การลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา มี 3 เหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่กลับทำตัวเป็นภาระให้ผู้เกี่ยวข้อง
เหตุการณ์แรก เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ของ น.ส.แพทองธาร โพสต์ภาพและข้อความ การลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ และพบประชาชนที่ศูนย์อพยพชั่วคราว พบว่าระบุสถานที่ชัดเจนว่าอยู่ตรงไหน ทั้งที่ทหารขอความร่วมมือห้ามระบุพิกัดและตำแหน่งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเวลานี้ เพราะอาจจะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือโจมตีผู้บริสุทธิ์
อ่านข่าว ทำตัวราวไส้ศึก! ชาวเน็ตด่าขรม แพทองธารลงพื้นที่ โพสต์เฟซบุ๊กบอกสถานที่ชัดเจน
เหตุการณ์ที่สอง ชาวบ้านอำเภอกาบเชิง พยายามขอสื่อสารกับนายกฯ ปรากฏว่าเจ้าตัวหันหลังไปรับไหว้ข้าราชการแล้วหนีเข้าไปด้านใน ชาวบ้านเผยเจ็บปวดกับการกระทำ ล่าช้ามาก คนไทยต้องไม่ตายฟรี แต่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะเป็นแค่ตาสีตาสา ถึงจะอ้างว่าไม่มีผลประโยชน์แต่ประชาชนเห็นอยู่ วอนคิดใหม่ทำใหม่เพื่อประเทศชาติและประชาชน นอกจากนี้ ระหว่างสัมภาษณ์ ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) หรือนักรบหมวกเขียว ไม่รู้มาจากหน่วยไหน เข้ามาดันไม่ให้เข้าใกล้ ทำให้กลุ่มผู้สื่อข่าวกล่าวว่า "พี่อย่ามาดัน พี่ใจเย็นๆ เขาจบแล้วพี่ เขาจบแล้ว พี่ใจเย็นๆ"
อ่านข่าว สันดานลูกคุณหนู! แพทองธารเมินชาวบ้านขอสื่อสารความเจ็บปวด ถูกคุ้มกันไม่ให้เข้าใกล้
เหตุการณ์ที่สาม หญิงสาวเผยนาทีระทึก พาแม่อาการหนักรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเอง เนื่องจากเกรงใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังช่วยผู้ป่วยคนอื่นอพยพในช่วงสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา แต่เมื่อขับรถใกล้ถึงหน้าห้องฉุกเฉิน กลับถูกสั่งให้ “หยุดรอ” เพราะมีอดีตนายกรัฐมนตรีรายหนึ่งเดินทางมาเยี่ยมและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
อ่านข่าว วินาทีชีวิตต้องรอ! ลูกสาวพาแม่ป่วยฉุกเฉินเข้า รพ. แต่ถูกสั่งให้รอ “แพทองธาร” ขึ้นรถก่อน (ชมคลิป)
อนึ่ง น.ส.แพทองธารถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เมื่อวันที่ 1 ก.ค. หลังมีมติเอกฉันท์รับคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 36 คน กล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กรณีปรากฏคลิปเสียง ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวหาว่ากองทัพและ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับตน และว่า อังเคิลต้องการอะไรบอกมา เดี๋ยวหลานจะจัดการให้
อย่างไรก็ตาม น.ส.แพทองธารยังคงปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ รมว.วัฒนธรรม
