ทบ.นำเอกอัครราชทูต อุปทูต ผู้แทน รวม 11 ประเทศ และผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่พิสูจน์ ทหารกัมพูชายิงพลเรือน โจมตีโรงเรียน โรงพยาบาล ปั๊มมน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ พังยับ
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 68 ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 (บน.6) ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก (ศปส.ทบ.) นำคณะผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ และสื่อมวลชนสังเกตการณ์พื้นที่พลเรือน โรงพยาบาล ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ได้รับความเสียหาย การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา
จากนั้นเดินทางไปพื้นที่ที่ทหารกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อ สถานีบริการน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทำให้ประชาชนคนไทยเสียชีวิต 8 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 7-8 ขวบ บาดเจ็บจำนวน 10 คน
และเดินทางต่อไปยัง ร.ร.ภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย เพื่อสังเกตการณ์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย และเดินทางไปยัง รพ.สต.บ้านชำเม็ง ต.เสาธงชัย สังเกตการณ์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังศูนย์พักพิง วิทยาลัยเทคโนโลยีกันทรลักษ์
สำหรับเอกอัครราชทูต 3 ประเทศ : บรูไน, ญี่ปุ่น, เมียนมา
ระดับอุปทูต 3 ประเทศ : มาเลเซีย, สปป. ลาว, อินโดนีเซีย,
ผู้แทนทางการทูตระดับต่างๆ 5 ประเทศ สหรัฐฯ, สิงคโปร์, จีน, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์
รวม 11 ประเทศ
ผู้ช่วยทูตทหาร รวม 23 ประเทศ
1. จีน
2. มาเลเซีย
3. ปากีสถาน
4. เกาหลีใต้
5. รัสเซีย
6. สิงคโปร์
7. เยอรมนี
8. อินเดีย
9. ลาว
10. แคนาดา
11. ฝรั่งเศส
12. สหรัฐอเมริกา
13. ฟิลิปปินส์
14. ญี่ปุ่น
15. เวียดนาม
16. อิตาลี
17. เนเธอร์แลนด์
18. อินโดนีเซีย
19. สวีเดน
20. สวิตเซอร์แลนด์
21. บรูไน
22. ตุรกี
23. สหราชอาณาจักร
ด้านสื่อต่างประเทศที่ลงพื้นที่ครั้งนี้มีทั้งหมด 23 สำนักข่าว ได้แก่
1 AFP ฝรั่งเศส
2 Al Jazeera
3 AP
4 CMG
5 CNA สิงคโปร์
6 CNN
7 EPA เยอรมัน
8 Getty Images
9 Hans Lucas
10 Jiji Press
11 Kyodo News
12 Mainichi newspapers
13 NHK For ASIA
14 Nikkei
15 Phoenix TV
16 Radio Radicale
17 Reuters
18 TBS
19 The Yomiuri Shimbun
20 TV ASAHI
21 VOA
22 Xinhua
23 Zuma Press
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ว่า วันนี้ก็เป็นการพาเอกอัครราชทูต อุปทูต ทูตทหาร สื่อต่างประเทศ รวมทั้งสื่อไทยในพื้นที่ รวมเกือบ 200 คนแยกกันเดินทางไปก่อน วันนี้วัตถุประสงค์การพาไปดูพื้นที่ จ.ศรีสะเกษดูเรื่องหลักๆ คือผลกระทบจากการใช้อาวุธทหารกัมพูชามาที่เป้าหมายพลเรือน ได้แก่ โรงพยาบาล โรงเรียน มีปั๊มน้ำมันในร้านสะดวกซื้อ และปิดท้ายไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวว่ามีประชาชนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบขนาดไหน เอกอัคราชทูต อุปทูต ทูตทหาร และสื่อต่างประเทศจะได้เห็น จะเป็นโอกาสดีที่จะให้ผู้ที่ไปในวันนี้ได้สื่อสารไปในระดับสากล
‘เป้าหมายหลักของเราเน้นเรื่องของข้อเท็จจริง เราอาจจะไม่เหมือนทั้งฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะสถานที่หรือจุดที่เราไปทั้งหมดนั้นเป็นจุดเกิดเหตุที่เกิดขึ้นจริงๆ แต่ละจุดเหล่านั้นค่อนข้างห่างจากพื้นที่การสู้รบเป็นหลายสิบกิโลเมตร โดยต่างประเทศที่ไปสังเกตดูทุกคนก็ยังพูดถึงกองทัพบกที่ได้ออกมาชี้แจงได้ให้กำลังใจกันเป็นการส่วนตัว ว่าเราสามารถตอบสนองต่อข่าวได้เร็วมาก ทุกคนน่าจะมีความเห็นตรงกันในเรื่องนี้‘ โฆษก ทบ.กล่าว
ทั้งนี้ คณะจะเดินทางไปที่ มณฑลทหารบกที่22(มทบ.22) ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ. วารินชำราบ,จ.อุบลราชธานี เพื่อฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา
จากนั้นจะลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย จุดร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กัทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ถูกทหารกัมพูชาใช้เครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 (BM-21) ยิงตกใส่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 รายและบาดเจ็บ 10 ราย จากนั้น จะเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย สังเกตการณ์พื้นที่ได้รับความเสียหาย
จากนั้น ไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง ที่ได้รับความเสียหายจากจากกระสุนปืนใหญ่ทหารกัมพูชา ทำให้ต้องสั่งอพยพแพทย์และผู้ป่วยไปที่ที่ปลอดภัย
โดย รพ.สต.ซำเม็งได้รับความเสียหายหนักปัจุบันไม่สามารถเปิดให้บริการได้ และพาคณะไปเยี่ยมประชาชนที่ศูนย์พักพิง อ.กัทรลักษณ์ เพื่อไปดูความเป็นอยู่หลังได้รับความเดือดร้อนจากที่กัมพูชายิงปืนใหญ่ และเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 (BM-21) เข้ามาในพื้นที่พลเรือนทำให้ต้องอพยพมาอยู่ใมนพื้นที่ปลอดภัย