xs
xsm
sm
md
lg

“ฮุนมาเนต” เล่นใหญ่ เข้าพบ “พระสุจย์” สื่อกัมพูชาบิด อยู่ไทยไม่ได้เพราะไปพูดว่าคนอีสานใต้มีบรรพบุรุษเป็นเขมร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ฮุนมาเนต” เข้าพบ “พระสุจย์” หวังให้ช่วยสั่งสอนชาวกัมพูชาตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ด้านสื่อเขมรบิดประเด็น อ้างอยู่ไทยไม่ได้เพราะไปพูดว่าคนสุรินทร์-บุรีรัมย์-ศรีสะเกษมีบรรพบุรุษเป็นเขมรแล้วคนไทยโกรธแค้นและห้ามเข้าประเทศ

สำนักข่าว Fresh news สื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.) นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เข้าพบพระสุจย์ พระสงฆ์จากประเทศไทยที่ถูกคนไทยต่อต้านอย่างหนักและขอมาอยู่อาศัยในกัมพูชา

สำนักข่าว Fresh news อ้างว่า พระสุจย์ เกิดในประเทศไทยซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเขมรโบราณ ซึ่งทั้งตัวพระสุจย์และชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นถูกเรียกว่า "เขมรเหลื่อม" (เขมรบน) สามารถพูดภาษาเขมรได้คล่อง

Fresh news อ้างอีกว่า ในช่วงที่เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย พระสุจย์กล่าวถึงบรรพบุรุษชาวเขมรผู้อยู่อาศัยจำนวนมากในภูมิภาคนี้ โดยเน้นย้ำว่าชาวไทยจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ล้วนมีเชื้อสายเขมร ความจริงทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้จุดชนวนความโกรธแค้นในหมู่ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นดินแดนของกัมพูชา ส่งผลให้พวกเขาเลือกปฏิบัติต่อพระภิกษุรูปนี้และห้ามไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีก


นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ตอบรับคำขอของพระภิกษุรูปนี้แล้วอย่างเป็นทางการ และอนุญาตให้พระภิกษุรูปนี้พำนักอยู่ในกัมพูชา หลังเดินทางจากแคนาดาถึงกัมพูชาเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568

พระสุจย์แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่น และอนุญาตให้นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน พำนักอยู่ในกัมพูชาในฐานะพลเมืองกัมพูชาต่อไปได้

ขณะที่เพจ Kampuchea Thmey Daily อ้างคำพูดของนายฮุนมาเนต ที่พูดกับพระสุจย์ ว่า นายฮุนมาเนตหวังว่าพระสุจย์จะช่วยอบรมสั่งสอนชาวกัมพูชาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

“ผมได้เข้ากราบนมัสการหลวงตาสุจย์ ผู้ที่ผมได้เชิญให้มายังราชอาณาจักรกัมพูชา และขอต้อนรับท่านอย่างอบอุ่น หวังว่าท่านจะช่วยชาวกัมพูชาในเส้นทางการศึกษาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า” นายฮุนมาเนตกล่าว


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพระสุจย์ หรือ พระมหานรินธร ปสนฺโน อายุ 60 ปี เคยสังกัดวัดป่าหนองแคร่ ต.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เป็นพระนักเทศน์สายฮาชื่อดังแห่งอีสานใต้ เคยบวชอยู่ จ.สุรินทร์หลายวัด แต่มีปัญหากับทุกวัด จนหนีไปอยู่บุรีรัมย์และโด่งดังที่นั่น หลังจากนั้นก็ไปโด้งในกัมพูชาด้วยลีลาการเทศที่ตลกโปกฮา พูดไทยปนเขมรชาวบ้านชอบ

นอกจากนี้ พระสุจย์เคยมีปัญหากับพระผู้ใหญ่ที่จังหวัดสุรินทร์ที่สั่งให้พระสุจย์ออกจากอุทยานพนมสวาย จ.สุรินทร์ เพราะไปตั้งสถานธรรมอยู่ในเขตอุทยาน พระสุจย์จึงย้ายจากสุรินทร์มาอยู่บุรีรัมย์

เมื่อเกิดเหตุขัดแย้งไทย-กัมพูชาขึ้นมา พระสุจย์ได้ไลฟ์เป็นภาษาเขมรว่า ตนเกลียดคนสุรินทร์ เพราะมีปัญหากับเขมรที่ปราสาทตาเมือนธม พร้อมบอกให้ทหารกัมพูชายิงคนสุรินทร์ให้ตายหมด

ต่อมา เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ป่าหนองแคร่ ต.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดที่หลวงตาสุจย์สังกัดอยู่ ได้ประกาศปัพพาชนียกรรม(ขับไล่) ขับพระสุจย์ออกจากวัดเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากได้ละเมิดข้อวัตรปฏิบัติเกี่ยวกับสิ่งที่พระสงฆ์พึงปฏิบัติ ในเรื่องของความสงบเรียบร้อยของวัดและศาสนา ยุยงให้พุทธศาสนิกชน อุบาสกอุบาสิกาให้เกิดความแตกแยกความสามัคคีในชุมชนและระดับประเทศ เป็นที่เสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์อย่างมาก

ทั้งนี้ พระสุจย์ ได้เดินทางถึงกัมพูชา เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค.และได้รับการต้อนรับที่สนามบินนานาชาติกรุงพนมเปญ โดยนายสุข เปญวุท รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ มาต้อนรับ เมื่อมาถึงพระสุจย์ได้ประกาศว่า ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับประเทศไทย และคาดว่าได้ประจำอยู่ที่วัดนาควัน ในเขตตวลโกก กรุงพนมเปญ




กำลังโหลดความคิดเห็น