วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึงข้อมูลข้อเท็จจริงการสู้รบบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาซึ่งมีข้อตกลงหยุดยิงตั้งแต่เวลา 24.00 น.ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า "ข้อเท็จจริงนั้นทหารไทยเราทำดีที่สุดแล้ว สละชีพ สละขากันไปหลายนาย เพราะเขมรวางกับระเบิดล้อมปราสาท และทหารไทยอยู่ในที่ต่ำกว่า
นักข่าวกัมพูชาเข้าพื้นที่ปราสาทตาควาย 30 ก.ค. 2568 วันที่กัมพูชาพา ผช.ทูตทหาร และนักข่าวลงหลายพื้นที่ยืนยันว่า ทหารเขมรยึดตัวปราสาทตาควายได้ แม้ทหารไทยจะพยายามเข้ายึดคืนตลอดการสู้รบ แต่ทหารเขมรวางกับระเบิดป้องกัน ไว้ทหารไทยจึงเหยียบกับระเบิดกันหลายนาย อีกทั้งชัยภูมิไทยเราเสียเปรียบเพราะฝ่ายไทยอยู่ในที่ต่ำกว่า เขมรอยู่ที่สูงกว่า
แม้ทหารไทยจะพยายามเข้าไปยึดคืนในหลายทางแต่ก็เจอฐานเขมรวางกับระเบิดดักไว้รอบ แม้ว่า F-16 จะระดมทิ้งระเบิด แต่ไม่ได้ทิ้งใส่ตัวปราสาท แต่ทิ้งระเบิดลงด้านนอก แต่ตัวปราสาทยังกำบังระเบิดได้ดี หลังแนวทหารเขมรก็สูญเสียไม่น้อย" วาสนาระบุ และกล่าวเพิ่มเติมว่า
"เบื้องหลัง สมรภูมิปราสาทตาควาย ทหารไทยเราทำดีที่สุดแล้ว สละชีพ เดินเข้า Killing Zone ด้วยความกล้าหาญ เพื่อยึดคืนปราสาทตาควายคืนมาให้ได้!!"
นอกจากนี้ น.ส.วาสนายังกล่าวในคลิปที่เผยแพร่ทางยูทูบ "สมรภูมิ “ตาควาย” สุดโหด! F-16 เอาไม่อยู่ ทหารเขมรยึดปราสาท วางกับระเบิด-ถล่ม ทหารไทยสละชีพ เนิน 350 เดือด >> https://www.youtube.com/watch?v=m0dfs1h2wxE" ด้วยว่า ที่สมรภูมิปราสาทตาควายนั้นเป็นจุดที่ทหารไทยสูญเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บมากที่สุด แต่เนื่องจากทหารกัมพูชาอยู่ในชัยภูมิที่เหนือกว่า ทำให้ทหารไทยไม่สามารถยึดคืนมาได้ ทำได้เพียงวางกำลังคุมพื้นที่อยู่นอกตัวปราสาท
อนึ่ง เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกด้านความมั่นคงของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้แถลงสรุปสถานการณ์พื้นที่การปะทะ ข้อมูลเมื่อ 06.00 น. อ้างว่ากองทัพไทยสามารถควบคุมไว้ได้ 11 พื้นที่ด้วยกันในเวลา 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นรวมถึงปราสาทตาควายด้วย
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ขณะนี้สื่อมวลชนกำลังรอการชี้แจงจากกองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2 ด้วย
อนึ่ง รูปที่ น.ส.วาสนานำมาโพสต์นั้น หลายฝ่ายทักท้วงว่าเป็นภาพเก่าเมื่อปี 2554