ทบ.แจงปมทหารไทยยึดปราสาทตาควายไม่ 100% ไม่ใช่ตัวชี้วัดแพ้ชนะ แต่ได้พื้นที่มากกว่าก่อนปะทะ ยอมรับยึดเนิน 350 จุดสูงข่มไม่ได้ เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิงหากเคลื่อนกำลังไปตัวปราสาท เผยในส่วนของ โฆษก ทบ.ไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาลก่อนเจรจาหยุดยิงถึงสถานการณ์หน้างาน ด้านกองทัพภาคที่ 2 แจงทั้งสองฝ่ายวางกำลังคนละด้านห่างกัน 50 เมตร
จากกรณีนักข่าวชาวกัมพูชาโพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กพร้อมข้อความว่า ปราสาทตาควาย 30 ก.ค.68 ในทำนองว่าเขมรยึดปราสาทตาควายได้แล้วนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้เปิดแถลงข่าว เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น.วันนี้(31 ก.ค.) ว่า สำหรับพื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียงปราสาทตาควายที่เดียวที่มีข้อจำกัด หากจะพูดถึงการควบคุมพื้นที่เราสามารถควบคุมได้ตามแผน ตามเป้าหมายทางการทหารที่ได้วางไว้
โดยพื้นที่ประสาทตาควาย ถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาก่อนถึงเวลาหยุดยิง ยอมรับว่า ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะ ซึ่งจะเห็นว่าปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง ซึ่งลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควายจะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญทางการทหารไม่ใช่ตัวประสาทตาควาย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ
แต่เดิมหากเราวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย จะเป็นความไม่ปลอดภัยในเรื่องของการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการคุมพื้นที่
สำหรับห้วงสุดท้ายสำหรับการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมายจุดสูงข่ม คือ เนิน 350 ซึ่งอาจจะมองว่า อยู่ในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีให้เราไม่เพียงพอ ซึ่งอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวมด้วยอาวุธ ทั้งนี้ เนิน 350 เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา ซึ่งเขาใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาที่ปราสาทตาควายทำให้เราไม่สามารถวางกำลังประจำภายในปราสาทตาควายได้เพราะจะกลายเป็นเป้าหมายนิ่ง และมีความอ่อนแอไม่เหมือนกับเนิน 350
ลักษณะภูมิประเทศของปราสาทตาควายจึงแตกต่างกับจุดอื่น หากเราเคลื่อนกำลังผลีผล่ามจะโดนอาวุธยิงสนับสนุนก็ คือ BM-21 พร้อมจู่โจมเราอยู่แล้ว และในห้วงเวลาสุดท้ายเรามีความพยายามที่จะยึดเนิน 350 และปราสาทตาควาย ไปด้วยพร้อมกัน พยายามเข้าสู่ 2 ที่หมาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับสนามทุ่นระเบิด ที่ กัมพูชาวางไว้ ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แต่สาหัส จำนวน 1 นาย แต่การเข้าสู่ปราสาทตาควายในห้วงเวลาสุดท้ายถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรายอมรับว่า การบาดเจ็บจากสนามทุ่นระเบิดนั้น รั้งหน่วงในการที่จะลุกคืบในขั้นสุดท้ายของเรา ซึ่งเราต้องพยายามสร้างสมดุลภารกิจสุดท้ายกับขวัญและกำลังใจของทหาร ความปลอดภัยควบคู่กันไป เมื่อถึงเวลาหยุดยิงเราสามารถควบคุมพื้นที่มากกว่าเดิม เพียงแต่เราไม่มีกำลังประจำที่ปราสาทตาควาย
เมื่อถามย้ำว่าเราไม่สามารถยึดประสาทตาควายได้ใช่หรือไม่ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารไม่ได้พุ่งเป้าไปที่สิ่งปลูกสร้างเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงองค์ประกอบโดยรวมด้วย ซึ่งยืนยันว่า เราได้พื้นที่เพิ่มเติม และพื้นที่ที่ได้ก็ถือว่าควบคุมตัวปราสาทได้
ขณะนี้จะเห็นได้ว่า มีทหารกัมพูชาอยู่ในตัวปราสาทไปอยู่ในขั้นตอนของการหยุดยิงแต่ไม่ได้หมายความว่า ใครที่เดินอยู่ภายในปราสาทตาควาย จะเป็นผู้แพ้ชนะ ในการต่อสู้บนพื้นที่ปราสาทตาควาย
