กัมพูชาอ้างไทยทิ้งระเบิด MK-84! กองทัพอากาศไทยโต้เดือด ยันเป็นระเบิดเก่าสมัยสงครามเวียดนาม ไม่ใช่ของไทยแน่นอน โฆษกรัฐบาลไทยแฉยับ "กัมพูชาโกหกอะไร" พร้อมตั้งคำถามถึงเจตนาบิดเบือนข้อมูล!
จากกรณีที่นายแฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าพบระเบิดชนิด MK-84 ขนาด 1 ตัน ความยาว 3.5 เมตร ซึ่งถูกกองทัพอากาศไทยทิ้งใส่หมู่บ้านในกัมพูชาแต่ไม่ระเบิด และอยู่ระหว่างการเก็บกู้
ล่าสุดวันนี้ (31 ก.ค.) โฆษกกองทัพอากาศไทยและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกมาชี้แจงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมตั้งคำถามถึงเจตนาของกัมพูชา
พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า จากการตรวจสอบภาพระเบิด MK-84 ที่เผยแพร่โดยนายแฮง รัตนา พบว่าระเบิดดังกล่าวอยู่ในสภาพเก่า ขึ้นสนิม และมีลักษณะคล้ายถูกขุดขึ้นมาจากใต้ที่พักอาศัยของประชาชน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นระเบิดที่เกิดจากปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพอากาศไทยในช่วงที่ผ่านมา
"ดูจากสภาพที่ขึ้นสนิมไม่ใช่ของกองทัพอากาศไทย" พลอากาศโท ประภาสกล่าว
"เนื่องจากลูกระเบิดที่กองทัพอากาศใช้มีสภาพใหม่และสมบูรณ์ ไม่เป็นสนิมขนาดนั้น ดูจากเส้นรอบวงโดยประมาณและความยาวคาดว่าเป็นลูกระเบิดอากาศขนาด 2,000 ปอนด์แบบตะวันตกที่มีใช้ทั่วไป สภาพความลึก และวางขนานกับพื้น ไม่เหมือนทิ้งจากเครื่องบิน"
ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สื่อกัมพูชาหลายสำนักได้รายงานอ้างคำกล่าวของนายเฮง รัตนา เมื่อวันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2568 ว่าเจ้าหน้าที่ของ CMAC กำลังจัดการกับระเบิด MK-84 ซึ่งถูกทิ้งลงมาโดยเครื่องบินขับไล่ F-16 หรือเครื่องกริพเพนของไทย นายจิรายุกล่าวยืนยันว่า
"เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น จนเราต้องตั้งคำถามทุกวันว่า วันนี้ 'กัมพูชาโกหกอะไร…'"
พร้อมชี้แจงว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพระเบิดเก่าที่ขุดพบซึ่งสหรัฐฯ ทิ้งใส่กองกำลังเวียดนามเหนือและเวียดกงในกัมพูชา สมัยสงครามเวียดนาม ช่วงปี ค.ศ. 1970-1973 แต่กัมพูชากลับนำมาบิดเบือนว่าเป็นระเบิดที่เครื่องบิน F-16 ของไทยทิ้งใส่
นอกจากนี้ นายจิรายุยังตั้งข้อสังเกตว่า จากภาพที่นายเฮงเผยแพร่ ระเบิดดังกล่าวดูเป็นระเบิดโบราณเก่าคร่ำครึ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นระเบิดที่เพิ่งถูกทิ้งลงมา และหากเป็นระเบิดที่เพิ่งถูกทิ้งลงมาย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดระเบิดขึ้นได้ การเก็บกู้จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก แต่ในภาพพบว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเก็บกู้ใส่เพียงชุดธรรมดาเท่านั้น "ทำอย่างกับเดินไปดูพิพิธภัณฑ์สงครามของคณะเด็กและเยาวชน จึงแปลกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่โพสต์ข้อมูลโกหกวกไปวนมาเช่นนี้" นายจิรายุกล่าวทิ้งท้าย พร้อมเสนอแนะให้ผู้นำกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา "หันไปซดน้ำขิงสักถ้วยก่อนโกหก"
