นักวิชาการ มธ.เผยกับสื่อมาเลเซีย ไทยและกัมพูชากำลังประสบภาวะวิกฤตข่าวปลอมและการคาดเดาสถานการณ์ เกิดความตึงเครียดแก่ประชาชนระหว่างสองประเทศ แนะรัฐบาลทั้งสองประเทศเตรียมข้อมูลเชิงรุก และทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มลบเนื้อหาอันตรายโดยเร็ว อีกทั้งตั้งเครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริง สื่อต้องนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลาง ถูกต้อง และทันท่วงที
วันนี้ (28 ก.ค.) รศ.ดร.ชัยวัฒน์ มีสันฐาน ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ให้สัมภาษณ์แก่ สำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซีย เบอร์นามา (BERNAMA) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 ก.ค.) ระบุว่า การจัดการข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำระหว่างกรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ถือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเผยแพร่ข่าวปลอมและการคาดเดา ที่อาจทำให้สถานการณ์ปัจจุบันเลวร้ายลง เพราะข้อมูลเท็จเมื่อแพร่ก,ระจายผ่านโซเชียลมีเดียในช่วงวิกฤต มักก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
แม้การเข้าถึงข้อมูลบนโซเชียลมีเดียไม่ควรถูกจำกัด แต่ต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวัง พร้อมเสนอให้รัฐบาลทั้งสองประเทศจำเป็นต้องจัดเตรียมข้อมูลสาธารณะเชิงรุก เพื่อต่อต้านเรื่องเล่าที่เป็นเท็จ เสริมสร้างความรู้ด้านสื่อในหมู่ประชาชน และทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อลบเนื้อหาที่เป็นอันตรายออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ยังเสนอให้มีการจัดตั้งเครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชน องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับข้อมูลที่ผิดพลาด นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงบทบาทของสื่อมวลชนในท้องถิ่นและสื่อต่างประเทศในการนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลาง ถูกต้อง และทันท่วงที
สอดคล้องกับ ผศ.โชคชัย วงษ์ตานี อาจารย์ประจำสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) กล่าวถึงความสำคัญของการสร้างความยืดหยุ่นของสังคมในการต่อต้านการจัดการข้อมูล โดยเสนอว่าทั้งสองฝ่ายต้องหยุดการใช้โซเชียลมีเดียในการปลุกปั่นความเกลียดชังหรือความโกรธแค้นในหมู่ประชาชนของตน แม้จะไม่สามารถปิดกั้นโซเชียลมีเดียได้ทั้งหมด แต่ควรใช้เป็นแพลตฟอร์มเชิงบวกเพื่อช่วยยุติความขัดแย้ง
สำนักข่าวเบอร์นามา อ้างว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ก.ค.) ไทยและกัมพูชาได้ออกมาปฏิเ%สธรายงานที่อ้างว่ากองกำลังทหารไทยสามารถยีดครองปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งของข้อพิพาทพรมแดนที่ยังคงดำเนินอยู่ แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีรายงานข่าวไวรัลทางโซเชียลมีเดียที่อ้างแหล่งข่าวทางทหารของไทยว่า กองทัพไทยสามารถยึดปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระได้สำเร็จ
ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 ก.ค.) รัฐบาลไทยเรียกร้องให้สื่อมวลชนต่างประเทศตรวจสอบความถูกต้องของภาพและข้อมูลก่อนที่จะเผยแพร่รายงานที่เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดบริเวณชายแดนที่ยังดำเนินอยู่ นอกจากนี้ยังเตือนด้วยว่า การรายงานข่าวที่ไม่ถูกต้องหรือให้ข้อมูลที่เกิดความเข้าใจผิด อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกและนำไปสู่ความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงในระดับนานาชาติได้
สำหรับเบอร์นามา เป็นสำนักข่าวแห่งชาติของมาเลเซีย ให้บริการข่าวในภาษามาเลย์ อังกฤษ จีน ทมิฬ และอาหรับ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซีย มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย