“หมานำราชสีห์” แฉไอโอเร่งเคลมผลงานทัพบก หวังชิงแต้มใต้ร่มบารมี “บิ๊กปู-บิ๊กกุ้ง”

แหล่งข่าวแฉเครือข่ายไอโอจ้องปั่นกระแส ยกปฏิบัติการ “ราชสีห์” ของกองทัพเป็นผลงานผู้บังคับบัญชาระดับสูง ขณะความจริงเครือข่ายตัวเองเคยขัดขวางแผน “แม่ทัพปู-แม่ทัพกุ้ง” เต็มพิกัด แต่สถานการณ์ดันพลิกเพราะ “ฮุนเซน” เล่นใหญ่เกินคาด งานนี้เลยได้แค่เคลม ยึดพื้นที่สร้างแต้มเอง

วันนี้ (27 ก.ค.) แฟนเพจพ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคารเปิดเผยข้อมูลระบุว่า แหล่งข่าวสายความมั่นคงเปิดเผยถึงปฏิบัติการ “ราชสีห์” ซึ่งขณะนี้กลายเป็นเป้าหมายของเครือข่ายไอโอ (Information Operation) ที่พยายามสร้างภาพให้เป็นผลงานของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก โดยเฉพาะภายใต้การนำของผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบัน ทั้งที่ในความเป็นจริง เครือข่ายกลุ่มนี้เคยขัดขวางแผนยุทธศาสตร์ของ “แม่ทัพปู-แม่ทัพกุ้ง” อย่างหนักหน่วง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่พลิกผัน เมื่อ “ฮุนเซน” ผู้นำกัมพูชาเล่นใหญ่เกินคาดการณ์ จึงเปิดโอกาสให้กองทัพไทย โดยเฉพาะ “ราชสีห์” ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ไอโอที่เคยตั้งแง่จึงรีบกลับลำ แปลงสารเป็นความดีความชอบของตัวเองทันที พร้อมตั้งแคมเปญ “หมานำราชสีห์” อวดผลงานในโลกออนไลน์

ท่ามกลางกระแสอวยผ่านเพจต่างๆ ยังมีการขุดรากปัญหาเดิมย้อนกลับไปในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นเสนาธิการทหารบก โดยมีการสั่งห้ามใช้ปืนใหญ่ตอบโต้กัมพูชา ให้ใช้เพียงปืนครก จนได้รับฉายา “ยุทธ์ปืนครก” และต่อเนื่องไปถึงยุคที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและนายกรัฐมนตรี

ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ พล.อ.ประยุทธ์สั่งถอนกำลังทหารที่เข้าไปช่วยนายวีระ สมความคิด ที่ถูกจับในฝั่งไทยบริเวณบ้านหนองจาน จนทำให้นายวีระถูกควบคุมตัวและจำคุกในกัมพูชาข้อหาล้ำแดน

ต่อมาในรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีคำสั่งให้กองทัพรื้อรั้วกั้นพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม เปิดช่องให้ทหารกัมพูชาเข้ามาครอบครองอย่างเปิดเผย

ในช่วง 8 ปีที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ยังต่ออายุ MOU 44 ที่ทำขึ้นสมัยรัฐบาลทักษิณ ทั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มีพระราชดำรัสให้ยึดแนวเขตทางทะเลของไทยตามมาตรฐานสากล ซึ่งต่างจากแนวที่กัมพูชาลากผ่านพื้นที่เกาะกูด

มีการปล่อยให้กัมพูชาสร้างกาสิโนในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณสายตะกู รวมถึงการสร้างกระเช้าขนอาวุธขึ้นสู่ภูมะเขือ โดยไม่มีการตอบโต้ จนล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 ต้องใช้กำลังเข้าทำลายกระเช้าและยึดอาวุธเอง

ทั้งนี้ เครือข่ายการตัดสินใจยังเกี่ยวพันกับ 2 ป. แห่ง “บูรพาพยัคฆ์” อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งมีบทบาทร่วมในช่วงเวลาดังกล่าว

ในปัจจุบันการเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์หนุนหลัง ยังคงเป็นกลไกสำคัญในการค้ำยันรัฐบาล จากกรณีคลิปเสียงระหว่าง “อุ๊งอิ๊ง” กับ “ฮุนเซน” พร้อมส่งคนในเครือข่ายอย่าง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิช เข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อผลักดันนโยบายเปิดชายแดน จนนำไปสู่คำเปรียบเปรย “หมานำราชสีห์”

ขณะที่ในอนาคต หากศาลมีคำพิพากษาให้ “อุ๊งอิ๊ง” และนายชัยเกษม ตัดสิทธิทางการเมือง ยังคงมีโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยมี รมช.กลาโหม รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ และแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งล้วนเป็นเครือข่ายเดียวกันคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

แหล่งข่าวระบุว่าสัปดาห์หน้าอาจมีการเปิดคลิปชุดใหญ่ ที่เปิดโปงขบวนการเบื้องหลัง ทั้งฝ่าย “แดง” และ “ตู่” ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ในกองทัพและการเมืองสั่นสะเทือนได้อีกระลอก