“จักรภพ” ย้ำทั่วโลกเข้าใจ ไทยยืนหยัดยึดหลักความมั่นคงชาติ ตอบโต้กัมพูชาอย่างเหมาะสม แจง “ทรัมป์” ยกหูคุย “ภูมิธรรม” บรรยากาศดี เน้นเรื่องยุติความรุนแรง มากกว่าเจรจาเงื่อนไขภาษี ขณะที่น้ำใจคนไทยหลั่งไหลช่วยชายแดน
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ปรึกษาเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้ว่าเหตุการณ์ความก้าวร้าวจากกัมพูชาในคืนที่ผ่านมาได้ถึงจุดสิ้นสุดของความอดกลั้น และรัฐบาลไทยมีความชอบธรรมโดยสมบูรณ์ในการใช้กำลังโต้ตอบอย่างเหมาะสมเพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตของประชาชน และวันนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าการดำเนินการใดๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เป็นไปเพื่อป้องกันตนเองอย่างถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันประเทศไทยก็มีความพร้อมในด้านยุทธศาสตร์อยู่ ประกอบกับมติสาธารณะระหว่างประเทศจึงทำให้ทุกอย่างสุกงอมเต็มที่ นายจักรภพกล่าวอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย โดยทรัมป์ขอให้ประเทศไทยและกัมพูชายุติการปะทะโดยทันที ซึ่งการเจรจาเป็นไปอย่างจริงใจและนุ่มนวล แม้ภายหลังทรัมป์จะโพสต์ในลักษณะที่ดูเหมือนเชื่อมโยงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาเข้ากับประเด็นการเจรจาภาษี แต่สาระสำคัญของการพูดคุยคือการขอความร่วมมือเพื่อยุติความรุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจ “เรื่องนี้มันข้ามเรื่องอธิปไตยไปแล้ว แต่มันเป็นเรื่องของการละเมิดดินแดนที่เราต้องโต้ตอบอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้กระทำผิดคือกัมพูชาได้รับการลงโทษ ตรงนี้เป็นคนละเรื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ เรามีสิทธิ์ที่จะปกป้องและเอาคืนกับชีวิตคนของเรา และความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะกัมพูชาไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น ถึงเวลาที่คนผิดต้องถูกลงโทษ” นายจักรภพกล่าว
ขณะเดียวกัน หลายประเทศแสดงเจตจำนงพร้อมเป็นตัวกลางเพื่อคลี่คลายความตึงเครียด เช่น มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยประเทศไทยยืนยันหลักการเจรจาแบบทวิภาคี เพื่อไม่ให้เกิดการขยายความขัดแย้งไปในวงกว้าง และดึงประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง “นี่ไม่ใช่แค่การปกป้องดินแดน แต่เป็นการโต้ตอบอย่างชอบธรรมต่อการละเมิดอย่างต่อเนื่องจากกัมพูชา ซึ่งไม่อาจมีข้ออ้างใดรองรับได้อีกต่อไป” ที่ปรึกษาเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมเน้นว่า
การดำเนินการทุกขั้นของไทยจะอยู่บนหลักการแห่งสติ ความระมัดระวัง และกฎหมายสากล ในอีกด้านหนึ่ง นายจักรภพได้กล่าวถึงพลังน้ำใจจากภาคประชาชน ที่หลั่งไหลช่วยเหลือทหารและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยระบุว่า สมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี และปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี ได้มอบเนื้อหมูแช่แข็งจำนวน 3,000 กิโลกรัม มูลค่า 360,000 บาท บริษัทนวัตกรรมไทย จำกัด และบริษัท รอยัล ไทย คอมมูนิตี้ จำกัด มอบไข่ไก่จำนวน 10,020 ฟอง และน้ำดื่ม 6,000 ขวด ทั้งหมดนี้ถูกส่งตรงไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของคนไทยในยามวิกฤต