหน้ากับศึกการปะทะโดรนกับประเทศกัมพูชาหรือประเทศอื่นที่อาจจะมาแทรกแซงหลังจากนี้

ทั้งนี้เป็นไปตามเป้าประสงค์ของโครงการนี้เพื่อลดการสูญเสียของทหารหาญในการลาดตระเวน และเพิ่มแสนยานุภาพโจมตีเป้าหมายของอริราชศัตรูไม่ให้มาทำร้ายทหารหรือรุกรานแผ่นดินไทยได้

ภายหลังจากวิวัฒนาการของสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปที่มีโดรนสายลับที่ทำงานให้กับกัมพูชาลาดตระเวน สอดแนม หรือเสี่ยงภัยต่อการเปลี่ยนเป้าหมายเป็นอาวุธสงครามในวันข้างหน้า ทำให้มีพี่น้องประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์และยังคงบริจาคเข้ามาถึงวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 15.15 น. ยอดบริจาคจากพี่น้องประชาชนรวมทั้งสิ้นประมาณ 91,600,000 บาท ในเวลาประมาณเกือบ 7 วันที่ผ่านมา

ทำให้เราดำเนินการสั่งทำอุปกรณ์ดังต่อไปนี้

รายการแรก สร้างโดรนของไทย (อากาศยานไร้คนขับ) ทิ้งระเบิดชนิดพิเศษ จำนวน 50 ลำ มูลค่า 17,655,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ไม่สามารถถูกตรวจจับโดยโดรนโลเกชันได้ ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 2 และรวมถึงทางมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินสัมภาษณ์ผู้ใช้หน้างานจริงยืนยันว่าใช้งานได้ดีมาก และได้จ่ายเงินเพื่อสั่งทำแล้ว

รายการที่สอง สร้างโดรนของไทย (อากาศยานไร้คนขับ) สำหรับลาดตระเวนระบุพิกัด ภาพมีความละเอียดสูงไม่สามารถถูกตรวจจับโดยโดรนโลเกชันได้ ซึ่งจะทำให้ทหารไทยมีความปลอดภัยขึ้นโดยไม่ถูกโจมตีกลับ จำนวน 20 ลำ มูลค่า 13,910,000 (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งได้จ่ายเงินสั่งทำแล้วเช่นกัน

รายการที่สาม สถานีแอนตี้โดรนของไทย (ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ) สำหรับการป้องกันโดรนลาดตระเวนและโดรนทิ้งระเบิดจากต่างชาติในอนาคตมีหลายย่านความถี่อาจจะมากที่สุดในโลก และสามารถเพิ่มย่านความถี่ได้ด้วย เพื่อต่อต้านโดรนจากฝั่งกัมพูชาทั้งโดรนลาดตระเวน โดรนทิ้งระเบิดหรือโดรนกามิกาเซ่ จึงจัดทำระบบแอนตี้โดรนให้กับกองทัพภาคที่ 2 เบื้องต้น จำนวน 20 แห่ง มูลค่า 42,800,000 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ครอบคลุมการต้านโดรนของฝั่งกัมพูชาตลอดแนวชายแดนประมาณ 120 กิโลเมตร (ซึ่งอาจจะยังไม่พอ) แต่จะสามารถป้องกันไม่ให้โดรนเขมรเข้ามาในประเทศไทยได้โดยง่าย
รวมมูลค่าในการจัดทำทั้ง 3 รายการทั้งสิ้น 74,365,000 บาท ทำให้มีเงินเหลือจากการบริจาคอีกประมาณ 17,235,000 บาท
อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งที่เราเห็นว่าสิ่งที่กองทัพภาคที่ 2 ยังขาดอยู่ คือ

1. โดรนโลเกเตอร์ เพื่อทราบพิกัดคนบังคับโดรนลาดตระเวนและโดรนทิ้งระเบิด หรือโดรนกามิกาเซ่จากฝั่งกัมพูชา เพื่อให้กองทัพภาคที่ 2 สามารถโจมตีกลับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทราบตำแหน่งผู้ที่บังคับรีโมตสายลับเขมรที่ใช้โดรนสอดแนมในประเทศไทยจำนวนมาก เพื่อที่จะได้ทำการจับกุม และสืบเส้นเงิน และทำลายขบวนการนี้ต่อไปให้เร็วที่สุด
ซึ่งหากมีมากพอเราหวังว่าควรจะมีเครื่องมือนี้ทุกอำเภอในหลายจังหวัดตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อขจัดสายลับกัมพูชาในประเทศไทยให้เร็วที่สุด

2. ปืนแอนตี้โดรน เพื่อหยุดยั้งการที่โดรนเข้ามาสอดแนมในประเทศไทยแล้ว และหยุดยั้งโดรนเขมรหลายสิบลำที่มีการเคลื่อนไปสำรวจในสถานที่สำคัญของกองทัพ และพลเรือนไทย อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเป็นการพัฒนาทำร้ายบุคคลสำคัญในประเทศไทยได้ด้วย ซึ่งเรายังมีปืนแอนตี้โดรนน้อยมาก เราจึงเพิ่งดำเนินการสั่งซื้อปืนแอนตี้โดรนไป 2 เครื่อง (กระบอก) นำเข้าจากต่างประเทศ มูลค่า 6,420,000 บาท ตามคำเรียกร้องของทหารหน้างานที่ต้องการใช้ด่วน
สองสิ่งข้างต้นคือความจำเป็นล่าสุดที่ต้องดำเนินการ ดังนั้นงบประมาณจึงเหลือเพียง 10,815,000 บาท ซึ่งไม่น่าจะพอสำหรับครอบคลุมทุกพื้นที่ได้

จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นเราจึงจะยังเปิดการรับบริจาคต่อไปจนถึงเวลา 24.00 น.ของคืนนี้ คือคืนวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 โดยหลังจากนี้เงินบริจาคมีเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเสริมความเข้มแข็งและเพิ่มความปลอดภัยให้ทหารได้มากขึ้นตามยอดบริจาค
โดยท่านที่สนใจสามารถเข้าร่วมบริจาคโครงการเพื่อจัดซื้อโดรนพิเศษทิ้งระเบิดของไทย โดรนลาดตระเวนไทย และแอนตี้โดรนไทย ให้กับกองทัพภาคที่สอง ได้ที่

บัญชีออมทรัพย์ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 0082181999 (โปรดระวังมิจฉาชีพ ไม่มีสแกนคิวอาร์โค้ด หรือกดลิงก์บัญชีใดๆ เด็ดขาด)

โดยเงินทุกบาทของทุกท่านจะเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประชาชนที่สนับสนุนกองทัพในการปกป้องอธิปไตย และทำให้ทหารมีความปลอดภัย อย่างน่าภาคภูมิใจสืบไป

ด้วยจิตคารวะและกราบขอบพระคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
1 สิงหาคม 2568
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1279560386870992&id=100044511276276


กำลังโหลดความคิดเห็น