ทั้งนี้ พล.ต.วินธัย ระบุว่า ได้เก็บรวบรวมหลักฐานกรณีทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดบริเวณโดยรอบปราสาทตาควาย เพราะละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เพราะเรามีผู้บาดเจ็บ จากสื่อสังคมออนไลน์จะเห็นว่ามีชาวกัมพูชาที่อยู่บนปราสาทตาเมืองธมและมีวัตถุระเบิด PMN-2 วางอยู่ ซึ่งไม่ใช่ชิ้นเดียว เป็นสิ่งบอกเหตุว่ามีจำนวนเยอะมาก ถือเป็นข้อมูลและองค์ประกอบหนึ่ง ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันการต่อสู้ทางการทหารคลี่คลายลงไปบ้าง แต่การต่อสู้การเมืองระหว่างประเทศต้องดำเนินการต่อซึ่งรัฐบาลกับกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่ หลักฐานข้อพิสูจน์ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้หมดแล้ว
เมื่อถามว่าก่อนเจรจาหยุดยิงรัฐบาลได้ประสานงานมากับกองทัพในฐานะที่รับผิดชอบในหน้างานว่าสามารถควบคุมพื้นที่ได้หรือไม่ก่อนที่จะไปเจรจา โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในส่วนของโฆษกกองทัพบก ไม่ได้รับข้อมูลเลย ตนรับผิดชอบเฉพาะการปฏิบัติการทางทหารของหน่วยในพื้นที่ และยืนยันว่าการปฏิบัติการในช่วงห้วงสุดท้ายเราได้ทำอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่า ทหารไม่มีความกดดันในการปฏิบัติในหน้างาน ซึ่งในภาพรวมเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ 99%
"ตัวปราสาทตาควายไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์ที่เราต้องการเพราะอยู่ต่ำกว่าเนิน 350 เราไปยืนอยู่ที่ตัวปราสาทตาควาย ไม่ได้หมายความว่าเราชนะ แต่ต้องไปดูพื้นที่ที่เราควบคุมได้ว่าจะมีการใช้ประโยชน์อย่างไร หากจับที่สิ่งปลูกสร้างก็จะมองว่าทหารไทยยึดไม่ได้แต่หากมองในแง่การทหารเหล่าควบคุมพื้นที่ได้มากกว่าที่เราเคยอยู่เดิม
เมื่อถามว่ามีสื่อออนไลน์ออกมาดูแคลนทหารไทยที่ต้องสูญเสียปราสาทตาควายไปจึงอยากให้กองทัพบกพูดถึงความตั้งใจของทหารไทยที่จะปกป้องดินแดนตรงนี้ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตนว่าพี่น้องประชาชนคนส่วนใหญ่ ได้เห็นว่าสิ่งที่กองทัพไทยทำดีที่สุด และเราไม่เคยทำอะไรให้มีความเคลือบแคลงใจในสิ่งที่เรากำลังปฏิบัติและสิ่งที่เรากำลังพยายาม ตนเชื่อว่าอาจจะมีส่วนน้อย แต่ไม่ได้มองว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องไม่ดี เรายังสามารถเพิ่มเติมและเสริมข้อมูลให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เราให้หน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานภาคพลเรือนรวมถึงสื่อมวลชน และขอเรียนว่า ตนให้ข้อมูลการปฏิบัติในห้วงเวลาสุดท้าย ตนคิดว่า เราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุด
เมื่อถามถึงสาเหตุการเสียปราสาทตาควายเพราะเรายืดเวลาหยุดยิงออกไป เราอยากหยุดยิงในเวลา 18:00 น แต่ทางกัมพูชาขอให้หยุดยิงในเวลา 24:00 น. ทำให้เราไม่สามารถเสริมกำลังไปที่ปราสาทตาควายได้ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่มีข้อมูล และรายละเอียดที่ชัดเจนแบบนั้น
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ปฏิเสธข่าวที่ว่าไทยสูญเสียการควบคุมปราสาทตาควายให้แก่กัมพูชาไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่าทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชายังไม่มีฝ่ายใดยึดครองปราสาทดังกล่าวได้ เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลอยู่ในขณะนี้ ทำให้ทหารของทั้งสองฝ่ายควบคุมพื้นที่คนละด้านของโบราณสถาน ซึ่งฝ่ายไทยยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงและเคารพกติกาสากลอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการดำเนินการทางทหารในพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม
ด้านกองทัพภาคที่ 2 แถลงว่า เนื่องจากมีการหยุดยิงก่อน จึงยังไม่สามารถยึดพื้นที่เนิน 350 ของปราสาทตาควายได้ บริเวณตัวปราสาทยังคงมีกำลังของทั้งสองฝ่ายอยู่ในพื้นที่ ควบคุมพื้นที่คนละด้านของโบราณสถานห่างกัน 50 เมตร