นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า ออกมาโพสต์ข้อความเตือนภัยประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับ "Perfect Storm" ครั้งใหญ่กว่าปี 2540 หลังมีรายงาน "ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งจดหมายแจ้งเตรียมรีดภาษีนำเข้าจากไทย 36% เท่ากัมพูชา ซึ่งจะสร้างความเสียหาย "นับแสนล้านบาท" ให้แก่ประเทศ พร้อมสับการทำงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่า "แทบไม่มีมืออาชีพ" พร้อมติงนโยบายหลายอย่างที่ "ไร้ทิศทาง" และ "ล้มเหลว"
วันนี้ (8 ก.ค.) นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความระบุว่า "ไทยเจอ Perfect Storm" หลังสหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีนำเข้า 36% เท่ากัมพูชา ซึ่งจะสร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาท แม้จะเปิดช่องให้เจรจาเพิ่มเติมได้
นายพงศ์พรหมวิจารณ์ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าล้มเหลวในทุกด้าน โดยอ้างถึงงานวิจัยที่ระบุว่าการเก็บภาษีนำเข้า 36% จะส่งผลกระทบต่อไทยอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปีนี้จะลดลงเหลือเพียง 500,000 คัน หรือต่ำกว่านั้น ส่งผลให้ดีลเลอร์รถยนต์ปิดกิจการกว่า 50-80 แห่ง และกระทบการจ้างงานในอุตสาหกรรมยานยนต์หลายหมื่นตำแหน่ง
ด้านภาคการท่องเที่ยวก็ประสบปัญหาอย่างหนัก โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติวิจารณ์ว่าไทย "แพง ฉ้อโกง คุณภาพตก ขยะท่วม" และภาพลักษณ์ประเทศเสียหายจากกลุ่ม "scammer"
นายพงศ์พรหมยังตำหนิการทำงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่าขาด "มืออาชีพ" รัฐมนตรีส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ในงานที่ทำ และการบริหารประเทศอยู่บนพื้นฐานของโควตาผลประโยชน์ พร้อมยกตัวอย่างความล้มเหลวของนโยบายต่างๆ เช่น การศึกษาไทยที่ยังไร้ทิศทาง, การขาดวิสัยทัศน์ด้าน AI, การเน้นนโยบายกาสิโนและการแจกเงินโดยปราศจากนวัตกรรม, ความล้มเหลวของ EEC ที่ต่างชาติย้ายไปลงทุนในเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซียแทน, ความผิดพลาดของโครงการเที่ยวคนละครึ่ง รวมถึงปัญหาแก๊ง Scammer ที่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง
เขายังวิจารณ์พิธีต้อนรับนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงวัฒนธรรมว่ามีการ "แห่ อวย เลีย" กันเกินความจำเป็น ซึ่งแตกต่างจากผู้นำต่างชาติอย่าง Angela Merkel, Barack Obama หรือ Lee Hsien Loong โดยมองว่าสิ่งเหล่านี้สะท้อนว่านักการเมืองไทยสนใจแต่ภาพลักษณ์ ยศถาบรรดาศักดิ์ อำนาจ และผลประโยชน์ โดยไม่สนใจประชาชน ประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์
นายพงศ์พรหมสรุปว่า สถานการณ์ปัจจุบันคือ "Perfect Storm" ที่กำลังทำร้ายประชาชน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยประสบมา