กระแสร้อนในโลกโซเชียล หลังนายกรัฐมนตรีประกาศนโยบายเร่งด่วน เตรียมนำ “กัญชา” และ “กระท่อม” กลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดอีกครั้ง ท่ามกลางข้อสงสัยถึงแรงกดดันจากธุรกิจเสียผลประโยชน์ พร้อมเสียงวิพากษ์จากประชาชนว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เร่งด่วนของประเทศ ขณะที่มีกระแสนัดชุมนุมใหญ่ขับไล่วันที่ 28 มิ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) ออกมาโพสต์ข้อความวิจารณ์นโยบายของนายกรัฐมนตรีไทยเกี่ยวกับการเร่งนำ “กัญชา” และ “พืชกระท่อม” กลับเข้าสู่สถานะ “ยาเสพติด” อีกครั้ง โดยตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่สมควรได้รับความสำคัญในเวลานี้ ทั้งนี้ “หมอเดชา” ได้ระบุข้อความว่า
"วันนี้มีข่าวจากบุคคลสองท่านที่โด่งดังจากคลิปสนทนา (ทางโทรศัพท์ข้ามประเทศ)
ภาพล่างซ้าย เป็นข่าวจากนายกรัฐมนตรีไทย กล่าวถึงนโยบายเร่งด่วน เกี่ยวกับกัญชา
ว่าจะนำกลับไปเป็นยาเสพติดอีก รวมทั้ง พืชกระท่อม ก็จะนำกลับไปเป็นยาเสพติดด้วย
ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายกรัฐมนตรีในช่วงนี้ ถึงได้รีบร้อนนำเรื่องกัญชามาจัดการ
ประชาชนนัดชุมนุมขับไล่ให้ออกจากตำแหน่งนายกฯ วันที่ 28 มิถุนายนนี้ ยังไม่รู้ตัวหรือ
ถึงไม่มีประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่ ก็ไม่น่าจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ต่อไปได้เกิน 3 เดือน
ขนาด ฮุนเซน อยู่ถึงกัมพูชา ยังกล้าให้สัมภาษณ์ไปทั่วโลก (ภาพล่างขวา) ได้อ่านหรือยัง
เวลาในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เหลือน้อยขนาดนี้ น่าจะคิดทำเรื่องที่สำคัญ และเร่งด่วน
การออกมาเร่งรีบทำเรื่องกัญชา (ซึ่งไม่ใช่เรื่องสำคัญและเร่งด่วน) มีอยู่ 2 เหตุผลเท่านั้น
เหตุผลแรก...ถูกกดดันจากผู้เสียผลประโยชน์จากกัญชา (เช่น เหล้า เบียร์ ธุรกิจยา ฯลฯ)
เพราะได้มีข้อตกลงกันไว้ ว่าจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จึงต้องรีบทำก่อนเรื่องอื่น
ส่วน "ข้อตกลง" ดังกล่าว จะมีการรับ "อะไร" จากฝ่ายที่มากดดัน หรือไม่นั้น... ผมไม่รู้
ส่วนเหตุผลที่สอง หากไม่มีการ "กดดัน" จากฝ่ายเสียผลประโยชน์ แต่เป็นการคิดทำเอง
โดยเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน ต้องทำให้ได้ ก่อนเรื่องอื่นๆ (แม้แต่เรื่องตั้งรัฐบาล)
หากเป็นเช่นนั้น เหตุผลที่สอง (สุดท้าย)... ก็เป็นไปได้แค่อย่างเดียว
นั่นคือ... เกิดจาก "ระดับสติปัญญา" ของนายกรัฐมนตรีคนนี้...
.... ซึ่งประชาชนไทยส่วนใหญ่ทราบดีว่า... อยู่ในระดับไหน"