สุดเหี้ยม! สาวระยองโพสต์เล่านาทีบีบหัวใจ "เต้าหู้" แมวสุดรัก 5 เดือน ถูกสุนัขรุมกัดดับ ก่อนเจอชายต่างด้าว "ย่างกิน" ซ้ำ ซากที่เหลือเสนอขาย 200 บาท วอนสังคมช่วยดันคดี ล่าสุด "วอชด็อก ไทยแลนด์" เข้าช่วยเหลือแล้ว
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจของตนเองที่เกิดขึ้นกับเจ้าแมวที่ชื่อ "เต้าหู้" แมวไทย-เปอร์เซียวัย 5 เดือนของเธอ ถูกสุนัขรุมกัดจนเสียชีวิต และยิ่งกว่านั้นคือซากของมันกลับถูกชายชาวกัมพูชานำไป "ย่างกิน" อย่างโหดเหี้ยม ทำให้เธอตัดสินใจนำเรื่องราวมาโพสต์เป็นอุทาหรณ์ และขอความช่วยเหลือจากสังคมให้ร่วมผลักดันคดีนี้ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย. แพรและเพื่อนได้นัดสังสรรค์กันที่บ้านเช่าในอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง หลังงานเลี้ยงจบลงช่วงเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง เธอยืนยันว่าได้ล็อกบ้านและตรวจสอบแมวทุกตัวว่าอยู่ครบ ก่อนเข้านอน
เช้าวันที่ 28 มิ.ย. เวลาประมาณ 06.30 น. เพื่อนของแพรได้ตื่นและเดินทางกลับบ้าน โดยตะโกนบอกลาโดยที่แพรไม่ได้ยินและยังไม่ตื่น เพื่อนปิดประตูกระจกบานเลื่อนไว้แต่ไม่ได้ล็อก ทำให้ "ไลอ้อน" แมวโตอีกตัวของแพร สามารถแงะประตูออกไปได้ และแมวตัวอื่นๆ รวมถึง "เต้าหู้" ก็พากันตามออกไปทั้งหมด
เมื่อแพรตื่นขึ้นมาในเวลา 07.30 น. และพบว่าเพื่อนกลับไปแล้ว รวมถึงแมวทุกตัวหายไป เธอกับเพื่อนได้รีบออกตามหา พบเพียงไลอ้อนและอัลมอนด์ ซึ่งเป็นแมวโตทั้งคู่ แต่เต้าหู้ แมววัย 5 เดือน ยังคงหายไป แม้จะช่วยกันตามหาตลอดทั้งวัน รวมถึงจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง
ในวันที่ 29 มิ.ย. แพรและเพื่อนได้ลองไปสอบถามลุง รปภ. ของหมู่บ้าน เพื่อหวังว่าจะได้รับข่าวดี แต่สิ่งที่ลุง รปภ. เล่าทำให้เธอต้องตกใจ เมื่อลุงเล่าว่าเห็นแมวของเธอ (เต้าหู้) ถูกสุนัขหลายตัวรุมกัดจนเสียชีวิตตั้งแต่เช้าวันที่ 28 มิ.ย. และได้นำร่างของมันไปวางไว้ที่กำแพงหน้าหมู่บ้าน โดยไม่ทันได้สังเกตปลอกคอที่มีเบอร์โทรศัพท์ของแพรอย่างชัดเจน ลุง รปภ. ได้ชี้แจงภายหลังว่า มีคนจีนในหมู่บ้านมาแจ้ง จึงรีบเข้าไปช่วย แต่เต้าหู้ก็เสียชีวิตแล้ว และตั้งใจจะนำไปฝัง แต่มีชายเก็บของป่าชาวกัมพูชาได้นำร่างของเต้าหู้ไปก่อน
ด้วยความหวังว่าชายคนดังกล่าวจะนำร่างของเต้าหู้ไปฝังให้ แพรและเพื่อนจึงเดินทางไปหาชายเก็บของป่าคนนั้นที่บ้าน เมื่อสอบถาม ชายคนดังกล่าวรับว่าได้นำร่างของเต้าหู้ไปจริง แต่กลับบอกว่า "โยนเข้าป่าไปแล้ว" เมื่อแพรพยายามถามย้ำถึงจุดที่โยน เพื่อจะนำร่างไปประกอบพิธีทำบุญ ชายคนดังกล่าวกลับเดินหายเข้าไปในบ้าน และกลับออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม พร้อมกับพูดว่า "สุกแล้ว" ในมือถือตะแกรงพัดลมที่มีเชือกห้อยคล้ายตะแกรงย่าง และสิ่งที่ปรากฏอยู่บนนั้นคือร่างของ "เต้าหู้ที่ถูกสับเป็นชิ้นๆ" พร้อมปลอกคอสีส้มและป้ายชื่อที่ยืนยันว่าเป็นแมวของเธอ
แพรเล่าว่าชายคนดังกล่าวยังเสนอให้เธอรับร่างเต้าหู้ไปทำบุญ แต่ต้องจ่ายเงินให้ 200 บาท ด้วยความสะเทือนใจและไม่อาจทนเห็นภาพนั้นได้ เพื่อนของเธอจึงตัดสินใจขอเพียงปลอกคอของเต้าหู้กลับมา
แพรได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาการนำสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของไปกระทำโดยมิชอบ รวมถึงแจ้งเรื่องชายชาวกัมพูชาคนดังกล่าวที่ไม่มีเอกสารประจำตัวใดๆ อย่างไรก็ตาม แพรและเพื่อนรู้สึกว่าคดีนี้อาจไม่ได้รับการสนใจมากพอจากเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น
ล่าสุด วันนี้ วันที่ 2 ก.ค. มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ (Watchdog Thailand) ได้เข้าประสานงานเพื่อช่วยเหลือในการดำเนินคดีนี้แล้ว แพรหวังว่าเรื่องราวของเต้าหู้จะเป็นอุทาหรณ์และเครื่องเตือนใจให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคน ให้ระมัดระวังดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเองอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจเช่นนี้ขึ้นอีก และขอขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาอ่านเรื่องราวของเต้าหู้ในครั้งนี้