โฆษกดีเอสไอเผยอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง “สมโภชน์” และพวก ร่วมทุจริตบริษัทตัวเอง 3.4 พันล้าน อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี ขณะที่มีข่าวอดีตผู้บริหาร EA เผ่นกบดานฮ่องกง รอคดีหมดอายุความ
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีคำสั่งรับเรื่องกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายสมโภชน์ อาหุนัย และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการและผู้บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) และบริษัทย่อยที่ EA เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ได้แก่ บริษัท อีเอ โซล่า นครสวรรค์ จำกัด และบริษัท อีเอ โซล่า ลำปาง จำกัด พร้อมด้วยนายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส เนื่องจากปรากฏหลักฐานและข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ว่าบุคคลทั้ง 3 รายได้ร่วมกันกระทำการทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ และหรือทุจริตการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ EA ผ่าน 2 บริษัทย่อยดังกล่าว เมื่อปี 2556-2558 ส่งผลให้บุคคลทั้ง 3 ได้รับผลประโยชน์ จำนวน 3,465.64 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษและได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดตามข้อกล่าวหานั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่านายสมโภชน์และพวกกำลังจะถูกออกหมายจับ ก่อนที่คดีบางส่วนจะหมดอายุความ แต่มีบิ๊กในรัฐบาลให้คำแนะนำให้เดินทางออกนอกประเทศไปก่อน ทราบว่าหลบไปตั้งหลักอยู่ที่ฮ่องกงเป็นการชั่วคราวเพื่อรอคดีหมดอายุความ ส่วนคดีที่ยังไม่หมดอายุความมีความพยายามที่จะช่วยเหลือให้ทำสำนวนอ่อนจนไม่สามารถที่จะสั่งฟ้องได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของ EA ร่วงลงมากราวรูด จากราคาเฉียด 100 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันเหลือเพียง 2.54 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้นักลงทุนกระเป๋าฉีกไปตามๆ กัน โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยบางรายถึงกับหมดเนื้อหมดตัว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า คดีของนายสมโภชน์และพวก ทางอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดไปแล้ว และขณะนี่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี สำหรับคดีหลักของคดีดังกล่าวได้รับการยืนยันว่ายังไม่หมดอายุความ ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษยังพยายามติดตามผู้ต้องหาอยู่ตลอดเวลา
